Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าจากดาวนี้
•
ติดตาม
6 ต.ค. 2022 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
#ชาวไวกิ้งและตำนานอักษรรูน
เรื่องที่เล่าขานกันมาแต่โบราณ รวมถึงความเชื่อเรื่องเวทมนต์ ที่เกิดขึ้นเพราะตัวอักษรยังมีเรื่องราวเบื้องหลัง และบทเรียนที่น่าสนใจมากมายที่เราสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
กำเนิด
ในตำนานกอร์นอร์ส อักษรรูนเป็นอักษรที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์ แต่เป็นอักษรที่ธรรมชาติสร้างขึ้นหรือมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ โดยต้นกำเนิดนั้นมาจากอิกดราซิล (ต้นไม้แห่งโลก) ถือกำเนิดขึ้นทั้งเก้าโลก (แกรนกลางของจักรวาล) ต้นไม้ต้นนี้จะเติบโตขึ้นจากบ่อน้ำแห่งอูร์ด (บ่อน้ำแห่งภูมิปัญญา) ในบ่อน้ำแห่งนี้ได้รวบรวมภูมิปัญญาทั้งหลายของโลกใบนี้ไว้ โดยมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Norns ผู้ซึ่งใช้อักษรรูนเป็นผู้ปกปักรักษา
Norns จะแกะสลักชะตากรรมของมนุษย์ไว้บนเปลือกไม้ของต้นไม้ที่ไม่มีวันตายแห่งนี้ไว้ และด้วยนิสัยที่อยากรู้อยากเห็น ของ Odin - ราชาแห่งเทพเจ้านอร์ส เขาได้ตรัสสินใจตรึงตัวเองไว้ด้วยหอกพร้อมทั้งห้อยตัวจาก Yggdrasil (บริเวณโคนต้น) เป็นเวลาเก้าวัน เพื่อค้นหาความสำคัญที่แท้จริงของอักษรรูนและความลับที่อักษรรูนซ่อนไว้
1
Odin ณ เวลานั้น ได้รับความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานมากมาย แต่ Odin ก็ไม่หยุดพยายามและยังคงสำรวจ มองหาความหมาย พร้อมทั้งมองลงไปในบ่อน้ำแห่งอูร์ดตลอดเวลา หลังจากคืนที่เก้าจบลง Odin ก็ได้พบอักษรรูนบน Yggdrasil เขาเอื้อมมือไปสัมผัสและแล้ว
1
แสงแห่งพลังและความรู้
Odin ก็ได้รับความรู้ ได้รับภูมิปัญหา ได้รับชีวิต รู้ความลับทั้งหมด ความตั้งใจทั้งหมด และได้เรียนรู้ศาสตร์เวทมนต์ทั้งหมด พร้อมทั้งพลังในการทำลายและรักษา อำนาจที่ยิ่งใหญ่ และได้เรียนรู้อักษรรูนจากบ่อน้ำแห่งนี้ จากนั้น Odin ก็ออกจากบ่อน้ำและเริ่มสอนเรื่องราวเกี่ยวกับอักษรรูนให้กับลูกหลานได้เรียนรู้
จากตำนานนอร์ส ไวกิ้ง ยังมองอักษรรูน ว่าไม่ได้เป็นเพียงตัวอักษร แต่เป็นสัญลักษณ์ที่มีคุณสมบัติโดยกำเนิด สามารถใช้เพื่อสื่อสารกับอาณาจักรเหนือธรรมชาติได้
ด้วยเหตุนี้ อักษรรูน จึงถูกนำมาใช้ในศาสนาและศาสตร์เวทมนต์ของชาวไวกิ้ง นอกจากนี้อักษรรูนยังถูกแกะสลักบนอาวุธ ชุดเกาะ เครื่องราง เพื่อเสริมพลัง เสริมโชค และการป้องกันภัยร้าย ให้กับนักรบ หลังจากนั้นชาวไวกิ้งที่ได้ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ก็ได้แพร่ความรู้และการอ่านอักษรรูนไปยังถิ่นต่าง ๆ ด้วย จนกระทั่งช่วงปฏิวัติศาสนาและสงครามการล้างบางกลุ่มคนนอกรีด อักษรรูนก็ได้เสื่อมหายไป
An inscription using cipher runes, the Elder Futhark, and the Younger Futhark, on the 9th-century Rök runestone in Sweden
แน่นอนว่าไม่ได้หายไปทั้งหมด เพราะหลังจากนั้นช่วงสงคราม ฮิตเลอร์ ก็ได้นำเอาอักษรรูนมาใช้เพื่อสร้างสัญญาลักษณ์ต่าง ๆ
รวมถึงในปัญจุบันก็ยังคงมีนักเขียนและนักสร้างภาพยนต์ นำเอาอักษรรูนมาใช้เพื่อสร้างความน่าสนใจและความลึกลับให้กับเรื่องราวนั้น ๆ เสมอ
นอกจากนี้ สัญญาลักษณ์ บลูทูธ ก็เกิดจากการนำเอาอักษรรูน 2 ตัว มารวมกัน ทั้งยังได้ชื่อ บลูทูธ มาจาก พระเจ้าฮารัลด์ บลูทูธ (Harald Bluetooth) กษัตริย์ของชาวไวกิ้งที่พยายามรวบรวมเผ่าไวกิ้งให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
2
ดังที่ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ กล่าวไว้ว่า "ความแตกต่างระหว่างนิสัยและภาษา จะไม่มีความหมายเลย หากเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และต่างเปิดใจของตนให้กว้าง"
1
ที่มา:
https://www.britannica.com/topic/writing
https://happypiranha.com/blogs/news/reading-the-runes-the-viking-runic-alphabet-futhark-history-and-meanings
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/fromthisstar
Blockdit :
https://www.blockdit.com/fromthisstar
Youtube :
https://www.youtube.com/channel/UCnJ-nawjrUuhDDiLLrOHQAw
Instagram :
https://www.instagram.com/fromthisstar/
TikTok:
https://vt.tiktok.com/ZSJSpnyCT/
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่าจากดาวนี้
ปรัชญา
8 บันทึก
6
4
4
8
6
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย