Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คุยเรื่องประกัน "เด็ก" เด็ดๆ
•
ติดตาม
27 ก.ย. 2022 เวลา 05:05 • ความคิดเห็น
#4เหตุผลว่า #ทำไมเราถึงต้องทบทวนกรมธรรม์
เชื่อว่าหลายคนจำไม่ได้ว่าตอนซื้อประกัน เราซื้ออะไรไปบ้าง สัญญาเพิ่มเติมมีอะไร วงเงินเท่าไหร่ ผู้รับประโยชน์เป็นใคร และตอนซื้อประกันเราอาจจะใส่ชื่อผู้รับประโยชน์เป็นสามีหรือภรรยา แต่ปัจจุบันเลิกรากันไปนานแล้ว แต่เราลืมไปว่ายังไม่ได้เปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับประโยชน์
วันดีคืนร้ายโชคไม่ดี เราเกิดจากโลกนี้ไปกระทันหัน ลองคิดดูว่าถ้าผู้รับประโยชน์ดันตกเป็นของสามีหรือภรรยาเก่า แทนที่จะเป็นสามีหรือภรรยาคนปัจจุบันของเรา ซึ่งดูแลเราอย่างดี หรือถึงแม้เราจะครองโสดหลังจากเลิกรากัน แต่ถ้าผู้รับประโยชน์ดันเป็นของคนในอดีต แทนที่จะเป็นของพ่อแม่พี่น้องเรา ก็คงเป็นเรื่องเป็นราวที่ปวดใจน่าดู
วันนี้พี่รินชวนดูว่า เพราะอะไรเราถึงต้องหมั่นทบทวนกรมธรรม์อยู่เสมอค่ะ
4 เหตุผลว่า ทำไมเราถึงต้องทบทวนกรมธรรม์
1. เพื่อทบทวนข้อมูลของผู้เอาประกันชีวิต
เมื่อเวลาผ่านไป เราเองก็มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเหมือนกัน ทั้งที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ บางคนแต่งงานแล้วก็เปลี่ยนนามสกุล หรือบางคนก็อาจจะเปลี่ยนลายเซ็นต์ก็มี ถ้าเราไม่อัปเดตข้อมูลเหล่านี้ จะทำให้เกิดปัญหายุ่งยากตอนทำแฟกซ์เคลมกับโรงพยาบาล
เราจึงต้องอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย เราควรแจ้งอีเมลส่วนตัวไว้กับบริษัทเพื่อใช้ยืนยันตัวตน และแจ้งเลขบัญชีเพื่อให้บริษัทโอนเงินผลประโยชน์ให้เราได้ทันที ไม่ต้องรอรับเช็คทางไปรษณีย์เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
2. เพื่อทบทวนสวัสดิการหรือผลประโยชน์ที่ซื้อไว้
ส่วนใหญ่แล้วพอได้รับเล่มกรมธรรม์เราก็เอาเก็บไว้ในตู้ บางคนอาจไม่เคยเปิดอ่านเลยด้วยซ้ำ ทำให้เราจำไม่ได้ว่าซื้ออะไรไปบ้าง วงเงินคุ้มครองเท่าไหร่ ค่าห้องค่ารักษาพอไหมกับค่าเงินในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่วงเงินที่เคยซื้อไว้มักไม่พอ
เพราะค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ และมักจะสูงกว่าหมวดอื่น ๆ อีกด้วย อยู่ที่ 8-10% เลยทีเดียว เราจึงควรปรับวงเงินขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมค่าห้องค่ารักษาในปัจจุบัน และยังมีเรื่องสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ รวมถึงมีแบบประกันที่ลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรอัปเดตกันอย่างสม่ำเสมอ
3. เพื่อตรวจสอบชื่อผู้รับประโยชน์
คนส่วนใหญ่เริ่มทำประกันชีวิตตอนเริ่มทำงาน และมักใส่ชื่อผู้รับประโยชน์เป็นพ่อแม่ แต่ในระหว่างทางหากพ่อแม่เสียชีวิตไปก่อน และเราไม่ได้ทำเรื่องเปลี่ยนชื่อผู้รับประโยชน์ เมื่อเราเสียชีวิตไป เงินสินไหมนั้นก็จะต้องตกเป็นกองมรดก ถึงตอนนั้นก็ต้องใช้กฎหมายเข้ามาจัดสรรว่าใครจะเป็นผู้ได้รับไป แต่หากเราระบุไว้ชัดเจน เช่น มอบให้พี่หรือน้องที่ครองโสดไม่มีครอบครัว เพื่อดูแลพ่อแม่ แบบนี้ได้ เพราะกรรมธรรม์ก็เป็นเหมือนพินัยกรรมรูปแบบหนึ่งนั่นเอง
หรือถ้าเราแต่งงาน และอยากให้สามีหรือภรรยาเป็นผู้รับประโยชน์ แนะนำให้ซื้อกรมธรรม์ฉบับใหม่และมอบให้สามีหรือภรรยา ส่วนฉบับเดิมหากเกิดเหตุไม่คาดฝันเราจากไปก่อนวัยอันควร อย่างน้อยเราก็มีเงินก้อนเป็นค่าน้ำนมทดแทนบุญคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามา
4. เพื่ออัปเดตผลิตภัณฑ์
ทุกปีบริษัทประกันชีวิตจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมา เพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นและค่าใช้จ่ายของผู้เอาประกัน เช่น ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่สูงมากขึ้นเป็นหลักล้านบาท หรือประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง ที่หากตรวจพบบริษัทก็จ่ายเงินชดเชยให้ทันที หรือการผ่าตัดเล็กแบบ Day Surgery ค่าเวชภัณฑ์ที่เบิกได้เพิ่มขึ้น เช่น Walker รวมถึงการฉีดวัคซีนต่าง ๆ
หากเราทบทวนกรมธรรม์ เท่ากับเราได้ติดตามอัปเดตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ไปด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์กับเราที่จะได้โอกาสปรับกรมธรรม์ให้เหมาะสมกับปัจจุบันมากขึ้น
อ่านถึงตรงนี้แล้วเพื่อน ๆ ลองหยิบกรรมธรรม์ของตัวเองขึ้นมาทบทวนดูสักหน่อยดีไหมคะ ดูความคุ้มครองที่อยู่ในหน้าแรกและชื่อผู้รับประโยชน์ในท้ายเล่มกรมธรรม์ ควรหมั่นทบทวนกรมธรรม์เป็นระยะ ถ้าทำได้ทุกปีก็ดี แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ควรเกินห้าปี
อย่าลืมว่า...กรมธรรม์ก็เหมือนทรัพย์สินเงินสดก้อนหนึ่ง ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดให้เราใช้ได้ทันทีในยามจำเป็น
เรามา #คุยเรื่องประกันกับพี่ริน กันใหม่ในครั้งหน้านะคะ
#วางแผนบริหารกรมธรรม์
อ้างอิง :
https://siamrath.co.th/n/376799
ไลฟ์สไตล์
โตเกียวมารีน
ประกัน
3 บันทึก
1
2
3
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย