Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Sporting News Thailand
•
ติดตาม
29 ก.ย. 2022 เวลา 09:06 • กีฬา
#TSN : 2 สัปดาห์ผ่านไป : แกรห์ม พอตเตอร์ เปลี่ยนเชลซีมากน้อยแค่ไหน?
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนในช่วงยังไม่ถึงกลางฤดูกาลของเชลซี ในการปลดโธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมที่พาเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อย่างเลือดเย็น ซึ่งการล้างระบบเก่าของทอดด์ โบห์ลี เจ้าของใหม่ที่มีแนวทางอันชัดเจน
ก่อนเลือกแกรห์ม พอตเตอร์ อดีตผู้จัดการทีมไบรท์ตันมาร่วมทีม เพื่อแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทิศทางของเชลซีในยุคของเขากำลังจะดำเนินไปในทิศทางไหน
มีการเปลี่ยนแปลงเริ่มมีมากขึ้นภายในทีมเชลซีชุดปัจจุบัน และเวลาช่วงเบรคทีมชาติที่ผ่านไป ช่วยส่งเสริมการพัฒนาในยุคโค้ชใหม่ได้อย่างไรบ้าง
[เวลาที่เพิ่มขึ้น]
สิ่งที่น่าเป็นห่วงของพอตเตอร์คือเขายังไม่เคยจับงานทีมสโมสรระดับยักษ์ใหญ่แม้แต่งานเดียว ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นในหมู่แฟนฟุตบอลเชลซี
แน่นอนว่าไม่มีใครที่ปฎิเสธในแทคติคฟุตบอลเกมบุกที่น่าหลงไหลของเขา แต่ว่าสำหรับทีมใหญ่มันเป็นอีกระดับเมื่อตัวผู้จัดการทีมเองต้องพบเจอกับความกดดันในทิศทางที่ต่างออกไปจากเดิม สภาพแวดล้อมไม่ใช่แบบเดิม และนักเตะที่มีอีโก้จัดการได้ยากขึ้น
ทำให้ประเด็นแรกที่ต้องจัดการคือพอตเตอร์จะทำอย่างไรให้นักเตะเหล่านี้เชื่อใจได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้นักเตะชุดนี้ลงไปเล่นแบบเต็มที่
ระหว่างที่มีโปรแกรมหนักหน่วงในเส้นทางสู่ฟุตบอลโลก พอตเตอร์เริ่มการคุมทีมในเกมแรกกับการเปิดบ้านเสมอ เรดบูล ซัลซ์บวร์ก 1-1 ในรายการยูซีแอล แค่เสมอเท่านั้นก็เกิดคำถามกับผู้จัดการทีมรายนี้ว่า ไหวหรือเปล่า?
แต่ถือเป็นโชคดีที่พวกเขาได้เวลาพักเพิ่มเติม ไม่ต้องแข่งกับใหญ่ในพรีเมียร์ลีกกับลิเวอร์พูลที่ตามมา หลังมีพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทำให้เกมนั้นถูกเลื่อนไป และทำให้พ็อตเตอร์ได้มีเวลาในการเตรียมพร้อมมากขึ้น
การเตรียมตัวของพอตเตอร์จากแทบจะไม่มีเวลาเลย เขาได้มีเวลาเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาต้องใช้เวลานั้นให้เกิดประโยชน์ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ขณะที่เบรคทีมชาติก็เปิดโอกาสให้เขาได้ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น
ส่วนการซ้อมพอตเตอร์ให้ผู้เล่นได้แสดงศักยภาพเต็มที่เพื่อจะดูว่า นักเตะแต่ละคนมีความสามารถเป็นอย่างไร ก่อนเริ่มมีการสื่อสารกับนักเตะโดยตรง เพื่อทำความรู้จักแบบตัวต่อตัวให้ได้มากที่สุดฃให้ได้รู้เพิ่มเติมในการเตรียมทีมว่าควรจะทำอย่างไร และไปในทิศทางไหนกันแน่
[ไม่เปลี่ยนแปลงเยอะ]
จากเกมแรกที่ผ่านพ้นไป เราเริ่มได้เห็นวิธีการทำงานที่ชัดเจนของพ็อตเตอร์ การเล่นในสนามเห็นได้ชัดเจนว่า พอตเตอร์ไม่เลือกที่จะเปลี่ยนอะไรมาก จนไปกระทบนักเตะภายในทีม เขาเลือกปรับทีมเท่าที่มี เคยทำอะไรในยุคทูเคิล ก็ทำในรูปแบบนั้นไปก่อน
ส่วนในรายละเอียด หากมีอะไรไม่ดีก็จะมาแก้ไข โดยเริ่มต้นเกิดขึ้นไปแล้วในเกมอุ่นเครื่องแบบปิด ซึ่งไม่มีใครได้ดู ในเกมที่เจอกับไบรท์ตันเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา
ในภาพรวมตอนนี้ นักเตะเชลซีดูมีความสุขภายใต้การทำงานของโค้ชใหม่ การที่นักเตะหลายคนได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัดถือเป็นส่วนสำคัญที่พอตเตอร์พยายามให้ทุกคนได้โชว์ศักยภาพที่ตัวเองมี ผสมผสานกับแทคติคของเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่พอตเตอร์พยายามรแก้ไข คือทำให้เกมรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่าน ไค ฮาแวร์ตซ์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง
โดยกองหน้าทั้ง 2 คนได้ลงมาเชื่อมเกมมากขึ้น ซึ่งเราไม่ได้เห็นกันในช่วงยุคทูเคิ่ล หรือชุดกองกลางที่ได้เล่นในรูปแบบที่แต่ละคนถนัด การเปลี่ยนแปลงไม่เยอะ แต่ถูกจุด ทำให้ลดเวลาปรับตัวของนักเตะ กับกุนซือคนใหม่ลงไปได้เยอะเหมือนกัน
[ชัดเจนและตรงไปตรงมา]
ย้อนกลับไปที่เรื่องพอตเตอร์ได้ทำความรู้จักกับนักเตะแบบตัวต่อตัว ทำให้เขาได้รู้จักนิสัยของนักเตะมากขึ้น จะได้จัดการในส่วนนั้นให้ถูกจุด เมื่อแต่ละคนมีปัญหา
โดยไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยนอกรอบ หรือการพูดคุยเพื่อปรับแก้ในการฝึกซ้อม สิ่งสำคัญที่พอตเตอร์ทำคือความชัดเจนและตรงไปตรงมา หากต้องการให้แก้จุดไหนก็บอกกับนักเตะโดยตรง เพื่อนำมาพัฒนาทีมให้มันแข็งแกร่งขึ้น
ในส่วนนี้หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ถือเป็นส่วนสำคัญที่เชลซีต้องการ และเป็นสิ่งที่ทูเคิ่ลขาดไปในช่วงท้ายที่เขาคุมทีม
เมื่อไม่มีคำอธิบายให้กับนักเตะที่นั่งสำรอง นักเตะเหล่านั้นย่อมรู้สึกเหมือนขาดการเชื่อมต่อกับทีม และเมื่อได้โอกาสก็ไม่ได้เล่นเต็มที่ เพราะรู้ว่ายังไงพวกเขาก็ต้องนั่งข้างสนามตลอดไป
หรือในกรณีคลาสสิคที่ทูเคิ่ลผิดสัญญากับ คริสเตียน พูลิซิค ปีกของทีมที่โค้ชชาวเยอรมันเคยสัญญาว่าจะส่งให้เล่นเป็นตัวจริง แต่สุดท้ายกลับดร็อปตัวรุกชาวสหรัฐฯ เป็นแค่ตัวสำรอง จนกลายเป็นความบาดหมางของทั้งสองคน
ทำให้พอตเตอร์แก้ไขจุดนี้เป็นเรื่องแรก ๆ กับการคุมเชลซี เพื่อทำให้ทีมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้งแต่สำหรับผลลัพท์ในสนามจนถึงตอนนี้ เราเห็นการเล่นของเชลซียุคพอตเตอร์แค่เกมเดียวเท่านั้น จึงยังตัดสินไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วเขาประสบความสำเร็จหรือไม่ กับการสร้างทีมในรูปแบบนี้ หรือปัญหาที่เกิดขึ้น มันแก้ได้จริงๆหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยที่สุดที่พอตเตอร์ได้เวลาเพิ่มในการเตรียมตัว เตรียมทีม สร้างเชลซีในแบบที่เขาต้องการ ซึ่งไม่มีสิ่งใดที่โค้ชรายนี้จะต้องการไปมากกว่านี้
#TheSportingNews #Chelsea #CFC #เชลซี #ฟุตบอล #ฟุตบอลต่างประเทศ
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเราคลิก
www.sportingnews.com/th
และติดตามพวกเราเพิ่มเติมได้ทาง Instagram @thesportingnews_th และ Twitter @TSNThailand
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย