23 ก.ย. 2022 เวลา 09:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ไม่มีอะไรช้าไปหรอกค่ะ
มาช้า ก็ยังดีกว่าไม่มา ...... ว่ามั้ยคะ:)
อยากให้มองว่า จังหวะเวลาของคนเราไม่เหมือนกัน  แต่เมื่อได้เวลาของเราแล้ว ก็ทำมันให้เต็มที่ ให้ดีที่สุดนะคะ
การเรียนรู้เรื่องการลงทุน ก็เหมือนการทำความเข้าใจชีวิตแบบหนึ่ง
1. สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจก็คือ “ธรรมชาติของการลงทุน” ค่ะ
 
เช่นเดียวกับธรรมชาติของ “ชีวิต”  
การลงทุนนั้น
• มีขึ้น  มีลง
• มีสุข มีเศร้า
• มีสนุก มีน่าเบื่อ
• มีสำเร็จ มีผิดพลาด
• มีชนะ มีพ่ายแพ้
• ไม่หยุดนิ่ง ผ่านเวลา  ผ่านความเปลี่ยนแปลง
เช่นเดียวกับธรรมชาติของ “การเดินทาง”ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
การลงทุนนั้น
• ต้องเริ่มด้วยก้าวแรก
• มีจุดเริ่มต้น  มีจุดหมายปลายทาง
• มีทางที่ต้องเลือก
• มีทางแยกให้ต้องตัดสินใจ
• ทุกทางแยกมีช่วงเวลาสิ้นสุด
• เมื่อถึงเวลาต้องเลือกสักทาง
• เส้นทางไม่ราบเรียบ  หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
• มีความเสี่ยง ไม่มีอะไรเป็นดังใจคิดไปตลอด
2 เมื่อเข้าใจธรรมชาติการลงทุนแล้วก็มาทำความ”เข้าใจตัวเอง”ดูนะคะ
2.1 ทำความเข้าใจที่มาของรายได้ 3 ทาง
1 รายได้ประเภทส้มหล่น
( Luck at Work ) เรียกว่า โชค
2 รายได้จากการทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรง
( You at Work ) เรียกว่า รายได้ชั่วคราว
เป็นที่มาของรายได้คนส่วนใหญ่
และมีเวลาสร้างจำกัด
3 รายได้จากการใช้เงินทำงาน
( Capital at Work ) เรียกว่า รายได้ถาวร
เราจึงควรรู้จักใช้เงินทำงาน... ด้วยความเข้าใจ
2.2 ทำความเข้าใจความแตกต่างในเรื่อง “การออม” และ “การลงทุน”
งบดุลชีวิต = หนี้สิน + เงินออม
ถ้าหนี้สิน > เงินออม  
นั่นคือ ชีวิตติดลบ ( เป็นหนี้ )
ถ้าหนี้สิน < เงินออม    
นั่นคือ ชีวิตเป็นบวก ( มีเงินเก็บ )
และเพราะรากฐานของการลงทุน
มาจากเงินที่เก็บออม
เมื่อรากฐานมีความมั่นคง  
การลงทุนก็ย่อมเจริญเติบโตและผลิตออกดอกผล ( กำไร ) มาสู่เจ้าของเงินก้อนนั้น
ปัจจุบัน การออม อย่างเดียวไม่น่าเพียงพอ จำเป็นต้อง รู้จัก ลงทุน ด้วย
เพราะ “ การออม “ ช่วยให้  “มั่นคง”
แต่“ การลงทุน “ ( อย่างชาญฉลาด) ช่วยให้ “ มั่งคั่ง”
และเพราะการออมเป็น “ เกมส์แห่งระยะเวลา “ ( game of time )
แต่การลงทุนเป็น “ เกมส์แห่งจังหวะเวลา” ( game of timing )
ดังนั้นการลงทุนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องหาให้เจอค่ะ
2.3 ทำความเข้าใจเรื่อง “ความเสี่ยง “
* คนส่วนใหญ่มองว่าการลงทุนมีความเสี่ยง
แต่การ “ ไม่ “ ลงทุน  ก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน
* การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด
คือการลงทุนโดยไม่มีความรู้
* หลายคนไม่กล้าลงทุนเพราะกลัว
* หลายคนขาดทุนจากการลงทุน
เพราะความโลภ
* ทั้งความโลภและความกลัว
ต่างมีพื้นฐานมาจาก”ความไม่รู้”
ดังนั้น
* การลงทุนโดยไม่มีความรู้
จึงไม่ต่างอะไรกับเล่นพนัน
ความรู้ในสิ่งที่กำลังจะลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
จึงควรมีการวางแผนการเงิน การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะตัวเราเองจะรู้ตัวเองดีว่าเรารับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ สามารถทดลองทำ” แบบประเมินความเสี่ยง” เพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกเครื่องมือลงทุนดูได้ค่ะ
3 ทำความรู้จัก”เครื่องมือ”
* เครื่องมือความเสี่ยงต่ำ
ส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนต่ำ เช่น ฝากเงินกับธนาคาร  กองทุนพันธบัตรรัฐบาล กองทุนตลาดเงิน
* เครื่องมือความเสี่ยงปานกลาง
ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่ก็เสี่ยงมากขึ้น
เช่น กองทุนรวมตราสารทุนประเภทต่างๆ
* เครื่องมือความเสี่ยงสูง
สามารถให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน เช่น ตราสารทุน  ตราสารอนุพันธ์  กองทุนต่างประเทศ tfex
การหาข้อมูล ศึกษาและทำความเข้าใจ ในเครื่องมือประเภทต่างๆ จะทำให้เราทราบว่า เราเหมาะกับเครื่องมือชนิดไหนค่ะ
4 ทำความรู้จักตลาด
• รู้จักปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุน
เช่น อัตราดอกเบี้ย การเมือง เศรษฐกิจโลก
• รู้จักจังหวะการลงทุน ( ซื้อหรือขาย )
เช่น การเกิดวิกฤติในตลาด  ช่วงเงินลงทุนต่างชาติเข้า  ฤดูกาลปันผล หรือช่วงเศรษฐกิจฟื้น
• ตลาดหมี  ตลาดกระทิง
5 ลงมือ ค่อยๆเรียนรู้ และค่อยๆแก้ปัญหาไปด้วยความไม่ประมาท ค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวล สามารถเข้าไปศึกษาหาข้อมูลได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หรือ เข้าไปทดลองใช้ Click2win จำลองการเทรดโดยไม่ใช้เงินจริงก่อนก็ได้เช่นกันค่ะ
หวังว่าพอจะเห็นภาพนะคะ
โฆษณา