เดินเล่นไปเรื่อย
"สายๆของวัน ตลาดสดเช้าจะเริ่มวาย พอสายหน่อย ของปรุงสุกก็เริ่มทยอยมาขายต่อ"
หลังจากทานมื้อเช้าด้วยเมนูข้าวผัด แบบ ผัดๆ รวมๆ กับของเหลือในตู้เย็นเพื่อเป็นการเคลียตู้เย็นไว้รองรับของใหม่ที่จะเข้ามา
ผมว่าก็พอให้อุ่นท้องสบายไปอีกมื้อนะ ตบท้ายด้วยกาแฟสักถ้วย ผมก็พร้อมออกเดินทาง
อ่อลืมบอกไปว่า ผมผัดด้วย กระทะผีสิงใบเดิม ที่ทำอะไรก็อร่อย เช่นเคย
สายวันนี้ผมเดินเล่นในตลาดแห่งหนึ่งไม่ได้มีเป้าหมายอะไร คงเดินเล่นไปเรื่อยด้วยความชอบ ชอบเห็นของกิน ชอบเดินดูไปเรื่อยๆ
ผมมาสะดุดตามกับแผง ของคุณป้าท่านหนึ่ง ผมไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรในการเรียก เอาเป็นว่า เป็นอาหารประเภทถูกใจสายคลีนก็แล้วกัน
ในแผงประกอบด้วย ฟักทองนึ่ง ข้าวเหนียวมูล ข้าวก่ำ ข้าวเม่า และ บรรดาข้าวต้มต่างๆ ทั้งข้าวต้มผัด และ ข้าวต้มมัด แต่ที่น่าสนใจสำหรับผมก็คือ "กลอย"
"กลอย" เป็นพืชเถาล้มลุก มีหัวใต้ดินคล้าย เผือก มัน ลำต้นเต็มไปด้วยหนามเล็กๆ เราจะขุดหัวกลอยขึ้นมาทำกิน เนื้อ กลอย มีทั้งชนิดสีขาว เรียกว่ากลอยหัวเหนียว และกลอยที่มีเนื้อสีเหลืองนวล เรียกว่ากลอยไข่หรือกลอยเหลือง
"กลอย" มีสารพิษชื่อว่า ‘ไดออสคอรีน’ มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางและระบบหายใจ ทำให้รู้สึกเมา มีอาการคลื่นไส้ คันคอ ตาพร่ามัว ใจสั่น อาเจียน ฯลฯ
ดังนั้นการจะนำ กลอย มาปรุงอาหารนั้นต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนเหมือนกันกว่าจะกินได้ หลังจากล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกจนเห็นเนื้อในแล้ว ก็ฝานเป็นแผ่นบางๆ สมัยก่อนจะใส่ตะกร้า หรือ ถุงตาข่าย แช่ไว้ในน้ำไหลผ่านราว 5-7 วัน ก่อนนำมาบีบน้ำออกให้หมด โดยห่อใส่ผ้าขาว เอาหินทับจนน้ำออกหมด
ล้างอีกรอบจึงกินได้
มาถึงปัจจุบัน หาน้ำไหลผ่านได้ยากแล้ว จึงเปลี่ยนิธีการมาเป็น คลุกเกลือเม็ด แช่น้ำไว้เช้ามาก็ล้างเปลี่ยนน้ำ ทำแบบนี้สัก 4-5 คืนเมื่อ กลอย เริ่มฟู (อมน้ำ) จากนั้นก็ล้างให้สะอาด ใส่ผ้าขาวห่อใช้หินหรือเขียงหนักๆ ทับไว้สักคืนจน กลอย แห้งสนิด ล้างน้ำสะอาดอีกสักรอบก็ใช้ได้
รสชาติ หอมอ่อน (กลิ่นเฉพาะตัว) นึงสุก โรยน้ำตาล มะพร้าว งาสักเล็กน้อยก็ใช้ได้ สนนราคาผมซื้อมาถุงละ 20 บาทไม่ต่อสักคำ
อย่างว่าล่ะครับ ขั้นตอนเยอะมาก บางอย่างซื้อกินบ้างก็ไม่เป็นไรนะ.....พิลา
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
