The Rings of Power ขึ้นแท่นเป็นหนังซีรีส์ที่มีต้นทุนการสร้างต่อตอนสูงที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว ซีรี่ส์ชุดนี้ออกอากาศผ่านทาง Amazon Prime ซีซั่นแรกมีจำนวนตอนทั้งสิ้น 8 ตอนต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ตอนละ 58 ล้านเหรียญ วางเป้าหมายเอาไว้ทั้งสิ้น 5 season คาดว่าจะใช้ทุนสร้างรวมกันทั้งหมดเกิน 1,500 ล้านเหรียญ
จาก 4 ตอนแรกของ The Rings of Power ไม่ได้วางตัวเองเป็นภาคต่อของ The Rings of Power แต่อย่างใด โดยตัวเรื่องดำเนินขึ้นในยุคที่ 2 ของมิดเดิลเอิร์ธ โทลคีนเขียนเรื่องราวต่างๆ ในมิดเดิลเอิร์ธโดยแบ่งช่วงเวลาเอาไว้ทั้งหมด 4 ยุค แต่ละยุคห่างกันหลายพันปี
ในยุคที่ 2 ของมิดเดิลเอิร์ธนั้นจะเป็นเรื่องราวของเซารอนรวบรวมพวกออร์กปฏิบัติการหลังที่ที่มอร์กอธเจ้านายของมันพ่ายแพ้ แต่เซารอนก็พ่ายแพ้และหายสาบสูญไป แต่พวกเอลฟ์ก็ยังไม่เชื่อมั่นว่าเซารอนตายไปแล้วจริงๆ กาลาเดรียลยอดนักรบหญิงของเอล์ฟจึงพากองทหารไล่ตามหาร่องรอยของเซารอนไปทุกทิศทาง เรื่องราวของ The Rings of Power เกิดขึ้นในยุคนี้
ส่วนยุคที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อเซารอนหมดอำนาจ และอิซิดูร์ผู้นำของพวกมนุษย์เก็บแหวนเอกธำมรงค์หรือ The One Ring เอาไว้กับตัวจนถูกครอบงำและเสียชีวิตไป จากนั้นแหวนเอกธำมรงค์ก็ตกไปอยู่ในมือของกอลลัม
ส่วนยุคที่ 4 ของมิดเดิลเอิร์ธเกิดขึ้นในยุคของหนัง The Lord of the Rings เมื่อโฟรโดนำขบวนพันธมิตรแห่งวงแหวนเดินทางไปที่มอร์ดอร์ เพื่อที่จะเอาแหวนเอกธำมรงค์เผาทำลายในเปลวไฟแห่งมอร์ดอร์
The Rings of Power ไม่ได้มีปีเตอร์ แจ็คสันมีเอี่ยวด้วย แต่ตัวหนังก็ย้อนไปใช้การออกแบบและเพลงประกอบจากเพลงธีมของเดิมเพื่อเชื่อมโยงถึงกัน สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในเรื่องนี้คือหลายอย่างที่เราเห็นใน The Lord of the Rings มันมีความเป็นมาตั้งแต่ยุคที่ 1 และยุคที่ 2
ในยุคที่ 2 ก็ยังจะไม่มีพวก Hobbit แต่มันจะมีเผ่าเร่ร่อนที่เป็นเหมือนบรรพบุรุษของ Hobbit มีหลายๆอย่างในการเดินทางของพันธมิตรแห่งวงแหวนที่โฟรโดต้องผจญภัยระหว่างทาง มันเริ่มจากในยุคที่ 2 เช่น เหมืองของคนแคระที่ถูกทิ้งร้าง ใน The Rings of Power ทำให้เห็นถึงเหมืองนี้เคยเจริญรุ่งเรืองมาอย่างไร แร่ที่มาทำเสื้อเกราะมาจากไหน
มีตัวละครหลายตัวโดยเฉพาะที่มีอายุยืนยาวตั้งแต่ยุคที่ 2 ไปจนถึงยุคที่ 4 อย่างราชินีเอล์ฟกาลาเดรียล ราชาเอล์ฟเอลรอลที่ในหนัง The Lord of the Rings แสดงเคท บลันเชตต์และฮูโก้ เวฟวิ่ง ในซีรีส์นี้ทำให้เราเห็นการผจญภัยของพวกเขาในวัยหนุ่ม นอกจากนั้นยังผสานด้วยตัวละครที่แต่งขึ้นมาใหม่สำหรับซีรีส์ แต่ก็มีพื้นฐานสำคัญมาจากแนวคิดของ เจอาร์อาร์ โทคีนกำกับไว้
สำหรับผมแล้วจบครึ่งซีซั่นแรก The Rings of Power ทำให้ประสบการณ์ในการดู The Lord of the Rings ลึกซึ้งขึ้น