4 ต.ค. 2022 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #อย่าปล่อยให้แบ็กเคว้ง ]
เป็นไปอย่างที่คาดไว้ หลังความปราชัยอย่างย่อยยับในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ บรรดากูรูพันดิตทั้งหลายจะต้องบี้ผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดอย่างหนัก
มีความผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายหลายจุด ไล่ตั้งแต่ข้างหลังยาวไปยันข้างหน้า ตัดเกรดคะแนนออกมา พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าสอบตกกราวรูดเลยทีเดียว
เอริก เทนฮาก เรียกนักเตะและสต๊าฟฟ์มาประชุมกันที่ศูนย์ฝีกแคร์ริงตันในช่วงสายวันจันทร์ เพื่อประเมินว่าต้องปรับปรุงตรงไหนบ้างและเกิดอะไรขึ้น ถึงได้เล่นต่ำกว่ามาตรฐาน
ขณะเดียวกันก็ยินดีให้ทุกคนแสดงความเห็นแบบอิสระ เอาที่อยากพูดเลย เพื่อจะได้เคลียร์กันให้ชัด เพราะต่างคนก็ต่างความคิดและมุมมอง
หากมองในแง่บวก ก็จะได้ประมาณว่าไม่มีอะไรน่าเสียใจหรอก คุณมาเยือนแมนฯซิตี้แล้วกลับออกไปด้วยความพ่ายแพ้ ทีมไหนก็โดนกันทั้งนั้นแหล่ะ
อีกอย่างได้บทเรียนกลับไปเต็มกระเป๋า เผื่อวันหน้าจะได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้มันต้องเข้มสุดๆ ลงไปแล้วต้องวิ่งพล่าน ทำงานกันอย่างหนัก ใส่กันไม่ยั้งชนิดตายเป็นตาย
พวกนักเตะที่ย้ายมาใหม่อาจยังต้องเก็บเกี่ยวตรงนี้ แม้กระทั่ง เอริก เทนฮาก เองก็ไม่ต่างกันหรอก ต่างฝ่ายไม่เคยสัมผัสบรรยากาศและตัวตนของศึกผ่าเมือง มาได้ซึมซับก็คราวนี้แหล่ะ
เรื่องผู้เล่นหลายคนผิดฟอร์ม สร้างความหงุดหงิดให้กุนซือดัตช์เช่นกัน ไม่ได้เล่นเหมือนที่ซักซ้อมพูดคุยกันไว้ ความกระหายก็ดูลดลงมาก ผิดไปจากเกมชนะลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อล
จากนี้ เทนฮาก จะเพิ่มมาตรการบางอย่างให้เข้มข้นเข้าไปอีก อย่างน้อยก็เพื่อช่วยกระตุ้นให้บางคนสำนึกบ้าง เท่าที่ผ่านมาคล้ายว่าสบายกันเกินไป
สิ่งที่ทำให้เขาไม่ค่อยพอใจก็คือ นักเตะไม่น้อยเลยได้ค่าจ้างสูงแพงเกินจริงมาก จนอาจเกิดความรู้สึกที่ว่า เล่นให้ครบจบกันไป เดี๋ยวก็มีเงินมหาศาลไหลเข้าบัญชี กินทั้งปีทั้งชาติก็ไม่จบ
ไหนจะมีสัญญาระยะยาวไว้เป็นหลักประกันอีกล่ะ การอยู่ในคอมฟอร์ทโซน มันดีอย่างนี้นี่เอง
1
จากนี้เขาจะเข้มงวดเรื่องสัญญาฉบับใหม่มากยิ่งขึ้น นักเตะคนไหนจะได้รับข้อเสนอสำหรับขยายต่อหรือไม่ ต้องถูกพิจารณามากเป็นพิเศษ ไม่ใช่หยิบยื่นให้กันง่ายๆเหมือนเมื่อก่อน แถมประเคนค่าจ้างโอเวอร์อีก
1
กลุ่มผู้เล่นปัจจุบันที่สัญญาใกล้จะหมดและเตรียมใช้อ็อปชั่นตามที่มีพ่วงไว้นั้น ยังไม่รีบร้อนเจรจา ขอดูอีกครั้งหลังจบฟุตบอลโลกในช่วงก่อนคริสต์มาสนี้
จากรายงานของไทม์สปอร์ส ระบุไว้ว่า เทนฮาก อยากจะลบภาพเก่าๆ วัฒนธรรมเดิมในเรื่องสัญญาผู้เล่น ควรรอบคอบรัดกุม สโมสรต้องไม่เสียเปรียบมากเกินไปและนักเตะไม่รู้สึกว่าสบายจนไม่กระตือรือร้นพอ
1
นี่คือมุมมองของ เทนฮาก ที่น่าสนใจมากๆ เพราะผ่านการคุมทีมระดับเล็กและกลางๆมาก่อน ได้ประสบการณ์เรื่องนี้มาพอสมควร ฉะนั้นสโมสรต้องปรับปรุงเรื่องสัญญาผู้เล่นและเขาต้องได้สิทธิ์ขาดสุดท้าย
ว่าไปแล้วเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว เราได้เห็นผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดไม่น้อย ผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะกลุ่มแข้งเก่า ซึ่งฟันค่าจ้างในเรตสูงลิบเกินความสามารถ
เรื่องนี้โยงไปยังการแสดงความเห็นของ พอล สโคลส์ ผ่านทางอินสตาแกรมอีกด้วย
ตำนานแมนฯยูไนเต็ด อัพรูปของ ไรอัน กิ๊กส์ กอดแสดงความดีใจกับ เดวิด เบ็คแฮม พร้อมแคปชั่นว่า -- "ใครจำได้บ้างว่ามีปีกลงไปช่วยฟูลแบ็กกันเมื่อไร?"
ไม่ต้องอธิบายอะไรให้เวิ่นเว้อ เราก็น่าจะพอรับรู้ได้ว่า สโคลส์ ต้องการสื่อไปถึงเรื่องอะไรกันแน่
ย้อนไปยังยุคเฟื่องฟูของสโมสร โดยเฉพาะช่วงเวลาที่นักเตะคลาส ออฟ 92 เติบใหญ่มาจากอะคาเดมี่ พัฒนาจนรุดหน้า ฝีเท้าแกร่งกล้าไม่กลัวใคร หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยผลักดันก็คือ ความขยันทุ่มเท
ไม่ว่าจะเป็น กิ๊กส์ หรือ เบ็คส์ ต่อให้ถูกยกย่องเป็นซูเปอร์สตาร์ หล่อทั้งหน้าตาและความสามารถ แต่พวกเขาไม่เคยแสดงอาการขี้แอ็กหรือติดเก๊กเลยสักนิด
ยามลงไปในสนามไม่ใช่แค่พุ่งทะยานไปข้างหน้า ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อสร้างโอกาสนำไปสู่การได้ประตูเท่านั้น แต่ยังควบตะบึงลงมาช่วยเกมรับอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้ฟูลแบ็กต้องง่วนกับการป้องกันการโจมตีเป็นส่วนใหญ่
ไม่ว่าจะ เดนิส เออร์วิน หรือ แกรี่ เนวิลล์ แบ็กซ้ายกับขวาในยุคดังกล่าว ล้วนเบาใจได้มาก เมื่อมีผู้เล่นทีมที่พร้อมจะช่วยเหลือ อย่างไม่เคยคิดเกี่ยงงอนว่าไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง
พอมองกลับมายังแข้งชุดปัจจุบันและโฟกัสยังเกมล่าสุด เจดอน ซานโช่ กับ อันโตนี่ ตัวรุกริมเส้นทั้งสองฝั่ง ย่อมโดนตั้งคำถามด้วยความสงสัยอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งคู่แทบไม่ได้ถอยมาช่วยเกมรับเลย มีบ้างที่วิ่งมาคอยซ้อน แต่มันก็ยังไม่มากพอหรอก หากเทียบกับสิ่งที่ เทนฮาก ต้องการอยากเห็น รวมทั้งเกมนัดล้มลิเวอร์พูล ซึ่งชัดเจนว่าแข้งแมนฯยูไนเต็ดทำงานกันหนักกว่า
เมื่อพวกตัวบนๆทั้งหลาย ไม่วิ่งให้สุด ไม่เพรสซิ่งหนักๆชนิดกัดไม่ปล่อย ไม่ได้บอลกลับมาไม่ยอมแพ้ ผลมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น
ซานโช่ ซึ่งเค้นจนฟอร์มกลับมาน่าสนใจ โดยเฉพาะจังหวะเคลื่อนไหวเข้าในกรอบเขตโทษเพื่อทำประตู ก็ดร็อปลงอีกจนได้
ในขณะที่คุณรับค่าจ้าง 340,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์และมีค่าตัวมากกว่า 70 ล้านปอนด์ มันก็ต้องแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่ากันบ้าง สโมสรลงทุนไปไม่ใช่น้อยๆเลย
ส่วน อันโตนี่ ก็ต้องเรียนรู้ตรงจุดนี้มากยิ่งขึ้นอีก อย่าเอาแต่สนใจแค่เกมรุก จนโยนภาระให้พวกผู้เล่นแนวรับ ในช่วงที่โดนกระหน่ำโจมตี ต้องเร่งฝีเท้าลงมาซ้อนอีกด่านทันที
ไม่ต้องอะไรมาก เขาน่าจะรู้สึกได้อยู่แล้ว เวลาที่ได้บอลจะเจอแข้งแมนฯซิตี้มายืนขวางอย่างน้อย 2 คนเสมอ แทบไม่มีทางขยับได้เลย คุณก็ต้องเล่นอย่างนั้นด้วยเช่นกัน
ทันทีที่โพสต์ของ สโคลส์ เผยแพร่จนกลายเป็นไวรัล มีเสียงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่คล้อยตามด้วย แม้จะพอรู้บ้างว่าฟุตบอลสมัยก่อนกับปัจจุบัน มีตัวแปรและเงื่อนไขแตกต่างสารพัด
แต่แน่ๆสิ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือ คุณต้องมีความขยันบากบั่นพากเพียร ทำทุกวิถีทางเพื่อเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่แค่นัดสองนัด แล้วมาภาคภูมิกับภารกิจบรรลุเป้าหมาย มันต้องเอาให้สุดทุกเกมเลย
2
ซานโช่ และ อันโตนี่ จำต้องพิจารณาผลงานการเล่นเกมรับของตนด้วย อย่ามองข้ามเด็ดขาด
ไม่อย่างนั้นจะโดนอดีตนักเตะ ว่ากล่าวตักเตือนอย่างนี้แหล่ะ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา