22 ก.ย. 2022 เวลา 11:56 • สุขภาพ
บทเริ่มต้น
เรื่องมันแดงขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา
ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน วันเกิดปีนั้นได้มีโอกาสบริจาคโลหิตที่ศูนย์รับบริการของสภากาชาดไทย ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง วันนั้นปลื้มปริ่มใจนะ เพราะใครๆ ก็จัดว่าการบริจาคโลหิตก็ถือว่าได้บุญใหญ่ แต่ของเรา ความปลื้มปริ่มใจนั้นมันทำให้จิตใจชุ่มชื่นอยู่ได้ไม่นาน จดหมายซองสีขาวจากสภากาชาดไทยก็ถูกส่งมาถึงมือ ข้อความในจดหมายมีใจความว่าเลือดเราไม่ปกติ ขอให้ไปตรวจเพิ่มเติม
จำได้ว่าเครียดมาก ปรึกษาเพื่อนสนิท แต่สุดท้ายด้วยระยะทางที่ไกล ด้วยสุขภาพที่ยังไม่มีปัญหาอะไร เราผลัดวันไปก่อน และไปก่อน และสุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกลืมไปในที่สุด
2 ปี ที่ผ่านมา
โอกาสที่จะต้องบริจาคโลหิตกลับมาอีกครั้งเนื่องจากญาติคนหนึ่งป่วยหนัก ตรงกับวันเกิดอีกแล้ว มันเหมือนหนังฟิล์มที่แสงของเครื่องฉายส่องทับจุดเดิม ใช่แล้วหล่ะ หลังจากวันนั้นไม่นาน จดหมายแบบที่เคยส่งมาถึงเมื่อราว 10 ปีก่อนมันมาถึงมือเราอีกครั้ง คราวนี้เราตั้งใจเข้าไปตรวจเพิ่มเติมตามที่จดหมายแนะนำ ตามที่เราพอรู้และเท่าที่ได้ถามเจ้าหน้าที่ห้องแล็ปที่เขาเปรยๆบอกว่าคงจะมีปัญหาเรื่องการติดเชื้อไวรัสตัวใดสักตัว
ซึ่งจริงๆ น้องเขาสามารถจะไม่บอกเราก็ได้ เพราะตามปกติคนไข้กลุ่มที่ติดเชื้อไวรัสพิเศษกลุ่มนี้ต้องได้รับการให้คำแนะนำ ภาษาอังกฤษที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้คือ “counselling” ก่อนที่จะแจ้งผลตรวจ เผื่อคนไข้ทำใจไม่ได้แล้วไปกระโดดน้ำตายซะก่อนจะเป็นเรื่องใหญ่ลงหน้า 1 โซเชียลมีเดีย
เราก็สงสัยของเราเองนะว่า
1. ไวรัสตับอักเสบ ไม่เอ ก็บี ไม่ก็ซี ซึ่งอนาคตไม่เกิดภาวะตับอักเสบจนตับวายก็มะเร็งตับ ซึ่งลุ้นให้อายุเกิน 60 ก็ถือว่ากำไร
2. HIV ถ้าออกทางนี้ ก็แค่ทานยาตลอดชีวิตเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ดูแลสุขภาพให้ดีกว่าที่เคย และคงต้องเป็นผู้ติดเชื้อ HIV เงียบๆ คนเดียว อายุสามารถยืนยาวไปได้จนสิ้นอายุไข ... กินยาตรงเวลาและตลอดไป แฟนเราบอกว่าก็หมือนคนเป็นเบาหวาน ความดันนั่นแหล่ะ กินยาตลอดไป
เราเป็นคนสุขภาพดี ถึงแม้ถึงวันนั้นก็ยังสุขภาพเป็นปกติ
เจ้าหน้าที่ห้องแล็บนัดให้ในอีก 2 สัปดาห์ถัดมาหลังจากที่เข้าไปเจาะเลือดเพิ่มเติม แจ้งให้ฟังผลที่แผนกพิเศษของโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่แยกไปต่างหาก นัดให้พบพยาบาลท่านหนึ่งและความลับๆล่อๆ ของการแจ้งผลเลือดคราวนี้มันทำให้เราพอเดาได้เลยว่าไม่น่าจะเป็นไวรัสธรรมดา และโอกาสเอียงไปทาง HIV ค่อนข้างแน่นอนแล้ว
และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มหากาพย์ของคำว่า “เจ็บ” ที่ในวิชาพุทธศาสนาให้เราท่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย สำหรับเราจึงเริ่มต้นขึ้น คิดเสียว่าก็แค่ทานยาตรงเวลาทุกวัน ห้ามพลาด ตลอดไป
22092565
.
โฆษณา