28 ก.ย. 2022 เวลา 05:00 • การตลาด
ตลาดเช็กต้องพึ่งพานำเข้าอาหาร
นาย petr Fiala นายกรัฐมนตรีสาธารณเช็ก ได้กล่าวในโอกาสวันเปิดงานแสดงสินค้าด้านการเกษตร ณ เมือง Cesky Budejovice เกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงทางอาหารที่สาธารณเช็กต้องให้ความสำคัญเพื่อให้มีปริมาณอาหารหลักที่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ
โดยนายยกรัฐมนตรี Fiala เห็นว่าผลกระทบจากสงครามในยูเครนส่งผลต่อทั่วโลก และมีความเชื่อมโยงกัน โดยนอกผลกระทบต่อสาธารณเช็กในเรื่องต้นทุนการผลิตอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว ขณะเดียวกันปริมาณความต้องการสินค้าจากประเทศต่างๆ มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทำให้สินค้ามีมูลค่าสูงขึ้น
นอกจากนี้ สาธารณเช็กจะต้องรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดจากความขัดแย้งดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน และจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอาหารจากต่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรี Fiala เห็นว่าสินค้าจากต่างประเทศจำทำให้มีตัวเลือกสินค้าเพิ่มมากขึ้นและทำให้สินค้าราคาถูกลง
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเช็กสำหรับปี 2563 พบว่าสาธารณรัฐเช็กมีปริมาณการผลิตสินค้าอาหารเพียงพอภายในประเทศ เพียงแค่ 3 กลุ่มด้วยกัน คือ เนื้อวัว นมและผลิตภัณฑ์นม และน้ำตาล ซึ่งจากสถิติพบว่า การผลิตสินค้าอาหารที่สูงกว่าปริมาณการบริโภคในประเทศ ได้แก่ กลุ่มชีส ไข่ ซึ่งมีปริมาณการผลิตค่อนข้างสูงเกือบถึงร้อยละ 90
ขณะที่การผลิตขนมปังมีน้อยกว่าร้อยละ 60 และขนมปังจากข้าวสาลีและเนื้อหมู มีเพียงกว่าร้อยละ 40 เท่านั้น สำหรับสินค้าที่มีการผลิตเพียงพอสำหรับบริโภคภายในประเทศน้อยที่สุดคือ มะเขือเทศ ซึ่งปริมาณการผลิตมีไม่ถึงหนึ่งในห้าของความต้องการบริโภคภายในประเทศ
ทางด้าน นาย Milos Zeman ประธานาธิบดีสาธารณเช็ก ได้กล่าวในพิธีเปิดงานฯ โดยได้แสดงความยินดีที่ผลผลิตทางการเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดี และได้กล่าวถึงการทำการเกษตรที่มีทั้งกลุ่มที่ประสบความสำเร็จและที่ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยระบุว่าธุรกิจการเกษตรที่ประสบความสำเร็จควรได้รับการสนับสนุน ซึ่งกลุ่มนี้จะสามารถเข้ามาดูแลบริหารจัดการกลุ่มที่ไม่ประสบความสำเร็จได้
หลายประเทศเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในประเด็นเรื่องความมั่นคงทางอาหาร โดยสาธารณเช็กเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอาหารและเกษตรจากต่างประเทศ เนื่องจากการผลิตมีไม่เพียงพอ ยกเว้น 3 กลุ่ม สินค้า ได้แก่ เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์นมและน้ำตาล ส่วนสินค้าอาหารอื่น ๆ จำเป็นต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
ซึ่งผลกระทบจากสถานการณ์สงครามยิ่งแสดงให้เห็นว่า ความต้องการสินค้าอาหารจากต่างประเทศมีเพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคต้องการสินค้าอื่น ๆ มาให้เลือกซื้อและมองหาสินค้าราคาที่ถูกกว่า ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศดังกล่าว จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิต/ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าอาหารในการขยายตลาดในสาธารณรัฐเช็ก
อย่างไรก็ดี ด้วยปัจจัยในเรื่องระยะทางการขนส่งสินค้า และค่าขนส่งสินค้า ทำให้สินค้าจากไทยเสียเปรียบคู่แข่งที่มีต้นทุนการขนส่งสินค้าที่ถูกกว่า ใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่า ซึ่งส่วนใหญ่ประเทศสาธารณรัฐเช็กนำเข้าสินค้าอาหารจากประเทศในยุโรปด้วยกันมากกว่าประเทศอื่น ๆ นอกยุโรป เนื่องจากความนิยม อาหารยุโรปที่คล้ายคลึงกันรวมไปถึงค่าขนส่งที่ถูกกว่า
อย่างไรก็ดี สำหรับสินค้าอาหารบางประเภทที่ผู้บริโภคต้องการจากประเทศนอกสหภาพยุโรป อาทิ สินค้า อาหารเอเชีย ผลิตภัณฑ์จากข้าว ผัก/ผลไม้ ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการไทยควรเน้นพัฒนาสินค้า โดยนำเทคโนโลยี/นวัตกรรมใหม่เป็นตัวช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถเก็บรักษาอาหารไว้ได้นาน
รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ที่สามารถช่วยให้สินค้าอาหารไทย มีความสดใหม่ ซึ่งจะช่วยสร้างจุดเด่นให้กับสินค้าไทย นอกเหนือจากมาตรฐาน ความปลอดภัยด้านอาหารของสินค้าไทยที่ได้รับการยอมรับอยู่แล้ว ซึ่งหากสามารถ เสริมสร้างจุดเด่น รวมถึงบริหารจัดการต้นทุน และนำเสนอราคาที่เหมาะสมได้ จะช่วยให้สินค้าอาหารไทย ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น
โฆษณา