28 ก.ย. 2022 เวลา 02:31 • ความคิดเห็น
ธุรกิจเชยๆของครอบครัว
เมื่อวานผมได้มีโอกาสติดตามคณะหลักสูตร wing ไปนั่งฟังน้องเป้แห่งบาร์บีคิว พลาซ่า ถึงสำนักงานใหญ่
บาร์บีคิว พลาซ่าเป็นแบรนด์ที่โด่งดังและเติบโตเร็วในช่วงหลังๆแต่ก็เป็นเชนที่ดูต่างจากที่อื่นมาก ทั้งวิธีการทำการตลาดและความรู้สึกที่ดู “บ้านๆ” เป็นธุรกิจครอบครัวมากๆ ซึ่งพอเดินเข้าไปในสำนักงานใหญ่ก็รู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ แม่บ้าน ยาม พนักงานต้อนรับให้ความรู้สึกเหมือนมาเยี่ยมบ้านเพื่อนเป็นอย่างมาก
1
เป้ ชาตยา ปัจจุบันเป็นซีอีโอของ bbq plaza เป็นทายาทที่เติบโต ช่วยงานมากับร้านตั้งแต่คุณพ่อยังค่อยๆเปิดทีละร้าน น้ำจิ้มก็ยังต้มกันอยู่ในร้านในตอนนั้น ความเป็นธุรกิจครอบครัว ดูแลพนักงานแบบครอบครัวนั้นอยู่ในเรื่องเล่าแทรกเป็นระยะถึงพนักงานรุ่นบุกเบิกแต่ละคน พี่คนที่คิดสูตรน้ำจิ้ม เป็นคนต้มน้ำจิ้มเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ยังทำหน้าที่นั้นอยู่ หรือพี่พนักงานที่คุมร้านแรก ตอนนี้ก็ยังเป็นผู้บริหารคุม operation ฯลฯ
1
เป้เล่าถึงตอนที่เรียนจบกลับมาใหม่ๆ เห็นโลกมาเยอะ เห็นบริษัทระดับโลกมากมาย แล้วพอกลับมาทำงานในบริษัทครอบครัวเล็กๆ ก็เคยเกิดความท้อถอยว่าจะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้ ระบบก็ไม่ดี คนก็มีแต่คนเก่าแก่ ไม่ได้มีเทพการบริหารเหมือนคนอื่นเขา จนวันหนึ่งเป็นวันเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนความคิดเป้ ก็คือวันที่ได้ไปนั่งฟังคอร์สอบรมครึ่งวันเรื่อง family business
5
เรื่องราวที่เป้เล่าทำให้ผมนึกถึงเรื่องหนึ่งที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวกันขึ้นมา เป็นเรื่องจริงที่เพจ mission to the moon เคยเขียนสรุปไว้ ขอเอามาขัดแทรกก่อนเล่าต่อนะครับ…
เรื่องของผู้ชายชื่อ Cliff Young
Cliff Young เป็นชาวไร่มันฝรั่งชาวออสเตรเลียอายุ 61 ปี
เขามีแกะที่อยู่ในความดูแลของเขาถึง 2,000 ตัว ซึ่งเขาจะต้อนพวกมันด้วยการใช้ตัวเองเป็นคนต้อน
บางทีการต้อนแกะเยอะขนาดนี้ทำให้เขาไม่ได้นอนถึงสองวันติดๆกัน โดยเฉพาะสมัยหนุ่มๆ
อยู่มาวันนึง Cliff Young เกิดอยากลงแข่งวิ่งขึ้นมา
เขาไม่เคยแข่งวิ่งอะไรมาก่อนเลย จนกระทั่งอายุ 61 ปี
แต่เขาไม่ได้ลงแข่งวิ่ง มินิมาราธอน หรือฮาล์ฟมาราธอนหรือมาราธอน แต่ลุงลงแข่งวิ่งรายการ Ultramarathon
ที่วิ่งจาก Sydney ไป Melbourne ระยะทางรวม 875 กิโลเมตร นี่คือรายการที่นักกีฬาระดับโลกต่างเข้าร่วมแข่งขัน
1
เมื่อเริ่มแข่งขันเหล่านักกีฬาคนอื่นนี่อุปกรณ์จัดเต็ม สปอนเซอร์มาเพียบ และส่วนใหญ่อายุแถวๆ 30 กันทั้งนั้น ส่วนคุณลุง Cliff Young มาแบบงงๆสปอนซง สปอนเซอร์อะไรไม่มีทั้งนั้น
ทันทีที่เริ่มวิ่งนักวิ่งคนอื่นก็ทิ้ง Cliff Young ไปแบบไม่เห็นฝุ่น ตอนวิ่งช่วงแรกๆผู้จัดแอบเป็นห่วงแกกลัวแกจะตายเอา
วันแรกที่วิ่งรั้งท้ายอยู่ รถพยาบาลยังถามเลยว่าลุงจะขึ้นรถไหม จะไหวไหมลุง ปกติการวิ่งแบบนี้จะใช้วิธีการวิ่ง 17-18 ชั่วโมงและหลับ 6-7 ชั่วโมง ซึ่งนักกีฬาทุกคนก็ทำแบบนี้
นอกจาก Cliff Young
เพราะแกไม่รู้ว่าเขาให้นอนได้ด้วย !
แกก็เลยวิ่งของแกไปเรื่อยๆ บางช่วงแอบงีบแวบๆทีละชั่วโมง โดยพยายามงีบไม่ให้มีคนเห็น
ไม่ต้องมีเทคนิคการวิ่งไม่ต้องมีวิทยาศาตร์การกีฬา มันเป็นเรื่องของใจล้วนๆ
2
ล่วงเข้าวันที่สาม Cliff Young จากที่โหล่กลายเป็นผู้นำ ตอนนี้สื่อทุกสื่อพุ่งความสนใจมาที่เขา กองเชียร์จำนวนมากตามมาให้กำลังใจ
Cliff Young เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่หนึ่ง ด้วยเวลา 5 วัน 14 ชั่วโมง 35 นาที เร็วกว่าที่สองถึง 10 ชั่วโมง ทำลายสถิติของการแข่งขันนี้ลงอย่างราบคาบ
2
นี่คือกระต่ายกับเต่าอย่างแท้จริง พอได้รับรางวัลชนะเลิศ 10,000 เหรียญ แกยังงงๆ เพราะแกไม่ได้จะมาแข่งเพื่อเอาเงิน เลยแบ่งเงินให้คนที่เข้าเส้นชัยตามๆแกมาคนละเท่าๆกัน
1
Cliff Young ได้กลายเป็นตำนานของนักวิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลก เขาเริ่มต้นจากความไม่รู้และความไม่พร้อม แต่มีหัวใจและความอึดอยู่เต็มกำลัง
3
ที่ผมนึกถึงเรื่องนี้ก็เพราะเป้บอกว่า ในวันนั้นวิทยากรเล่าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดที่เป้ไม่เคยรู้ ก็คือว่าธุรกิจสำคัญๆในโลกส่วนใหญ่เป็นธุรกิจครอบครัวแทบทั้งสิ้น ผมเองก็เคยคุยกับพวก fund manager เก่งๆ พวกนี้ก็จะชอบธุรกิจครอบครัวมากๆ
1
ด้วยเหตุผลเดียวกับที่วิทยากรคนนั้นบอกเป้ ไม่ว่าระบบจะไม่ดียังไง ไม่ว่าคนจะเก่งสู้กับคนอื่นไม่ได้ยังไง แต่เจ้าของกิจการนั้นมีจุดเด่นที่สุดก็คือความเป็นเจ้าของ คิดเรื่องงาน คิดเรื่องธุรกิจ รู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่ทำ แถมคิดแก้ปัญหากันตลอดเวลาที่ตื่น เจ็ดวันไม่มีวันหยุด พลังแห่งความเป็นเจ้าของนั้นโดดเด่นจนต่อให้อย่างอื่นด้อยกว่า ก็ชดเชยจนส่งผลให้ธุรกิจครอบครัวเติบใหญ่มานักต่อนั
5
เป้กลับมาบริษัท (บ้าน) ด้วยความตื่นเต้นกับมุมมองที่เปลี่ยนไป รู้สึกภูมิใจและเห็นถึงจุดแข็งของธุรกิจครอบครัวที่เดิมไม่เคยเห็น แล้วก็ใช้พลังแห่งความเป็นเจ้าของนั้นผลักดันบาร์บีคิวพลาซ่ามาจนถึงวันนี้ ระหว่างที่คุยเรื่องนี้
เป้ก็ยังหันไปคุยขำๆกับด๋อน สามีซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันที่นั่งข้างๆว่า เราเองก็คุยงานกันแม้กระทั่งตอนอยู่บนเตียงลูกด้วยซ้ำ.
ในค่ำวันเดียวกัน ผมก็ได้เจอพี่เต่า แห่งเต่าบิน ได้มีโอกาสถามเรื่องตู้เต่าบินที่กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้ พี่เต่าก็เล่าถึงเรื่องราวคล้ายกับเป้ว่า ที่ตู้เต่าบินเกิดขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้นก็เพราะพี่เต่าลงมือเอง คลุกคลีกับตู้เองทั้งวันทั้งคืน พี่เต่าบอกว่า ถ้าให้พวกลูกน้องทำ น่าจะใช้เวลาสี่ห้าปี
แต่พี่ลงมือเองใช้เวลาแค่ปีกว่าๆ ก็เพราะพี่คิดถึงตู้ตลอดเวลา คิดถึงปัญหามาจากบ้าน มาถึงก็ลงมือทำเลย พวกลูกน้องมาถึงที่ทำงานแล้วค่อยคิด …มันต่างกันมากเลยนะ
2
พี่เต่าพูดจนทำให้ผมเห็นภาพเดียวกับที่เป้เล่าเลยทีเดียวและก็เป็นภาพเดียวกับคุณลุงคลิฟ ยังที่วิ่งทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมหลับนอนเช่นกัน..
1
ใครที่กำลังเริ่มกลับมาช่วยงานที่บ้าน กำลังมองว่าธุรกิจครอบครัวทำไมดูไม่ทันสมัย ไม่เท่ เหมือนกับที่เคยไปร่ำเรียนฝึกงานเมืองนอกเมืองนามา ลองมองในมุมเป้ ในมุมพี่เต่า และในมุมนักลงทุนทั่วโลกที่ชอบ family business มากๆกันดู อาจจะเห็นมุมมองที่เปลี่ยนไปก็ได้นะครับ…
1
โฆษณา