28 ก.ย. 2022 เวลา 03:21 • หนังสือ
พลังแห่งการรักตัวเอง the power is within you.
ฉันเชื่อว่าพวกเราแต่ละคนตัดสินใจเกิดมาบนโลกนี้ในช่วงเวลาและพื้นที่เฉพาะเจาะจง เราเลือกที่จะมาที่นี่เพื่อเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง ซึ่งจะพัฒนาเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและวิวัฒนาการของเรา
Part1
บทที่1 พลังภายใน
ยิ่งคุณเชื่อมโยงกับพลังในตัวเองได้มากเท่าไหร่
คุณก็จะเป็นอิสระในชีวิตทุกๆด้านมากเท่านั้น
เราต้องเข้าใจว่าเรามีทางเลือกที่จะใช้พลังนี้ไปทางใดก็ได้ หากเลือกที่จะจมอยู่กับอดีต และทบทวนทุกสถานการณ์และทุกเงื่อนไขในทางลบที่พาย้อนกลับไปในอดีตซ้ำๆ เราก็จะก้าวต่อไปไม่ได้ ถ้าตัดสินใจอย่างมีสติว่าจะไม่เป็นเหยื่อและเดินหน้าสร้างชีวิตใหม่ต่อไป เราจะได้รับการสนับสนุนจากพลังภายในนี้
ความรับผิดชอบกับการกล่าวโทษ
ฉันยังเชื่ออีกว่าเรามีส่วนในการสร้างทุกเงื่อนไขในชีวิตไม่ว่าจะดีหรือแย่ ด้วยความคิดและรูปแบบความรู้สึกของเรา ความคิดของเราจะสร้างความรู้สึกจากนั้นเราจะเริ่มใช้ชีวิตตามความรู้สึกและความเชื่อนั้น เมื่อฉันพูดถึงความรับผิดชอบ ฉันกำลังพูดถึงการมีพลังอยู่จริงๆ การขอโทษคือการทิ้งพลังของตัวเองไป ส่วนการรับผิดชอบให้พลังเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเรา
ถ้ายอมเล่นบทเหยื่อแสดงว่าเราใช้พลังส่วนตัวทำให้เราเป็นคนอ่อนแอ ถ้าตัดสินใจที่จะรับผิดชอบเราก็จะไม่เสียเวลากล่าวโทษใครบางคนหรือสิ่งภายนอก
บทที่2 ตามเสียงในใจของฉัน
ความคิดที่เราเลือกคิดคืออุปกรณ์ที่เราใช้ในการระบายสีสันลงบนผ้าใบแห่งชีวิต
ไม่ว่าคุณจะอยู่จุดไหนในชีวิต ไม่ว่าคุณจะก่อให้เกิดอะไรขึ้นมาก็ตามไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราทำดีที่สุดเท่าที่เราทำได้แล้วเสมอ หรือความเข้าใจสติสัมปชัญญะและความรู้เท่าที่เรามีในตอนนั้น และเมื่อคุณรู้มากขึ้นก็ทำให้
แตกต่างจากเดิมอย่างที่ฉันทำได้ อย่าตำหนิตัวเอง
จงพูดว่าฉันทำดีที่สุดแล้ว
การรักตัวเองเป็นหนทางมหัศจรรย์ที่คุณจะได้ฉุกคิดและเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าชีวิตคืออะไร แล้วจะใช้จิตใจควบคุมชีวิตของตัวเองได้อย่างไร เมื่อ 20 ปีก่อนที่เริ่มต้นศึกษาเรื่องนี้ ฉันไม่นึกไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะนำความหวังและความช่วยเหลือมาให้ผู้คนอย่างที่ทำในวันนี้
บทที่3 พลังของคำพูดที่เปล่งออกมา
ประกาศกับตัวเองทุกๆวันว่าเราอยากได้สิ่งใดในชีวิต
ประกาศออกมาให้เหมือนกับว่าคุณได้สิ่งนั้นมาแล้ว
กฏแห่งจิตใจ
ความคิดของเราสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้ ความคิดเดินทางเข้าสู่จิตใจได้รวดเร็วมากจึงเป็นเรื่องยากที่จะปรับความคิดให้เป็นรูปร่างก่อน ในทางกลับการปากของเราทำงานช้ากว่า เราจึงควบคุมมันได้ง่ายกว่าจิตใจ ถ้าเราเริ่มแก้ไขการพูดจาของเราโดยการฟังสิ่งที่เราพูดแล้วไม่ปล่อยให้เรื่องลบลบออกมาจากปากเราก็จะเริ่มปรับความคิดได้
คำพูดของเรามีพลังมหาศาลแต่หลายคนไม่รู้
จงคิดว่าคำพูดคือรากฐานของสิ่งที่เราจะสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของเรา คนเราพูดอยู่ตลอดเวลาแต่ก็เหมือนเราแค่ขยับปากออกเสียงไปอย่างนั้น เราแทบจะไม่คิดถึงสิ่งที่พูดหรือวิธีพูดจริงๆเลย เราแทบไม่เคยสนใจการเลือกใช้คำพูด ที่จริงพวกเราพูดแต่แง่ลบด้วยซ้ำ
เปลี่ยนวิธีพูดกับตัวเอง
การพูดกับตัวเองจะช่วยสร้างบรรยากาศทางจิตใจซึ่งเราเป็นคนปฏิบัติและเป็นสิ่งที่ดึงดูดประสบการณ์ต่างๆมาสู่เรา ถ้าด้อยค่าตัวเองชีวิตของเราก็จะไร้ค่าตามไปด้วยถ้าเรารักและรับรู้คุณค่าของตัวเองอย่างลึกซึ้ง ชีวิตของเราก็จะเป็นของขวัญที่น่ายินดีอย่างยิ่งยวด
พลังของเรามาจากความรับผิดชอบชีวิตของเราเอง ถ้าอยากรับผิดชอบชีวิตตัวเองก็จะต้องรับผิดชอบปากของเรา คำพูดที่เราเอ่ยออกมาคือการขยายความคิดเรา
ยกเลิกใช้คำว่าต้องและใช้คำว่าเลือกที่จะ แทน
ยกเลิกใช้คำว่าอย่าลืมและใช้คำว่าโปรดจำไว้
พลังของจิตใต้สำนึก
จิตใต้สำนึกของเราไม่มีการตัดสิน จิตใต้สำนึกยอมรับสิ่งที่เราพูดและสร้างขึ้นตามความเชื่อของเรา จิตใต้สำนึกจะตอบว่าใช่เสมอ จิตใต้สำนึกรักเรามากพอที่จะตอบสนองต่อความปรารถนา เรายังมีตัวเลือกอยู่ถ้าเราเลือกแนวคิดและความเชื่อที่ขัดสนจิตใต้สำนึกก็คิดว่าเราอยากได้สิ่งนี้ก็จะให้สิ่งเรานี้กับเราจนกว่าเราจะเต็มใจเปลี่ยนแปลงความคิดคำพูดและความเชื่อ
บทที่4 คิดใหม่
เต็มใจออกเดินก้าวแรก ไม่ว่าก้าวนั้นจะเล็กเพียงใด
จดจ่อกับความจริงที่ว่าคุณเต็มใจจะเรียนรู้ ปาฏิหาริย์ที่แท้จริงจะเกิดขึ้น
การยืนยันกับตัวเองได้ผลจริง
จิตใต้สำนึกที่ทำตรงไปตรงมาสูง มันไม่มีแผนการหรือรูปแบบ สิ่งที่จิตใต้สำนึกได้ยินคือสิ่งที่จิตใต้สำนึกจะทำ
คุณจำเป็นต้องประกาศความปรารถนาของคุณอย่างชัดเจนในแง่บวก
ถ้าคุณมีบางสิ่งในชีวิตที่คุณไม่ชอบ ฉันพบว่าวิธีเร็วที่สุดที่เราจะปล่อยสิ่งนั้นไปได้คือการแผ่เมตตา
ฉันขอแผ่เมตตาให้เธอและขอปลดปล่อยเธอไปจากชีวิตของฉัน
คุณคู่ควรกับสิ่งที่ดี
สิ่งที่คุณต้องการจริงๆตอนนี้คืออะไร ลองพูดว่า
ฉันยอมรับ… ให้ตัวเอง
ฉันมีคุณค่า
ฉันคู่ควร
ฉันรักตัวฉันเอง
ฉันอนุญาตให้ตัวเองสมปรารถนา
สั่งอาหารจากครัวจักรวาล
การยืนยันกับตัวเองเหมือนกันสั่งอาหารจากครัวจักรวาล ถ้าคุณเข้าร้านอาหารและพนักงานมารับออเดอร์ คุณก็ไม่ได้ตามพวกเขาเข้าครัวไปดูว่าเฉียบได้รับออเดอร์ของคุณไหม หรือเชฟจะเตรียมอาหารให้คุณอย่างไร เพราะคุณจะวางใจและเข้าใจว่าอาหารของคุณกำลังถูกจัดเตรียมและจะมีคนนำมาเสิร์ฟเมื่อทำเสร็จ ซึ่งก็เหมือนกับการเริ่มพูดยืนยันกับตัวเอง
เชฟผู้ยิ่งใหญ่หรือพลังเบื้องบนของเราจะเตรียมอาหารให้เรา เพราะฉะนั้น คุณจงใช้ชีวิตต่อไปโดยรับรู้ว่าสิ่งที่คุณต้องการกำลังถูกจัดเตรียมตามสั่ง มันกำลังจะเกิดขึ้นม
ปรับเปลี่ยนจิตใต้สำนึก
ความคิดต่างๆของเราเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยเรื่อย เมื่อเราไม่ระวัง ความคิดเดิมก็จะโผขึ้นมา เพราะเราเริ่มปรับเปลี่ยนจิตใจของตัวเองใหม่ เราจะก้าวเดินมาข้างหน้าไม่กี่ก้าวแล้วก็ถอยหลังไปเล็กน้อย แล้วก็ก้าวมาข้างหน้าอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา นี่เป็นการฝึกฝนส่วนนึง ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะเรียนรู้ทักษะใหม่ได้ทั้งหมด 100% ในเวลาแค่ 20 นาทีแรก
บทที่5 เข้าใจอุปสรรคที่ผูกมัดคุณ
รูปแบบของการเกลียดตัวเอง ความรู้สึกผิด และการวิจารณ์ตัวเอง ที่เราทำเป็นประจำจะเพิ่มระดับความเครียดให้กับร่างกาย และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ผู้คนในชีวิตเหมือนเป็นกระจกสะท้อนความเชื่อบาง ย่างที่คุณมีกับตัวเอง
-หยุดการวิจารณ์ทุกรูปแบบ
-ความรู้สึกผิดทำให้เรารู้สึกเป็นรอง
บทที่6 ปลดปล่อยความรู้สึก
โศกนาฏกรรมกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดได้หากเราเข้าหามันด้วยวิธีที่เราจะเติบโตจากมัน
-ปลดปล่อยความโกรธด้วยวิธีแง่บวก
เหตุการณ์นั้นจบแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว ฉันไม่ยอมรับการกระทำของเธอ แต่ฉันเข้าใจว่าเธอทำดีที่สุดที่เธอจะทำได้ ด้วยความรู้และความเข้าใจที่เธอมีในตอนนั้น
ฉันพอแล้ว ฉันขอปลดปล่อยเธอไป เธอเป็นอิสระและฉันก็เป็นอิสระเช่นกัน
โดยส่วนใหญ่คุณสนใจอะไร นั่งหน้ากระจก 10 นาทีมองดูตัวเองแล้วถามว่าคุณเป็นใคร สิ่งที่คุณต้องการคืออะไร อะไรทำให้คุณมีความสุข
ฉันทำอะไรให้คุณมีความสุขได้บ้าง ตอนนี้เป็นเวลาที่เราต้องทำอย่างอื่นแล้ว มาสร้างพื้นที่ใหม่ภายในตัวคุณเองให้เต็มไปด้วยความเบิกบานมองโลกในแง่ดี และมีมิตรไมตรีกันเถอะ
-ความขุ่นเคืองใจก่อให้เกิดความเจ็บป่วยหลากหลายชนิด การเก็บกดความรู้สึกต่างๆจะนำไปสู่โรคซึมเศร้า
-ความกลัวคือการไม่เชื่อใจ
ความกลัวคือการขาดความเชื่อใจตัวเองเพราะเราไม่เชื่อในชีวิตของเราเอง เราไม่เชื่อว่ามีตัวตนเบื้องบนคอยดูแลเรา ดังนั้นเราเลยรู้สึกว่าเราจะต้องควบคุมทุกอย่างในระดับกายภาพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะรู้สึกกลัวเพราะว่าเราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างในชีวิตได้
จงถามตัวเองเพื่อจะได้เอาใจใส่ตัวเอง ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้หัวใจร่างกายและจิตใจแข็งแรง หันมาพึ่งพลังภายในตัวคุณ ค้นหาการเชื่อมโยงทางที่วิญญาณที่ดี และพยายามรักษามันไว้
บทที่7 ก้าวข้ามความเจ็บปวด
เราเป็นได้มากกว่าร่างกายและบุคลิกภาพของเรา จิตวิญญาณภายในและสวยงามและน่าชื่นชม ไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม
Part3 รักตัวเอง
วิธีรักตัวเอง
ไม่ควรให้อภัยตัวเองและยอมปล่อยปล่อยไม่เพียงแค่ภาระทำหนักมหาศาลจะถูกยกออกจากป่าแต่ประตูสู่การรักตัวเองของคุณจะถูกเปิดด้วย
ขั้นตอนเพื่อการรักตัวเอง
1.หยุดวิจารณ์ตัวเอง
2.หยุดสร้างความกลัวให้ตัวเอง
3.อ่อนโยน ใจดี และอดทนกับตัวเอง
4.ใจดีต่อจิตใจของเราเอง
5.ชื่นชมตัวเอง
6.การรักตัวเองหมายถึงการสนับสนุนตัวเองด้วย
7.รักข้อเสียของตัวเอง
8.ดูแลร่างกายของคุณ
9.บอกรักตัวเองหน้ากระจก
10.รักตัวเองตอนนี้เลย
บทที่9.รักเด็กน้อยที่อยู่ภายใน
ถ้าคุณใกล้ชิดคนอื่นอื่นไม่ได้มันเป็นเพราะว่า คุณไม่รู้วิธีเข้าใกล้เด็กน้อยภายในตัวคุณเ ด็กน้อยภายในตัวคุณกลัวและเจ็บปวด จงอยู่เคียงข้างเด็กน้อยคนนั้น
บทที่10.การเติบโตและการร่วงโรย
จงเข้าใจพ่อแม่ของคุณเช่นเดียวกับที่คุณอยากให้เขาเข้าใจ
Part 4 นำสติปัญญาของคุณมาใช้
ทุกๆทฤษฎีบนโลกใบนี้จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าไม่เริ่มลงมือเปลี่ยนแปลงในแง่บวกและเยียวยา
รับความเจริญรุ่งเรือง
เมื่อเราเริ่มหวาดกลัว เราจะอยากควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง
จากนั้นเราก็จะปิดกั้นกระแสความดีงามของเรา จงเชื่อมั่นในชีวิต ทุกทุกอย่างที่เราต้องการอยู่ตรงนี้แล้วเพื่อเรา
โฆษณา