หลังจากนั้นไม่นาน รอยตามวอลต์ไปแคลิฟอร์เนีย และก่อตั้งสตูดิโออนิเมชั่นด้วยกันอีกครั้ง (พี่รอยแกไม่เข็ดเอาซะเลย) โดยตอนแรกวอลต์เสนอให้ตั้งชื่อว่า Disney Brothers แต่รอยกลับปฏิเสธแล้วบอกให้ตั้งว่า Walt Disney Studio เถอะ (แถมรักน้องสุดๆด้วย)
เรื่องราวทำท่าว่าจะไปได้ดี เมื่อพวกเขาได้ดีลจากทาง New York ให้ทำซีรี่ย์สั้น ตัวละคร Oswald the Lucky Rabbit ที่ถูกคิดขึ้นสำหรับโปรเจคนี้ดังเปรี้ยง ทำให้ดิสนีย์เป็นที่รู้จัก แต่ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้นเมื่อดิสนีย์กลับไม่มีสิทธิในตัวละครที่สร้างเลย
ทั้งเรื่อง Snow White ที่เป็นโปรเจคอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกที่รอยไม่เห็นด้วย เพราะวอลต์ประเมินทุนสร้างไว้ถึง 400,000-500,000 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายพี่รอยก็ยอมไปหาทุนมาให้ เขาระดมทุนครั้งแล้วครั้งเล่าจนได้ทุนรวมมาทั้งหมด 1.5 ล้านดอลลาร์ ก่อน Snow White จะติดลมบนและทำรายได้ไป 8 ล้านดอลลาร์
เรื่องนี้นอกจากทำกำไรเกินคาด ยังทำให้วอลต์ได้รางวัลออสการ์ในปี 1939 ด้วย โดยในปีนั้นได้มีการทำถ้วยรางวัลแบบพิเศษ เป็นรูปตุ๊กตาทองขนาดปกติ และตุ๊กตาทองขนาดเล็กยืนเรียงกัน 7 ตัว เป็นเชิงสัญลักษณ์ถึง Snow White and the Seven Dwarfs
ภาพวอลต์ ดิสนีย์และรางวัลออสการ์สำหรับเรื่อง Snow White and the Seven Dwarfs ที่มา: https://unbelievab.ly/so-you-think-you-know-disney-heres-15-facts-you-probably-didnt-know/
หลังจากสองพี่น้องผ่านช่วงเวลายากลำบากมาด้วยกันอย่างยาวนาน เรื่องราวที่จะกล่าวถึงต่อจากนี้ ตราตรึงใจแอดมินที่สุด ซึ่งก็คือเรื่องราวเบื้องหลังการสร้าง Walt Disney World ที่ฟลอริดานั่นเอง
เขาไม่ยอมลดต้นทุนในการสร้าง Magic Kingdom ตามที่บอร์ดเสนอ และเขาก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะตั้งชื่อที่นี่ว่า Walt Disney World ตามชื่อน้องของเขาให้ได้ แม้ว่าบอร์ดจะเสนอว่าในทางการตลาด ตั้งชื่อว่า Disney World หรือ Disneyland เหมือนเดิมดีกว่า
เขาไปที่ไซต์ก่อสร้างเพื่อดูความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบและควบคุมทุกขั้นตอนจนแน่ใจว่าเป็นไปตามแผน และเป็นไปตามที่น้องชายเขาตั้งใจ จนกระทั่งได้เปิดทำการ Walt Disney World ในวันที่ 1 ตุลาคม ปี 1971 (ซึ่งเป็นการเลือกวันเปิดได้สมกับเป็นนักบัญชี เพราะเขาเล็งเปิดวันเริ่มต้นปีงบประมาณภาครัฐใหม่)
Walt Disney World คือสถานที่ให้เราได้ระลึกถึงปรัชญาและการใช้ชีวิตของวอลต์ อีเลียส ดิสนีย์ และสำหรับทีมงานผู้มีความสามารถ ทุ่มเท และทำงานอย่างซื่อสัตย์จนทำความฝันของวอลต์ ดิสนีย์ให้เป็นจริงทุกท่าน...หวังว่าที่นี่จะมอบความสุข แรงบันดาลใจ และความรู้ใหม่ๆให้กับทุกท่านผู้มาเยือนสถานที่แห่งความสุขแห่งนี้
รอย ดิสนีย์
หลังจากสานฝันสุดท้ายของน้องชายให้เป็นจริงได้ไม่นาน รอยก็เสียชีวิตลงในวันที่ 20 ธันวาคมในปีเดียวกัน หลายคนกล่าวว่า เขาได้ทุ่มเทเรี่ยวแรงสุดท้ายของเขาทั้งหมดเพื่อทำให้ Walt Disney World เกิดขึ้นตามที่น้องชายฝากไว้และจากไปอย่างไร้กังวลในโรงพยาบาลเซนต์โจเซฟ แห่งเดียวกับที่วอลต์จากไปก่อนหน้านี้
และเรื่องราวรอย ดิสนีย์ก็จบลงอย่างตราตรึงและซาบซึ้งใจแบบนี้ค่ะ เป็นพี่น้องที่นิสัยและความถนัดต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่กลับเอาความแตกต่างของตัวเองและความรักความเชื่อใจที่มีให้กันมาช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรค และสร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมายทิ้งไว้บนโลกนี้ ก่อนจากกันวันนี้ เพจเราจึงขอทิ้งท้ายไว้ด้วยอนุสรณ์ของรอยบริเวณลาน Magic Kingdom ที่ Walt Disney World นะคะ พบกันใหม่โพสหน้า ฝากติดตามด้วยนะคะ
ภาพอนุสรณ์ของรอย ดิสนีย์ กับ Minnie Mouse นั่งบนม้านั่งหน้าลาน Magic Kingdom ใน Walt Disney World ที่มา: https://www.flickr.com/photos/peterpanfan1953/3618511258/