30 ก.ย. 2022 เวลา 08:54 • กีฬา
#TSN : การเปลี่ยนแปลงของ ‘เควิน เดอ บรอยน์’ เบื้องหลังความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
กองหน้าป้ายแดงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเออลิ่ง ฮาลันด์ เป็นที่พูดถึงมากที่สุดเมื่อนึกถึงทีมเรือใบสีฟ้าในฤดูกาลนี้ ซึ่งแน่นอน กองหน้ารายนี้ย้ายมาจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพื่อมาแก้ปัญหาที่แมนฯ ซิตี้ ไม่มีกองหน้าตลอดช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา
ด้วยจำนวน 11 ประตูจาก 7 เกมในพรีเมียร์ลีกถือเป็นตัวเลขที่บ้าคลั่งมาก ๆ แต่ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมันล้วนมีเหตุและผล และส่วนหนึ่งที่ช่วยให้กองหน้าร่างยักษ์รายนี้โชว์ฟอร์มสุดยอด คือการเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นของเควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์คนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เดอ บรอยน์ ทำหน้าที่ในฐานะคนปิดทองหลังพระที่ทรงประสิทธิภาพ และช่วยให้ทัพเรือใบสีฟ้าแข็งแกร่งทั่วแผ่นได้อย่างไร ติดตามไปพร้อมกับเรา
[ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น]
เควิน เดอ บรอยน์ ในฤดูกาลก่อนถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน กับ 15 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ จาก 30 เกมในพรีเมียร์ลีก เป็นส่วนที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
แต่ท่ามกลางความสำเร็จนี้ เดอ บรอยน์ ต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่น มารับบทเป็นตัวจบสกอร์ด้วย ซึ่งเขาเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา บนเวทีพรีเมียร์ลีกด้วย
โดยที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บอกชัดเจนว่า กองกลางรายนี้ยิงประตูได้มากมายช่วย เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมได้แชมป์มาครองได้สำเร็จ แต่นั่นก็เป็นการใช้เดอ บรอยน์ ที่ดูผิดที่ผิดทาง เพราะเขาคือสุดยอดเพลย์เมคเกอร์ ไม่ใช่คนที่ควรก้าวขึ้นไปแบกภาระการจบสกอร์
โชคดีที่การได้ฮาลันด์ สิ่งที่เดอ บรอยน์ ต้องทำในฤดูกาลนี้คือกลับมาแอสซิสต์ นั่นคือหน้าที่หลักในการช่วยเพิ่มศักยภาพการยิงประตูให้กับเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และที่สำคัญกว่าคือ เดอ บรอยน์ได้กลับมาอยู่ในฐานะนักเตะจอมแอสซิสต์อีกครั้ง
ตอนนี้เขาทำไปแล้ว 6 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ถือเป็นการช่วยให้ทีมสามารถสร้างเกมรุกได้ดีขึ้นไปอีก เพราะการจ่ายบอลก็เป็นของถนัดของกองกลางทีมชาติเบลเยี่ยมคนนี้อยู่แล้ว
[กลับไปเป็นคนเดิม]
หากจำกันได้ เควิน เดอ บรอยน์ โด่งดังมาจากการเป็นจอมแอสซิสต์ให้กับเพื่อน ตั้งแต่ตอนโชว์ฟอร์มโหดกับโวล์ฟสบวร์ก ในบุนเดสลีกา
การเปิดบอลมากมายจนกระทั่งบาส ดอสต์ กลายเป็นกองหน้าฟอร์มแรงของลีกเยอรมัน ทั้งที่ตอนนี้หลายคนคงลืมกองหน้ารายนี้ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของ เดอ บรอยน์ในการเป็นจอมเปิดป้อนได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ก่อนย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยซ้ำ
หลังทำไป 6 แอสซิสต์แล้วในพรีเมียร์ลีกในช่วงเวลาเริ่มต้น คงไม่ใช่เรื่องไกลตัวนักหากว่าเขาจะทุบสถิติการแอสซิสต์ต่อหนึ่งฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเขาเคยทำไว้ที่ 20 แอสซิสต์ โดยเฉพาะคุณภาพในแดนหน้าที่แนวรุกแต่ละคนของเรือใบสีฟ้า ซึ่งพร้อมจบสกอร์ให้กับเขาอยู่แล้ว
ในฤดูกาลนี้หากไปเทียบพื้นที่การเล่นของเดอ บรอยน์ ในภาพรวมทั้งฤดูกาลตั้งแต่ลงแข่งขันมา จะเห็นว่าเจ้าตัวได้ย้ายตัวเองไปอยู่ริมเส้นฝั่งขวามากที่สุด เพื่อที่จะเป็นพื้นที่ในการเปิดโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ดูเหมือนว่าเขาจะถนัดที่สุดสมัยอยู่กับโวล์ฟสบวร์กด้วยเหมือนกัน
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกปรับแนวทางมาให้เข้าทางเดอ บรอยน์ แบบนี้แล้ว คงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากว่าเขาได้โชว์ฟอร์มสุดโหด ในการเปิดให้เพื่อนทำประตูอีกครั้งหนึ่งในฤดูกาลนี้
[ทำสิ่งที่ดีที่สุด]
เดอ บรอยน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเปลี่ยนกลับมากลายเป็นจอมแอสซิสต์อีกครั้งว่า เขาแค่พยายามสร้างโอกาสให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะนี่คือหน้าที่ของเขา
กองกลางชาวเบลเยี่ยมได้รับคำสั่งมาจากผู้จัดการทีม ต้องเชื่อมั่นว่าเพื่อนจะยิงประตูได้ และนั่นคือสิ่งที่เขาคอยทำมาอยู่เสมอ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทัศนคติที่ฝังลึกว่า เขาจะต้องช่วยให้เพื่อน ๆ ทำประตูให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของทีม
ถึงเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะมีความต้องการที่ต่างออกไปในแต่ละเกม ที่แทบจะไม่เหมือนกันเลยก็ตาม แต่สิ่งสำคัญสำหรับเดอ บรอยน์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เขาต้องลงไปทำให้ดีที่สุดเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการจ่าย หรือการทำประตูแบบในฤดูกาลก่อน
โดยที่ความต้องการในฤดูกาลนี้ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือการขยับ เควิน เดอ บรอยน์ไปเล่นทางฝั่งขวาให้มากขึ้น เพื่อเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ เออลิ่ง ฮาลันด์ที่จะอยู่ในตำแหน่งสำคัญและพร้อมทำประตูอยู่เสมอ
นั่นทำให้งานของทั้งฮาลันด์ และ เดอ บรอยน์นั้นง่ายขึ้นอีกเป็นกอง เพราะถือเป็นแทคติคที่เอื้อกับทั้งสองคน อีกทั้งทำให้นักเตะทั้งสองรายได้ทำในสิ่งที่ถนัด คนหนึ่งจ่าย อีกคนยิง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในภาพรวม
การกลับมาอีกครั้งของจอมแอสซิสต์อย่าง เดอ บรอยน์ บอกเลยว่าคงเตรียมทุบอีกหลายสถิติแน่นอน
หลังล่าสุดในพรีเมียร์ลีกเขาทำไปมากถึง 92 แอสซิสต์ เท่ากับสตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานของลิเวอร์พูล โดยที่มีเกมลงเล่นน้อยกว่ามาก
แน่นอนว่า เมื่อเขาสามารถโชว์ฟอร์มระดับท็อปได้ ทำให้เขาเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ในตอนจบอีกครั้งก็เป็นได้
#TheSportingNews #MANCITY #MCFC #แมนซิตี้ #ฟุตบอล #ฟุตบอลอังกฤษ #ฟุตบอลต่างประเทศ
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเราคลิก www.sportingnews.com/th
หรือ ติดตามในช่องทางอินสตาแกรม ที่นี่ @thesportingnews_th
และ ช่องทาง Twitter @TSNThailand
โฆษณา