2 ต.ค. 2022 เวลา 11:56 • ธุรกิจ
รีวิว 10 จุดเด่นของ ZORT ระบบจัดการออเดอร์และสต็อกสำหรับธุรกิจขายออนไลน์หลายช่องทาง
วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเครื่องมือที่ผู้ประกอบการที่ทำการขายแบบหลายช่องทางกำลังมองหาอย่าง "Order Management System" หรือระบบ #OMS กันครับซึ่งพอพูดถึง OMS ที่มาแรงสุดๆ แล้วในตอนนี้ ไม่พูดถึง “#Zort” ก็คงไม่ได้แน่นอน
วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ 10 จุดเด่นของ Zort ระบบ Order Management ที่จะช่วยในการบริหารจัดการ ติดตามสถานะของออเดอร์จากช่องทางการขายต่างๆ ตั้งแต่การรับออเดอร์ไปจนถึงการ Pick Pack และจัดส่ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำได้ชัดเจน ไม่พลาดทุกออเดอร์
และนี่คือ 10 จุดเด่นกับ Zort ครับ!
#1 จัดการออเดอร์หลากหลายช่องทางที่สุด (Omnichannel Order Management)
สามารถเชื่อมต่อดึงออเดอร์จากช่องทางการขาย ได้จากหลายช่องทางมากๆ ไม่ว่าจะเป็น marketplace platform อย่าง Lazada, Shopee, JD.com, Line Myshop, และ NocNoc.com หรือหากเป็นเว็บไซต์ของแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ก็สามารถรองรับแพลตฟอร์มอย่าง WooCommerce, Magento, Shopify, Opencart, และ Ketshop web รวมถึงยังมี Open API หากต้องการเชื่อมต่อเองได้ด้วยครับ
#2 ขายผ่าน Social media ได้ง่ายกว่า!
Zort สามารถช่วยให้คุณบริหารจัดการการขายผ่าน Facebook และ LineOA ได้โดยรวบรวมห้องแชทจาก Facebook Messenger และ Line OA มาไว้ในที่เดียว จากหลายๆ Page และหลายๆ Account
อีกทั้งยังสามารถแชร์สินค้า เปิดออเดอร์ ติดแท็ก ส่งข้อความที่ใช้บ่อย และส่งลิงค์ให้ลูกค้าชำระเงิน และ track ออเดอร์ได้ผ่านหน้านี้ทั้งหมด!
#3 ขายผ่าน Live Commerce ได้ในระบบเดียวกัน
นอกจาก Social commerce แล้ว Zort ยังเชื่อมต่อการขายผ่าน Live บน Facebook โดยสามารถตั้งค่าการคอมเม้นท์ CF เพื่อดูดออเดอร์เข้าระบบอัตโนมัติ โดยลิงค์ฐานข้อมูลสินค้าจากระบบหลังบ้านของ Zort และสามารถ ส่งลิงค์ยืนยันออเดอร์ให้กับลูกค้าเพื่อทำการชำระเงินได้ง่ายๆในทันที
#4 ระบบ POS ในตัว
และมากไปกว่าการขายผ่านช่องทาง Online แล้ว Zort ยังได้พัฒนาในส่วนของระบบ POS ที่ช่วยตอบโจทย์ให้ธุรกิจที่มีทำการขายแบบ O2O ให้สบายขึ้นอีกด้วย โดยใช้งานบนฮาร์ดแวร์เฉพาะของ Zort ในระบบ Android จัดการการบันทึกขาย บันทึกรายละเอียดลูกค้า กำหนดโปรโมชันของแต่ละสาขา และดูสต็อกได้ โดยที่สต็อกดังกล่าวนี้จะลิงค์กับคลังในช่องทางการขายอื่นๆด้วย
#5 การจัดการคลังสินค้า
หนึ่งในจุดเด่นของ Zort ที่ไม่แนะนำไม่ได้เลยนั่นคือเรื่องการจัดการคลังสินค้า เพราะตัวระบบสามารถสร้างคลังได้หลายคลัง แล้วแต่จะแยกตามแพลตฟอร์มช่องทางการขาย หรือจะแยกตามคลังที่มีอยู่จริงก็ได้ (โดยจะแยกเป็นประเภทฝากขายหรือทั่วไป)
หากเป็นคลังสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวนสินค้าคงเหลือก็สามารถอัพเดทตัวเลขกันได้แบบ Real-time หรือเกือบจะ Real-time
ซึ่งเราจะเห็นได้ทันทีว่ามีสต็อกพร้อมขายจริงเท่าไหร่ คงเหลือเท่าไหร่ โดยระบบจะมีการจองสินค้าไว้ให้ก่อน และเมื่อส่งของออกไปแล้ว จึงค่อยตัดสต็อกออกไป
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์การกระจายสินค้า หรือ Allocation เป็น % ว่า สินค้าทั้งหมด 100 ชิ้น ในคลังๆนี้ เราจะกันเป็นโควต้าให้แต่ละช่องทางได้ ช่องทางละกี่% และจำนวนนี้จะไปแสดงบนแต่ละช่องทางขายที่เลือก เพื่อป้องกันการแย่งสต็อกกัน ถือว่า Zort คิดมาดีจริงๆ สำหรับธุรกิจขายออนไลน์
#6 การจัดการสินค้าเพื่อทำแคมเปญกับแพลตฟอร์มต่างๆ
คุณสามารถกำหนดโควตาสินค้าที่จะเข้าร่วมโครงการแบบจำนวนจำกัดได้ง่ายๆ เช่น ลด 50% สำหรับลูกค้า 20 ท่านแรก สูงสุดท่านละ 1 ชิ้นเท่านั้น Zort จะก็ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณจะไม่ขาดทุนในการขาย และแน่นอนว่า วัดผลกันเป็นรายแคมเปญได้ด้วยครับ
#7 จัดการตัวแทนการขายแบบ Dropship ให้สะดวกกว่าเดิม
Zort มาพร้อม Portal สำหรับตัวแทนจำหน่ายโดยเฉพาะ ถ้าคุณมีลูกค้าประจำ หรือ Dealer ที่สั่งสินค้าของคุณบ่อยๆแล้วล่ะก็ Zort สามารถที่จะสร้าง Portal เฉพาะลูกค้ารายนั้นๆ ให้พวกเขาได้ใช้ในการสั่งสินค้าแบบสะดวกสบายได้เลย โดยคุณสามารถกำหนดสิทธิการสั่งว่าจะอนุญาตให้เข้าถึงสินค้าตัวไหนหรือประเภทไหนได้บ้าง เป็นราคาพิเศษเฉพาะราย หรือส่วนลดพิเศษด้วยหรือไม่ในสินค้าแต่ละชิ้นได้ด้วย
#8 หน้าขายสินค้าเฉพาะ (Sale Page)
Zort มีฟีเจอร์ให้เรา generate หน้าเว็บไซต์ขึ้นมาเฉพาะของแต่ละสินค้า เพื่อเอาไป embed ในเว็บต่างๆ หรือส่งให้ลูกค้า โดยสามารถกำหนดราคาที่จะแสดงตามกลุ่มลูกค้า และยังแปะ Tag เพื่อ Tracking Traffic ของหน้านั้นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งผมมองว่านี่เป็นฟังชั่นที่เหมาะมากๆ ถ้าคุณทำ Marketing Campaign อะไรบางอย่างและจะนำ Sales Page ของ Zort ไปเป็นหนึ่งใน Call to Action Button เพื่อปิดท้ายด้วยการขายครับ
#9 เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Logistic ชั้นนำ
Zort เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการหลายๆเจ้าที่ทุกคนรู้จักดีอย่าง J&T, Flash Express, Ninja Van, ไปรษณีย์ไทย, และ Kerry ซึ่งจะทำให้คุณสามารถจัดการ การขนส่งสินค้าของคุณได้แบบสะดวกยึ่งขึ้น ตั้งแต่การคำนวนค่าจัดส่งไปจนถึงการพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ และแจ้ง Tracking No. กลับให้กับลูกค้าได้อย่างเป็นระบบ และนอกจากผู้ให้บริการขนส่งแล้ว Zort ยังเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Fullfilment ได้อีกด้วย
#10 การเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ
นอกจากระบบที่เราพูดถึงกันมาข้างต้นแล้ว Zort ยังมีพาร์ตเนอร์รายอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบบัญชี อย่าง Peak และ Accrevo เพื่อส่งต่อเอกสารทางบัญชีไปได้แบบ Seamless และมีเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ CRM อย่าง Buzzebees เพื่อรองรับการสะสมแต้มผ่าน Line ใด้อีกด้วย
🙋🏻 Zort เหมาะกับใคร
Zort เหมาะกับธุรกิจที่ทำการขายผ่านหลายช่องทางโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ต่างๆ ซึ่งต้องการการบริหารจัดการคลังที่ยืดหยุ่น และบริหารจัดการออเดอร์ได้อยู่หมัดตั้งแต่รับมาจนส่งถึงมือลูกค้า
รวมไปถึงถ้าคุณต้องการจะเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆเพิ่มเติมด้วย Zort ก็เป็นหน่ึงในตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดครับ
💰ราคา
Zort จัดแพ็กเกจออกมาให้เราได้พิจารณาหลายแบบด้วยกัน ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจเลยนะครับ ถ้าเอาแบบที่มีฟีเจอร์ครบเครื่องอย่างที่เราพูดถึงมาข้างต้นนั้น ก็อาจจะต้องใช้แพ็กเกจ E-commerce ซึ่งเริ่มต้นที่ 2,000 บาท/เดือน
แต่หากแพ็กเกจที่มีอยู่นั้นยังไม่ตอบโจทย์คุณแล้วล่ะก็ Zort ก็สามารถคิดค่าบริการแบบ On-demand ให้คุณได้เช่นกัน โดยมีตารางคำนวน ให้คุณได้ลองออกแบบได้ด้วยตัวเองเลยว่าต้องมีช่องทางการขายกี่ช่องทาง ผู้ใช้งานกี่ท่าน คลังสินค้ากี่คลัง หรือจะใช้บริการเสริมอะไรเพิ่มเติมบ้าง แล้วตัวระบบจะช่วยประเมินค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมออกมาให้คุณได้ตัดสินใจครับ
✨สิทธิพิเศษสำหรับผู้ติดตาม Toolscape✨
✅ เมื่อสั่งซื้อแพ็กเกจ ZORT ใช้งานได้ฟรีก่อนเลย 30 วัน เพียงระบุโค้ด "ZORTTOOL" ที่หน้าการสั่งซื้อแพ็กเกจ!
✅ อย่าลืมสมัครทดลองใช้งานฟรี 15 วัน แบบ Full Feature ที่ลิงค์นี้ https://bit.ly/3S5nZwq
================
อย่าลืมกดกระดิ่งและ Subscribe ช่อง #Toolscape ของเราเพื่อตามอัปเดตแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบริหารจัดการธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังติดตามเราได้ในช่องทางอื่นๆ ตามนี้เลย
โฆษณา