26 ก.ย. 2022 เวลา 08:54 • ข่าวรอบโลก
1) “Steve Jobs” กล่าวไว้ว่า
“you can’t connect the dots looking forward; you can only connect them looking backward.
So you have to trust that the dots will somehow connect in your future. You have to trust in something — your gut, destiny, life, karma, whatever.
This approach has never let me down, and it has made all the difference in my life.”
1
Steve Jobs บอกว่า “ชีวิตก็เหมือนการลากเส้นเชื่อมจุดแต่ละจุดแบบย้อนหลัง” นั่นคือ เราไม่รู้ว่า “สิ่งที่เราได้เรียนมา” จะได้นำมาใช้จริงเมื่อไหร่อย่างไร?
ผมยกตัวอย่างจริงๆของ SJ ให้สองข้อ
i) สมัยเป็นนักศึกษา SJ เคยลงเรียนวิชาที่ชื่อว่า Typography ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ fonts ให้ได้ความสละสลวยสวยงามและอ่านง่าย และแน่นอนว่า เมื่อวันที่เขาสร้าง Apple และผลิตภัณฑ์ในตระกูล “Mac” ทั้งหลาย, fonts ของเขาได้รับการออกแบบโดยอาศัยความรู้จากวิชา Typography ที่ SJ เคยเรียนมา ทั้งๆที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างคอมพิวเตอร์เลย!
ii) SJ สนใจและศึกษา พุทธศาสนา ถึงขั้นเดินทางไปอินเดียและใช้ชีวิตที่นั่นเป็นระยะเวลาหนึ่ง
เขานำปรัชญาความ “เรียบง่าย” (simplicity) มาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Apple เพื่อให้ได้ความสมดุลย์ของ “form and function” ได้อย่างงดงาม
iii) ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเรียนวิชาที่คุณชอบหรือไม่ก็ตาม หรือคุณมีประสบการณ์ในการได้ “ลงมือทำ” สิ่งสิ่งใดๆก็ตามสำคัญคือ
คุณควรจับ “หลักการ” ของสิ่งต่างๆที่เรียนไป แล้วเมื่อ
“หลักการ” + “จินตนาการ” = โอกาส
ที่คุณสามารถนำไปต่อยอดเพื่อสร้างโอกาสดีๆในชีวิตที่คุณอาจคิดไม่ถึง!
ซึ่งก็ไม่ต่างจากการ “ลากเส้นเชื่อมจุด” ที่ดูแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง ให้ “เรื่องราวใหม่ๆ” ที่มีความหมายความสำคัญขึ้นมาได้
2) ประสบการณ์ตรงของผม
“Do what you love.”
ผมชอบรถยนต์มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนเมื่อผมเรียนในระดับอุดมศึกษาในสายวิชาการด้านเทคโนโลยี มีอยู่วันหนึ่งที่ผมเปิดแมกกาซีนรถยนต์อ่าน
ตามเคย
แต่สิ่งที่ผมค้นพบจากแมกกาซีนรถยนต์เล่มนั้น เปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างมาก สิ่งที่ผมเห็นคืองาน Tokyo Motor Show ที่เป็นงานแสดงรถยนต์ระดับโลก และมันเป็นงานที่จัดไม่ไกลจากบ้านเรานัก เมื่อเทียบกับงานแสดงรถยนต์ที่จัดในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป
ผมอยากไปงานที่โตเกียวมาก และผมอยากจะมีภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานติดตัวไปด้วย และหลังจากนั้นด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ผมจึงได้มีโอกาสเรียนภาษาญี่ปุ่นจนผมสอบใบประกาศนียบัตรภาษาญี่ปุ่นได้มาแล้วสามใบโดยที่ผมยังไม่มีโอกาสไปชมงานที่โตเกียวจนถึงทุกวันนี้
“What you focus on, expands.”
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมทำงาน part time ในร้านอาหาร โดยผมชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นในสมัยที่ผมเรียน
ภาษาญี่ปุ่น
ผมได้งานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งผมพบว่า ความสามารถพื้นฐานในทักษะภาษาญี่ปุ่นของผมมีคุณค่าในการเรียนรู้เมนูอาหารญี่ปุ่นในร้านอย่างน่าทึ่ง เช่น
“ika” คือ “squids”
“tako” คือ “octopus”
นอกจากนั้นผมยังสามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานของผมสื่อสารกับทั้งเพื่อนร่วมงานในร้านเล็กๆแห่งนั้นและลูกค้าชาวญี่ปุ่นบางท่านได้อย่างสนุกสนาน
และที่สำคัญ เมื่อผมสังเกตการทำงานของเชฟชาวญี่ปุ่นที่มี “ชุดมีด” ที่ใช้ทำ sushi/sashimi ที่มีอยู่หลายเล่ม ผมเองก็เริ่มสนใจ “การทำอาหาร” ขึ้นมา โดยที่ผมไม่ได้มีโอกาสเรียนรู้งานครัวในเวลานั้น
“One thing leads to another.”
เมื่อช่วงปี 2018 ผมได้กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดอีกครั้ง และผมได้ทำหน้าที่ดูแล “พระในบ้าน” ของผม และญาติๆที่เริ่มจะอยู่ในวัยผู้สูงอายุ
ในเวลานั้น ผมเองก็เริ่มศึกษาการทำอาหารมากขึ้น เพราะผมต้องการจะทำอาหารให้คนที่บ้านด้วยตัวเองตามโอกาสที่ผมมี
“ปลา” เป็นอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องสารอาหารที่เรียกว่า “Omega 3” ที่ช่วยบำรุงสมองให้ผู้สูงอายุและเป็นอาหารที่ย่อยง่าย
วันหนึ่งผมจึงไปที่ตลาดและซื้อปลาทะเลเล็กๆตัวขนาดเท่าฝ่ามือมาประมาณสามถึงสี่ตัว และทำการฝึกแล่โดยศึกษาคลิปบน Youtube ที่สอนโดยเชฟทั้งจากชาวญี่ปุ่นและเชฟชาวตะวันตก
เวลาผ่านไปนานนับปี ผมพบว่าผมแล่ปลาขนาดใหญ่ราว 5-7 กิโลกรัมเพื่อนำเนื้อไปทำข้าวต้มปลา รวมๆแล้วนับร้อยกิโล!
“You can only connect the dots backward.”
ในช่วงนั้นเอง ผมได้มีโอกาสได้พบเพื่อนท่านหนึ่งในสมัยเรียนมัธยม และเพื่อนท่านนี้ทำธุรกิจในวงการรถยนต์ เขาได้เชิญผมไปร่วมงานเปิดตัวรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งซึ่งผมได้มีโอกาส test drive รถยนต์หลายๆรุ่น
และผมยังได้พบเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาดของรถยนต์ยี่ห้อนั้น หลังจากสนทนากัน เขาแนะนำผมให้ลองเขียนบทความลงบน platform นี้ โดยที่ผมเองในช่วงนั้นไม่เคยรู้จัก platform นี้มาก่อน
หลังจากนั้นนานนับปี ผมไม่ได้เขียนบทความใดๆเลย จนมีอยู่วันหนึ่งที่ผมลองเข้ามาสำรวจ platform นี้ดู และทำการตอบคำถามใน Q&A ที่นี่เป็นครั้งแรก
และตั้งแต่นั้นผมก็เข้ามาตอบคำถาม ตามกำลังของผมมาตั้งแต่ราวเดือนตุลาคมของปี 2021 เป็นต้นมา
1
โดยข้อเขียนของผมครอบคลุมหัวข้อที่หลากหลาย ทั้งเรื่อง รถยนต์, อาหาร, ปรัชญา, การเรียนภาษาต่างประเทศ, เทคโนโลยี, เศรษฐกิจ และการเมืองโลก
นอกจากผมจะดูแล “พระในบ้าน” ซึ่งอยู่ในวัยผู้สูงอายุแล้ว ผมได้เรียนรู้การดูแลผู้สูงอายุแบบพื้นฐาน
และผมเองต้องดูแล “บ้าน” ไปด้วย โดยเริ่มจากงานช่างงานซ่อมบำรุงเล็กๆน้อยๆในบ้าน จนผมเริ่มศึกษางานช่างเกี่ยวกับการดูแลรักษาบ้าน จนผมสนใจการ “สร้างบ้านและข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ในที่สุด!
โฆษณา