25 ก.ย. 2022 เวลา 16:49
💡มลภาวะทางเเสง (Light Pollution) ปัญหาใหญ่ของเหล่านักดูดาว กับการถ่ายภาพทางช้างเผือก
ในวันนี้เราจะพูดถึงเรื่องมลภาวะทางเเสง หรือ Light Pollution ซึ่งเป็นเเสงที่รบกวนที่มีผลกระทบต่อการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก ถ้าเราลองสังเกตจากภาพภ่ายที่เราถ่ายมา เช่น ภาพทางช้างเผือกที่หลายๆ คนออกไล่ล่าถ่ายภาพจากสถานที่ต่างๆ เช่น บนดอย อุทยานเเห่งชาติ อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ก็จะพบว่าในเเต่ละสถานที่จะมีสภาพท้องฟ้าที่เเตกต่างกันของความมืดของท้องฟ้า
รวมทั้งระดับฟ้าหลัวเเละมลภาวะทางเเสงที่เเตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากเรานำภาพทั้งหมดมาเปรียบเทียบกันจะเห็นว่าเเต่ละภาพมีความเเตกต่างกันทั้งความสว่าง รายละเอียดของภาพ รวมทั้งการตั้งค่าความไวเเสง ISO ที่ใช้ในการถ่ายภาพก็จะเเตกต่างกันด้วยเช่นกัน
ถ้าสมมติว่าเราลองสังเกตด้วยตาเปล่า ในบางครั้งอาจสังเกตเห็นความเเตกต่างได้ไม่มากนัก เเต่หากผู้ที่มีประสบการณ์ถ่ายภาพจากหลายๆ สถานที่ก็จะทราบได้เป็นอย่างดีว่าท้องฟ้าที่ไหนใสเคลีย์มากกว่ากัน ซึ่งก็ทราบได้จากภาพที่ถ่ายมานั่นเอง
อีกวิธีนึงในการวัดคุณภาพท้องฟ้า คือใช้กล้องดูดาวชนิดหักเหเเสงขนาด 50 mm เเล้วส่องไปที่ดาวดวงใดดวงหนึ่ง หากเห็นดาวสั่นมากเเสดงว่าท้องฟ้าอยู่ในระดับ 1 เเมกนิจูด คือฟ้าเต็มไปด้วยก้อนเมฆหรือฝุ่น อีกวิธีนึงคือสังเกตด้วยตาเปล่าหากเห็นดาวที่มีความสว่างน้อยเต็มท้องฟ้า เเสดงว่าท้องฟ้า โคตรดีย์ (ฮา)
เราสามารถเเก้ได้โดยการออกเเบบหลอดหรือโคมไฟที่เหมาะสม เเละการไม่ใช้เเสงเกินความจำเป็น เเต่ถึงอย่างไรปัญหาเหล่าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้
- คำเเนะนำสำหรับช่างภาพดาราศาสตร์ -
ในการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์การวางเเผนหาข้อมูลล่วงหน้าเสมอ เเละใช้เวลากับการวางแผนให้มาก รวมทั้งการศึกษาปัจจัยที่จะส่งผลต่อการถ่ายภาพ การใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการถ่ายภาพ เช่น แอพพลิเคชั่น Light Pollution map
ปัญหามลภาวะทางเเสงปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำหรับการถ่ายภาพ ดังนั้นการช่วยกันรณรงค์ช่วยการอนุรักษ์ฟ้ามืดไว้ นอกจากประโยชน์ทางการศึกษาทางดาราศาสตร์เเล้ว ยังส่งผลถึงการอนุรักษ์พลังงานอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน เราจะได้มีท้องฟ้าที่ดีในการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ต่อๆ ไป
ภาพ: Spaceas.xp
ข้อมูล: DARK SKY
โฆษณา