ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจาก "เคาน์เตส" Jeanne de Valois-Saint-Rémy - "Comtesse de la Motte" ผู้มีสไตล์แต่งตัวเป็นของตัวเอง ซึ่งล่วงลับไปแล้วในฐานะทายาทของราชวงศ์ฝรั่งเศสในอดีตคือ Valois เคาน์เตส มีความเชื่อมโยงกับขุนนางที่ค่อนข้างน่าสงสัย
โดยหลายคนตระหนักว่ารายได้เพียงเล็กน้อยของสามีเธอ ไม่น่าจะเพียงพอต่อการซื้อชุดและเครื่องประดับไลฟ์สไตล์ฟุ่มเฟือยตามแบบที่เธอต้องการได้ ในช่วงนั้น La Motte คิดว่าเธอสามารถชนะใจราชินีได้ด้วยการนำแฟชั่นแบบนี้ ทว่าราชินีเมื่อได้ยินถึงภูมิหลังของ La Motte ก็ปฏิเสธที่จะพบเธอ และเหตุการณ์นี้ก็สร้างความไม่พอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก
Jeanne de Valois-Saint-Rémy, Countess de La Motte. DeAgostini/Getty Images
ในปี 1783 La Motte กลายเป็นผู้หญิงของพระคาร์ดินัลเดอโรฮัน อันทรงเกียรติ พระคาร์ดินัล ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงเวียนนา เพราะช่วงสองสามปีก่อน La Motte ได้ทำผิดต่อพระมารดาของมารี อองตัวแนตต์ จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา และด้วยโอกาสที่เธอมองเห็นจึงตัดสินใจเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในชีวิตด้วยเส้นทางนี้ โดยไม่ฟังความเห็นชอบจากราชวงศ์
ไม่นานจากนั้น La Motte ก็ค้นพบว่าช่างเพชรพลอย Charles Auguste Boehmer และ Paul Bassange กำลังพยายามขายสร้อยคอราคาแพง ซึ่งเดิมทีได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อ Madame du Barry ผู้เป็นที่รักของอดีตกษัตริย์ Louis XV สร้อยคอเส้นนี้มีมูลค่าประมาณ 2,000,000 ลีฟ (หรือประมาณ 15 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน)