[Bnomics] ทำไมนโยบายลดภาษี อาจทำให้ค่าเงินปอนด์เข้าสู่วิกฤติ ค่าเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักร ร่วงลงเกือบ 5% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่คุณ Kwasi Kwarteng รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออกมาประกาศว่า จะยังคงด

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

28 ก.ย. 2022 เวลา 12:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทำไมนโยบายลดภาษี อาจทำให้ค่าเงินปอนด์เข้าสู่วิกฤติ

ค่าเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักร ร่วงลงเกือบ 5% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

หลังจากที่คุณ Kwasi Kwarteng รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออกมาประกาศว่า จะยังคงดำเนินนโยบายลดภาษีอย่างต่อเนื่อง และจะกู้เงินมาชดเชยรายได้ในส่วนที่หายไปแทน

แต่การลดภาษีในครั้งนี้ อาจทำให้สหราชอาณาจักรต้องเผชิญกับวิกฤติค่าเงินปอนด์

อีกทั้งหลายฝ่ายยังออกมาวิจารณ์ว่า นโยบายนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้สูงอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือผู้ที่เผชิญปัญหาค่าครองชีพสูงในปัจจุบัน อีกด้วย

📌 ภาษี เครื่องมือนโยบายการคลัง ที่ใช้ในการบริหารเศรษฐกิจ

โดยปกติแล้ว เครื่องมือหรือวิธีการที่รัฐบาลใช้ในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ มี 3 ชนิด คือ

1.
นโยบายด้านภาษีอากร (Tax Policy)
2.
นโยบายงบประมาณ (Budget Policy)
3.
นโยบายบริหารหนี้สาธารณะ (Public Debt Management Policy)

ในช่วงที่เศรษฐกิจร้อนแรง รัฐบาลอาจชะลอความร้อนแรงด้วยการใช้นโยบายการคลังแบบหดตัว (Contractionary fiscal policy) เช่น การเพิ่มภาษี เพื่อดึงเงินกลับเข้าสู่ระบบ

แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงถดถอย หรือ รัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ภาครัฐอาจใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัว (Expansionary Fiscal Policy)

เช่น การปรับลดภาษี เพื่อให้คนมีเงินมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

ซึ่งในกรณีที่สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ วิกฤติค่าครองชีพ

และเศรษฐกิจหดตัวจากปัญหาเงินเฟ้อ ทางธนาคารกลางจึงต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น

ในขณะที่ฝั่งรัฐบาลก็หันมาใช้เครื่องมือด้านภาษี ในการกระตุ้นเศรษฐกิจแทน

โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ Liz Truss ได้ออกมาตรการลดภาษีครั้งที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ปี 1972

ซึ่งแผนการลดภาษีในครั้งนี้ ประกอบด้วย

●
การตัดลดภาษีเงินได้นิติบุคคล มูลค่า 12,000 ล้านปอนด์
●
การตัดลดเงินนำส่งกองทุนประกันสังคมของสหราชอาณาจักรลง มูลค่า17,000 ล้านปอนด์
●
การตัดลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอัตราพื้นฐาน มูลค่า 5,000 ล้านปอนด์ และอัตรา 45% อีก มูลค่า 2,000 ล้านปอนด์

📌 เงินปอนด์ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

มาตรการในครั้งนี้ได้ไปกระตุ้นให้ เกิดการเทขายเงินปอนด์และพันธบัตรรัฐบาล

เนื่องจากนักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์กังวลว่า หนี้ของสหราชอาณาจักรในตอนนี้นั้นสูงอยู่แล้ว

และหากยังลดภาษีอีกอาจทำให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการหนี้ในครั้งนี้ได้

หลังจากการประกาศลดภาษีในครั้งแรก เงินปอนด์ก็ร่วงลงต่ำกว่า 1.11 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1985

การขาดข้อจำกัดทางนโยบายการคลัง และ ปัญหาเงินเฟ้อ ได้ไปทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน

โดยนักลงทุนห็นว่า มีความเป็นไปได้ถึง 50% ที่ธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1% เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับ 3.25% ในเดือนพฤศจิกายน

แผนการลดภาษีในครั้งนี้ เป็นการลดภาษีครั้งที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ปี 1972

ตั้งแต่สมัยที่ Ted Heath เป็นนายกรัฐมนตรี และ Anthony Barber เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ซึ่งแผนในครั้งนั้น ทำให้เกิด อัตราเงินเฟ้อและหนี้สินที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องใช้เวลากว่า 10 ปีกว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

อย่างไรก็ตาม คุณ Kwasi Kwarteng รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออกมาประกาศว่า จะยังคงดำเนินนโยบายลดภาษีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ค่าเงินปอนด์ร่วงลงเกือบ 5% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ค่าเงินร่วงลงจำนวนมากเกิดขึ้นจากการเทถูกขายออกไปใน 20 นาที

ค่าเงินปอนด์ประสบปัญหาร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 1.0350 ดอลลาร์

ค่าเงินปอนด์ที่ร่วงลงแสดงให้เห็นว่าตลาดขาดความมั่นใจในสหราชอาณาจักร

และอีกส่วนก็มาจากการที่สหรัฐได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งนโยบายทางการคลังในครั้งนี้

อาจทำให้ Liz Truss ต้องเผชิญกับการจลาจลจากสมาชิกสภาในสหราชอาณาจักร หากค่าเงินปอนด์ยังคงตกลงอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากฝ่ายค้านกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สำหรับคนรวย

และจะบังคับให้ธนาคารกลางต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ซึ่งอาจส่งผลต่อไปยัง การเงินของครอบครัวหลายล้านครอบครัวที่กำลังต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและค่าพลังงานที่สูงขึ้น

ในขณะเดียวกัน ฝั่งตลาดการเงินบางแห่งได้เรียกร้องให้ธนาคารอังกฤษออกมาตรการฉุกเฉิน

เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เงินปอนด์ตกลงไปมากกว่านี้

ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ เป็นการกระทำที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยุคปัจจุบัน