รีวิว “ชิน อุลตร้าแมน”
ว่าด้วยความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์และพัฒนาการของตัวละครหลักในเรื่อง
“นี่คือการตีความใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายเก่าๆไว้ได้อย่างลงตัว”
ต้องขอออกตัวสักนิดไว้ก่อนรีวิว ผมดู “อุลตร้าแมน” มาตั้งแต่อยู่อนุบาลแล้ว เท่าที่จำความได้อุลตร้าแมนตัวแรกที่ผมดูคือ “อุลตร้าแมนทาโร่”…(เมื่อก่อนตอนนั้นเขานำมาฉายในฟรีทีวี) แล้วนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอุลตร้าแมนอีกหลากหลายตัวก็ได้ทยอยเข้ามาโลดแล่นในโลกแห่งวัยเด็กของผม…
ความรู้สึกหลังจากที่ผมดูภาพยนตร์เรื่อง “ชิน อุลตร้าแมน” จบ คือ “อารมณ์ (แม่ม) แบบโคตรพรั่งพรู”
ความรู้สึก “ว้าว” คือ ดังก้องกังวาลอยู่ในอก ตั้งแต่ไดัยิน sound ประกอบที่คุ้นเคยเหมือนเมื่อครั้งที่ได้รับชมอุลตร้าแมนตอนยังเป็นเด็ก (อะไรมันจะสามารถขุดลอกความทรงจำเก่าๆครั้งเยาว์วัยในวันวานได้ดีถึงเพียงนี้ว่ะเนี่ยยยย!!! 😁)
ผู้กำกับสามารถสะกดคนดูได้อย่างอยู่หมัดตั้งแต่เปิดฉากแรกของเรื่อง หากยิ่งเป็นแฟนอุลตร้าแมนตัวยงด้วยยิ่งแล้วละก็ คุณจะรับรู้ได้ถึง “ความคลาสสิก” ของ intro เปิดเรื่อง
หนังยาวราว 2 ชั่วโมงได้ แต่ให้ความรู้สึกว่า “ไม่ยาวเลย” หนังไม่มีจังหวะน่าเบื่อเลยสักนิด เผลอๆ มีแต่จะคอยเร่งเครื่องบิ้วอารมณ์คนดูให้อยากตามติดเนื้อเรื่องต่อๆไปก่อนที่เนื้อเรื่องในส่วนก่อนหน้าจะค่อยๆแผ่วลงเสียอีก
ตัวละครที่เป็นสมาชิกในทีมหน่วยพิทักษ์โลกต่างมีมิติตัวตนในแบบของตัวเอง ทุกคนต่างมีจุดแข็ง-จุดอ่อนของตัวเอง ซึ่งพอทุกคนมาทำงานร่วมกันเป็นทีม ต้องขอบอกได้ก่อนเลยว่าให้ความรู้สึกที่ “กลมกล่อม”
กันเลยทีเดียว
แทบจะกล่าวได้ว่านี้คือทีมที่มีความใกล้เคียงกับคำว่า “อุดมคติ” มากที่สุดแล้วเท่าที่องค์กรๆหนึ่งในชีวิตจริงจะมีได้ ซึ่งสิ่งๆหนึ่งที่ทำให้ทีมสามารถทำงานเข้าขาด้วยกันเป็นอย่างดีคือ “ความหลากหลายของสมาชิกภายในทีม” สิ่งๆนี้นี่เองที่คอยหล่อเลี้ยง “ความสมดุล” ในหมู่คณะให้สามารถคงอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง
ผู้กำกับออกแบบทีมของตัวละครออกมาได้เป็นอย่างดี
พัฒนาการของตัวละครคือดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวอุลตร้าแมนเลย อันที่จริงแล้วเราก็สามารถพอที่จะกล่าวได้ว่า “อุลตร้าแมนก็คือมนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์หนึ่งน่ะแหละ” แต่เรามักจะมีภาพจำติดหัวมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัยว่า อุลตร้าแมนคือ “ฮีโร่ที่คอยปกป้องโลก” ซึ่งในส่วนนี้นี่เองที่ทำให้เรายกฐานะของ “อุลตร้าแมน” ให้อยู่เหนือมนุษย์ต่างดาวตัวอื่นๆที่เข้ามารุกรานโลก
แน่นอนว่าด้วยข้อเท็จจริงข้อนี้ อุลตร้าแมนก็เปรียบได้ดั่งคนที่เข้ามาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งในระยะแรกๆ ความคิดความอ่านของเขาก็ยังคงยึดติดกับความเป็น “ปัจเจก” ของตัวเองอยู่ แต่พอเขาได้เข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่อย่างโลกมนุษย์ แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมมีส่วนบีบให้เขาต้องปรับตัว ซึ่งนั้นมีอิทธิพลอย่างมากที่ช่วยขับเน้นตัวตนของมนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์หนึ่งจากดวงดาวแห่งแสงมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นกล่าวคือ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคนรอบข้างอย่างคนในทีมมากขึ้น!!!
ซึ่งวิธีการหนึ่งที่อุลตร้าแมนใช้เพื่อเรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์มากขึ้น คือ “อ่านหนังสือ” ซึ่งส่วนตัวคิดว่าวิธีการดังกล่าวนั้นสนับสนุนแนวคิดของผมที่มีอยู่ว่า “การอ่านช่วยเติมเต็มให้มนุษย์มีความเป็นมนุษย์ที่มากยิ่งขึ้น” อุลตร้าแมนได้พิสูจน์แนวคิดข้อนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 😆
สำหรับคนที่ดูตัวอย่างหนังก็น่าจะพอเดาได้ว่า เนื้อเรื่องของ “ชิน อุลตร้าแมน” ก็จะ “อ้างอิง” มาจากฉบับทีวีซีรีส์ในปี 1966 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมก็อยากให้เพื่อนๆที่เป็นแฟนอุลตร้าแมนได้ไปรับชมกันเองครับ พูดอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นการสปอยล์จนเสียอรรถรสการรับชมของคนที่ยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้
ส่วนตัวให้คะแนน 9/10 นะครับ เพราะอาจจะรู้สึกขัดๆกับ CG ในหนังเรื่องนี้บ้าง (แต่มันอาจเป็นความจงใจของผู้กำกับและทีมงานที่อยากนำเสนอรูปลักษณ์ของอุลตร้าแมนและสัตว์ประหลาดที่ปรากฏในหนัง)
ขอบคุณมากๆนะครับ สำหรับทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านความคิดเห็นของผมในโพสต์นี้
ป.ล. นี่น่าจะเป็นรีวิวหนังแบบจัดเต็มครั้งแรกของผมด้วย 😁 สามารถให้คำแนะนำหรือติชมหลังจากการอ่านรีวิวของผมได้เลยนะครับ
ชิน อุลตร้าแมน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
