ย้อนรอย…วันวาน
ปิดท้ายเดือนกันยายน ด้วยข่าวเศร้าถึงการจากไปของดร.โชคชัย บูลกุล ประธานกรรมการบริษัท กลุ่มบริษัทฟาร์มโชคชัย ผู้ที่ในอดีตเคยเป็นเจ้าของอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย นั่นก็คือตึกโชคชัย ถ้าจำไม่ผิดเป็นอาคารสูง 24 ชั้น แซงหน้าความสูงของโรงแรมดุสิตธานีไปอย่างฉิวเฉียด
ชั้นบนสุดของตึกโชคชัย คือที่ตั้งของร้านอาหารโชคชัย สเต๊กเฮ้าส์ ที่ในยุคนั้นร่ำลือกันว่าถ้าไม่ใช่มหาเศรษฐีแล้ว อย่าได้ไปเหยียบเลยเชียว เพราะขายสเต๊กถึงจานละพันบาท ในยุคที่ราคานำ้มันลิตรละไม่ถึงสิบบาท และราคาทองยังอยู่ที่บาทละหลักร้อย ไม่ถึงหลักพันด้วยซ้ำ
วันนี้…เรามารำลึกถึงตึกโชคชัยกันอีกครั้ง ด้วยข้อเขียนของคุณ Pansit Torsuwan บุตรชายของผศ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารหลังนี้
บทความนี้เขียนขึ้นในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อครั้งตึกนี้จะถูกรื้อถอนเป็นวันแรก เลยขออนุญาตคุณ Pansit นำมาแชร์ไว้ในเพจนี้ให้ได้อ่านกันอีกครั้ง
………………………………
เพิ่งจะทราบว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เขากำลังจะรื้อถอน ‘ตึกโชคชัย’
ตึกโชคชัยเคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยเมื่อต้นทศวรรษที่ 1970 เป็นอาคารสูงที่สุดในประเทศไทยหลังแรกและหลังเดียวเท่านั้นที่พ่อเคยออกแบบ ทั้งๆที่ตลอดชีวิตของท่านทั้งในฐานะสถาปนิกและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น ก็ใฝ่ฝันมาโดยตลอดว่าจะได้เป็นผู้ออกแบบอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยหรือแม้แต่ในโลกสักแห่ง
ถึงวันนี้ตึกโชคชัยจะถูกแปลงโฉมมาแล้วโดยมีการหุ้มกระจกสีทองรอบอาคารมาหลายสิบปีแล้ว และวันนี้เจ้าของตึกคงเห็นว่าจะต้องทุบทิ้งเพื่อสร้างใหม่ให้เป็นอาคารที่ใหญ่กว่า ทันสมัยกว่า สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่าบนที่ดินทำเลทองตรงปากซอยสุขุมวิท 24
ผมเคยทราบข่าวว่าจะมีการทุบตึกโชคชัยมาหลายเดือนแล้ว เป็นข่าวเล็ก ๆ คู่กับแต่ไม่ดังเท่ากับข่าวการจะทุบตึกโรงแรมดุสิตธานี ผมเล่าให้พ่อฟังไปแล้วแต่ท่านฟังแล้วก็เฉย ๆ ไม่ได้ว่าอะไร เช่นเดียวกับการบอกข่าวว่าจะมีการแปลงโฉมผลงานมาสเตอร์พีซของท่านอีกชิ้นก็คือ อัมรินทร์พลาซ่าในอนาคตอันใกล้นี้เช่นกัน ซึ่งท่านก็คงรู้สึกเฉย ๆ เพราะไม่ได้ออกความเห็นอะไร คงเข้าใจกับความเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่าง ๆ เป็นอย่างดี
ผมได้เคยโพสรูปนี้พร้อมเขียนเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องเล่าเรื่องตึกโชคชัย อินเตอร์ฯนี้ วันนี้จะขอเอามาโพสรวมกันใหม่เพื่อเป็นที่ระลึก……
พูดถึงตึกกระจกแล้ว ความจริงพ่อผมเคยออกแบบตึกแบบนี้มาก่อนเพียงแต่ไม่เป็นกระจกรอบคันแบบตึกกสิกรไทย แต่ตึกนี้ก็เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยด้วย อาคารโชคชัย อินเตอร์ฯบนถนนสุขุมวิท ตึกนี้เป็นผลงานในยุคแรกของพ่อหลังจากเรียนจบกลับมาจากสหรัฐในปลาย 1960S ตอนนั้นพ่อผมเป็นลูกจีนชาวบ้านย่านสวนมะลิ จบสถาปัตย์จุฬาฯเกียรตินิยม(น่าจะอันดับหนึ่ง) ดิ้นรนไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ ที่เอ็มไอที เมืองบอสตัน
และที่นี่เองทำให้มีเพื่อนเป็นลูกเศรษฐีไฮโซหลายคนไม่ว่าจะเป็นคุณปองพล ณ ราชครู คุณธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ และคนนึงก็คือคุณโชคชัย บูลกุล..... สมัยนั้นสถาปนิกในเมืองไทยมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะจำกัดในแวดวงคนทีมีชาติตะกูลชนชั้นสูงเท่านั้น แต่คุณโชคชัยกลับบอกพ่อผมว่า "เฮ้ย...วันนึงกูนี่แหละจะให้มึงออกแบบตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยเลย"
ความจริงถึงแม้ว่าคุณโชคชัย(พี่) คุณศิริชัย(น้อง) บูลกุลจะเป็นลูกเจ้าสัว แต่ธุรกิจก็เป็นแบบกงสี ไม่ได้มีความสามารถผันเงินกงสีมาทำอะไรด้วยตัวเองได้ พ่อผมเล่าว่ากลับจากสหรัฐฯแล้ว กลุ่มเพื่อชอบแฮงค์เอาท์กินกาแฟ (หรือความจริงอาจจะกินเหล้าก็ไม่รู้) ที่คอฟฟี่ช๊อปโรงแรมมโนราห์ที่สีลมซึ่งเป็นธุรกิจของตระกูลบูลกุล พ่อบอกว่าทั้งคุณโชคชัยและคุณศิริชัยไม่ค่อยมีตังค์เท่าไหร่ กินกันแล้วชอบแปะไว้(จ่ายรึเปล่าก็ไม่รู้)
คุณโชคชัยเริ่มธุรกิจของตัวเองกะพวกGI สมัยสงครามเวียตนาม รู้สึกแกจะทำธุรกิจให้เช่ารถแทรคเตอร์ไปก่อสร้างทำสนามบินหรือ/และถนนที่โคราชนี่แหละ แกก็เกิดรวยกระทันหันมาทันที.... ตอนนั้นเองที่คุณโชคชัย(ผู้ชอบคิดการณ์ใหญ่เหมือนพ่อผม)บอกกูนี่แหละจะทำตึกสูงที่สุดในประเทศไทยและจะให้มึงออกแบบ
พ่อเคยเล่าว่าตอนสร้างตึกโชคชัยนั้น ชาวบ้านแถวนั้นด่ากันขรม เพราะตอนขุดดินทำฐานรากอาคาร รู้สึกดินของที่ข้างเคียงชาวบ้านไหลลงมาหรืออะไรซักอย่าง ทรุดกันเป็นแถบ ๆ แต่ตึกโชคชัยก็สร้างเสร็จพร้อมกับการปล่อยเช่าพื้นที่ส่วนใหญ่ให้องค์กรหรือบริษัทของสหรัฐฯ หลังจากสหรัฐแพ้สงครามเวียดนามและGIเริ่มถอนตัว ธุรกิจของตึกโชคชัยก็ทรุดลง
ผมมักได้ยิน(จากคนอื่น)ว่าพ่อผมไม่ค่อยได้ค่าแบบจากโครงการนี้ ทุกครั้งที่ผมถาม พ่อมักอ้ำอึ้ง ก็เลยเดาว่าน่าจะจริง เพราะปรกติลูกค้าชักดาบค่าแบบพ่อผมยาก แต่โครงการนี้อาจจะยกเว้นเพราะมิตรภาพเก่าก่อน
เออ... มีแถมหน่อย พูดถึงคุณศิริชัย (ผู้ก่อตั้งMBK และโครงการมาบุญครอง) ซึ่งล่าสุดจะรวยกว่าพี่ชายมาก ตอนนั้นคุณศิริชัยเห็นคุณโชคชัยไปขุดทองกับพวกGI แล้วรวยจนน่าเกลียดแล้ว ก็อยากทำบ้าง ก็เลยไปติดต่อขนส่งขายนำ้มันให้ GI ที่อีสาน
ปรากฎว่าคิดใหญ่พอกัน เช่ารถนำ้มันมาเป็นขบวนใหญ่ กะรวยไม่รู้เรื่อง แต่พอเปิดคาราวานแรกก็เกิดเหตุ คือไอ้พวกคาราวานขับรถมันดันจอดรถระหว่างทาง ปล้นนำ้มันไปหมด คุณศิริชัยเจ๊งถึงกับต้องลี้ภัยไปฮ่องกงทีเดียว แต่ตอนหลังก็มีเรื่องราวที่ฮ่องกงจนคุณศิริชัยรวยเละกลับมาก่อตั้งธุรกิจอีกมากมาย (เรื่องคุณศิริชัยที่ฮ่องกงสนุกมากแต่ไม่เกี่ยวกะตึกนี้จึงขอเก็บไว้ก่อน)
……………………………..
ปล.ภาพของตึกโชคชัย อินเตอร์ฯต้นแบบ
ที่มาเฟซบุ๊ก Pansit Torsuwan
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
