22 ก.ย. 2022 เวลา 23:00 • ไลฟ์สไตล์
3 วิธีเขียนเป้าหมายให้เป็นจริง
ด้วยกระดาษ A4 แผ่นเดียว
.
.
เมื่อเป้าหมายถูกเขียนลงกระดาษ
ก็ไม่ต่างกับการที่มือเราได้ถือเข็มทิศ
เพราะชีวิตจะไม่มีคำว่า "หลงทาง"
.
การตั้ง "เป้าหมาย"
อาจดูเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับใครบางคน
เรียนก็ต้องวางแผน ทำงานก็ต้องได้ตามเป้าบริษัท
.
เรียกได้ว่า "การตั้งเป้าหมาย" แฝงตัวอยู่ในทุกช่วงชีวิต
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า
การตั้งเป้าหมายมันไม่ใช่นึกอยากจะตั้งอะไรก็ตั้ง
และไม่ใช่ทุกเป้าหมายของคุณจะเป็นจริงได้
.
ชีวิตเนยก็เคยเป็นเหมือนใครหลาย ๆ คน
วนเวียน สับสนกับคำว่า "ไม่มีเป้าหมาย"
.
สมัยเรียนมหาลัย ตอนปีหนึ่ง ปีสอง
เนยหมดเวลาไปกับการปรับตัวซะส่วนใหญ่
เพราะเนยพูดกับตัวเองเสมอว่า
ฉันสอบ admission ไม่ติดนะ
ฉันเป็นคนเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดี
.
พอเนยคิดแบบนั้น เนยเลยรู้ตัวว่า
เนยต้องใส่ความพยายามลงไปให้มาก
ตั้งใจเรียน เลือกคบเพื่อนดี ๆ ที่ไม่พาเราไปเสียผู้เสียคน
.
จากเด็กที่เคยอยู่แต่กับบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน
เพราะคุณพ่อหวงมาก 5555
ต้องไปอยู่หอคนเดียว และต้องควบคุมชีวิตการเรียนให้ได้
.
พอขึ้นช่วงปี 3 ปี 4 เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่
พี่สาวของเนยเรียนจบ ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
เนยสังเกตเห็น คุณพ่อคุณแม่เนย ปลื้มใจ และภูมิใจมาก
ที่เห็นลูกตัวเองเป็นเด็กเรียนดี
และสร้างเกียรติประวัติให้กับครอบครัว
ด้วยการคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคนแรกของตระกูล
.
ตอนนั้นเนยคิดในใจ "ซวยแล้วกู"
ใจนึงรู้สึกยินดีกับพี่สาวที่สำเร็จ
แต่อีกใจรู้สึกแอบเครียดและกดดันไปเองว่า
พ่อแม่ก็คงอยากให้เราได้เกียรตินิยมแบบพี่สาวเหมือนกัน
.
.
เนยเหมือนโดนตบหน้ากลางสี่แยก
ถึงขั้นต้องตั้งสติแล้วถามว่า
"เฮ้ย ตอนนี้เนยทำอะไรอยู่ว่ะ?"
"ปีหน้า เนยจะจบไปด้วยเกรดอะไร??
.
จากคนที่เรียนไปวัน ๆ ไม่เคยตั้งเป้าหมายว่าชีวิตนี้
ฉันจะเรียนได้เกียรตินิยม
สารภาพว่าตอนนั้น แค่คิดว่าเรียนให้มันจบก็เก่งแล้ว
เพราะเนยคิดและบอกกับตัวเองเสมอว่า "ฉันหัวไม่ดี"
ฉันมันเป็นหางแถว ฉันเลยสอบ admission ไม่ติด
.
(ตอนหลังที่ได้เข้าไปเรียน เพราะมีคนสละสิทธิ์ 5 คน
เนยเลยไปยื่นคะแนน admission รอบหลังถึงได้เรียนที่นี่ได้)
.
พอเปลี่ยนเป้าหมายจากแค่
"เรียนไปเหอะ พอผ่าน จะได้จบๆ"
กับ "เรียนให้ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง"
.
เนยเริ่มมองเห็นแนวทาง และความเป็นไปได้มากขึ้น
เพราะเราเห็นเป้าหมายของตัวเองชัดเจน
ตอนนั้น เนยไม่ลังเล อะไรที่จะลงมือทำ ทำ ทำ
.
เนยหยิบกระดาษเอสี่ขึ้นมาหนึ่งแผ่น
เขียนสิ่งที่มี ลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ
นั่งคำนวณว่า เนยเหลืออีกกี่หน่วยกิต
และต้องเรียนยังไง เพื่อให้ได้เกียรตินิยม
.
เนยนั่ง list ว่าวิชาไหนที่เนยทำได้ดี
เนยยังขาดอีกเท่าไหร่
และต้องลงเรียนอะไรอีกบ้างเพื่อให้ไปถึง
เนยเปลี่ยนจากเป้าที่อยู่ในหัว
เขียนมันลงบนกระดาษเอสี่แผ่นเดียว
.
.
พอมีเป้าหมายที่ชัดเจน
มันก็นำไปสู่การลงมือทำที่ทรงพลัง
.
.
เนยเริ่มเข้าห้องสมุด เนยอ่านหนังสือหนักมาก
เนยลงเรียนมากกว่าเพื่อน
เพื่อจะได้ใช้คะแนนเฉลี่ยเอามาดึงเกรดให้สูงขึ้น
เนยพยายามทำทุกอย่าง ที่หนึ่งสมอง สองมือจะทำได้
.
แน่นอนว่า ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดเสมอไป
เจออุปสรรคในการเรียนมากมาย
และมีหลาย ๆ อย่างที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง
แต่เนยยังคงสู้ต่อ และใช้เวลาที่มีอันน้อยนิด
วิ่งไล่ตามเป้าหมายที่เนยฝันไว้
.
.
สิ่งเดียวที่เป็นศัตรูของเป้าหมายเรา
คือ ความคิดของเราเอง
.
พอเนยคิดว่า เนยไม่เก่ง เป็นเด็กท้ายแถว ที่สอบไม่ติด
เนยก็เป็นอย่างนั้น เป็นคนศักยภาพกลาง ๆ
.
แต่พอเนยแบรนด์ตัวเองใหม่ว่า
"ฉันคือผู้หญิงที่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
และเนยมีความเชื่อว่า เนยทำได้"
สุดท้ายมันได้อย่างที่คิดไว้จริง ๆ
.
ชีวิตปีสี่ ปีสุดท้ายของมหาลัย
เป็นปีที่หลายคนลงเรียนกันชิว ๆ
ส่วนเนยที่ยังไม่ยอมแพ้ เนยลงเรียนทุกวัน
และลงเรียนวิชาเยอะกว่าชาวบ้าน
.
ตอนนั้นคำนวณมาได้ว่าต้องลงเรียน 8 วิชา!!
และทุกวิชาต้องได้ A หมดทุกตัว
ถึงจะได้เกียรตินิยมอันดับ 1
ถ้าพลาดแม้แต่วิชาเดียว เนยจะไม่สามารถคว้ามันมาได้
.
ในขณะที่เพื่อน ๆ เรียนกันแค่คนละไม่เกิน 3-4 วิชา
ถ้าถามว่า ตอนนั้นเหนื่อยไหม?
ก็ต้องตอบตามจริงว่า เหนื่อยมว๊ากกกก
.
แต่สุดท้าย ผลของการลงมือทำนั้นหอมหวานเสมอ
เนยเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง GPA 3.51
เรียกว่า เฉียดชิวโคตร ๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เนยหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ก็คือ
รอยยิ้มและความสุขของพ่อแม่
.
เนยยังคงจำความรู้สึกของวันนั้นได้ดี
วันที่เนยเขียนเป้าหมายที่อยากได้ลงบนกระดาษเแผ่นนั้น
บทเรียนครั้งนั้นมันคุ้มค่ามาก ๆ
เพราะเนยยังคงใช้เทคนิคนั้น
ในการเขียนเป้าหมายของเนยจนถึงวันนี้
และนี่คือ 3 เทคนิคที่เนยใช้ในการตั้งเป้าหมายให้จริง ด้วยกระดาษแผ่นเดียวค่ะ
.
1. เป้าหมายต้องชัดเจนไม่เลื่อนลอย
ถ้าวันนั้นเนยคิดแค่ว่า เนยอยากเรียนจบด้วยเกรดดี ๆ
คิดว่าเนยจะได้เกียรตินิยมไหมคะ?
มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยค่ะ
เป้าหมายที่ดีคือ ต้องเป็นเป้าที่ชัดเจน
ไม่ใช่คิดแบบกว้างๆ เขียนแบบหว่าน ๆ
อันนั้น เรียกว่า เป้าหมายแบบมักง่ายค่ะ
.
มันต้องเฉพาะเจาะจง เขียนไปเลยว่า
คุณอยากได้อะไร? คุณจะเอายังไงกับชีวิต?
ถ้าคุณกล้าเขียน คุณก็จะได้มันค่ะ
.
2. ฝันให้ใหญ่ แต่เริ่มให้เล็ก
ฝันใหญ่ กับคิดฟุ้งซ่าน มันมีจุดบาง ๆ ที่คั่นกันอยู่นิดเดียว
ฝันใหญ่ หมายถึง การที่คุณมีเป้าหมายที่
อยากจะยกระดับมาตรฐานตัวเองให้สูงขึ้น
ทั้งด้านชีวิต ความเป็นอยู่ การเงิน การงาน ความสัมพันธ์ หรืออะไรก็ตามที่ชีวิตนี้คุณอยากได้…
.
ส่วนคิดฟุ้งซ่าน คือ ความคิดที่เหมือนต้นหญ้า
ลมพัดมาทางไหน ต้นหญ้าก็พร้อมลู่ลมไปทางนั้น
ใครบอกว่าอะไรดี คุณก็เชื่อ
โดยที่คุณไม่นึกตริตรองอะไรเลย
.
เป้าหมายที่ดีจึงต้องคิดแบบคนฝันใหญ่
ไม่ใช่คนคิดฟุ้งซ่าน
และเมื่อมีภาพที่อยู่ในใจแล้ว
ขั้นตอนต่อไป คือ เริ่มให้เล็ก
.
.
ความสำเร็จ เป็นผลลัพธ์ของการกระทำเล็ก ๆ
นับหมื่น นับแสนครั้ง
.
.
สมมติ วันนี้มีคุณฝันจะมีเงินสิบล้าน?
ถ้าคุณเอาแต่โฟกัสที่คำว่า สิบล้าน
ตาคุณจะมืดบอด คุณจะมองเห็นแต่ความเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าคุณเปลี่ยนใหม่
ถ้าเริ่มล้านแรกก่อนล่ะ คุณก็พอจะเริ่มมองเห็นทางลาง ๆ
อ๋อ เราทำสิ่งนั้นได้ ทำสิ่งนี้ได้
มันคือการค่อย ๆ คลำทางไปจนกว่าจะถึงเส้นชัย
นี่แหละ คือ นิยามของคำว่า ฝันให้ใหญ่ แต่เริ่มให้เล็ก
.
3. ทำ ทำ ทำ ห้ามหยุดเด็ดขาด
อย่าให้อุปสรรคหน้าไหน มาหยุดยั้งวินัยของเราได้
เนยเชื่อเรื่องนี้มาก ๆ
เนยอาจไม่ใช่คนหัวดี ไม่ใช่คนเก่งอะไร
แต่เนยอาศัยลูกดื้อ ความกัดไม่ปล่อยของเนย
ที่ช่วยให้เนยเอาชนะทุกปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามา
.
เนยจะยอมแพ้ ในวันที่รู้สึกท้อ วันที่รู้สึกว่า
เป้าหมายนี้มันยากที่จะสำเร็จเลยก็ได้
.
แต่เพราะว่า เนยไม่ยอมปล่อยมือจากเป้าหมายเด็ดขาด
เนยเขียนสิ่งที่ตัวเองอยากได้
คุยกับตัวเองจบบนกระดาษแผ่นนั้นแล้ว
และนี่คือเคล็ดลับสำคัญเลย
ที่ทำให้เนยมีไฟที่ลุกขึ้นสู้ในทุกครั้ง ๆ ที่เจอปัญหา
.
.
หลายคนเวลามองความสำเร็จของคนอื่น ก็มักจะมองว่า
คนนั้นเขามีต้นทุนที่ดีกว่าบ้างล่ะ
พวกเขาโชคดีมากกว่าตัวเองบ้างล่ะ
แต่ความจริงแล้ว ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นั้น
เกิดมาจากก้าวแรกที่สำคัญ
อย่างการเขียนเป้าหมายนี่แหละค่ะ
.
.
ถึงตรงนี้ ใครที่เจอปัญหา ตั้งเป้าหมายกี่ที ก็ผิดหวังตลอด
ไม่เอาแล้วปีนี้ เป้าหมายที่มีต้องสำเร็จ
ครูเนยขอแนะนำ E-book วิชาตั้งเป้าหมาย
ที่คัดมาให้เฉพาะเนื้อหาที่ "จำเป็น" ต้องรู้
และเป็นแบบฝึกหัดให้คุณลงมือทำ
.
ในราคาพิเศษ 690 บาท (จากราคา 1,590.-)
ราคานี้เฉพาะ 10 คนแรกเท่านั้น
.
E-book เล่มนี้มูลค่าหลักหมื่น ในราคาหลักร้อย
เพราะมันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้
ถ้าคุณเอาไปลงมือทำจริง
.
พิเศษ! ครูเนยตรวจการบ้านให้ด้วย
เฉพาะนักเรียนที่ทำการบ้านครบทุก workshop เท่านั้น!
.
อยากเห็นตัวเองเด้งมาจากเตียงด้วย Energy ของคนมีเป้าหมาย
Ebook เล่มนี้มีคำตอบ!
.
#ครูเนยpassiontowin
โฆษณา