11 ต.ค. 2022 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
K SME ชวนเจ้าของธูรกิจ มาเปลี่ยนให้เป็น Brand Love 💖 ด้วย Brand Positioning กัน
พร้อมบอก 4 เคล็ดลับ สร้าง Brand Positioning ให้สตรอง!
เปลี่ยนให้เป็น Brand Love ด้วย Brand Positioning
👉 เริ่มแรกมาทำความรู้จัก Brand Positioning กันก่อน
คือ การวางตำแหน่งแบรนด์ในตลาดว่าเราคือใคร มีความพิเศษอย่างไร และแตกต่างจากคู่แข่งยังไง พูดง่ายๆ ก็คือ แบรนด์หรือสินค้าของเรายืนอยู่จุดไหนในสายตาของผู้บริโภคนั่นเอง
เช่น แบรนด์ไฮเอนหรือสตรีทแบรนด์ ผลิตภัณฑ์วีแกนหรือสินค้าออร์แกนิก เป็นต้น การวาง Brand Positioning ที่สตรองสามารถทำให้แบรนด์หรือสินค้าเกิด “ภาพจำ” และสร้างคุณค่าในใจผู้บริโภค ทำให้เกิด Brand Love ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
💖 Brand Love ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่
หรือมีเงินทุนด้านการตลาดมหาศาล แต่เป็นแบรนด์ที่มี Positioning ในตลาดที่ชัดเจน มั่นคง และโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแบรนด์เหล่านี้จะสามารถครองใจผู้บริโภคไม่ให้หันไปอุดหนุนสินค้าหรือบริการของคู่แข่งเลย
ทำไมถึงต้องมัดใจลูกค้าด้วย Brand Positioning? 🧐
1. สร้างความแตกต่างของแบรนด์กับคู่แข่ง
ด้วยความที่คู่แข่งในตลาดมีมากมาย Brand Positioning ที่สตรองและชัดเจนจะทำให้แบรนด์สามารถ Differentiate สินค้าหรือบริการกับคู่แข่งได้ ทำให้เกิดข้อได้เปรียบในการแข่งขันและชนะใจลูกค้า
2. ช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายและแนวทางการตลาด
Brand Positioning บ่งบอกจุดยืนว่าแบรนด์อยู่จุดไหนในสายตาของผู้บริโภค เช่น แบรนด์ไฮเอนหรือสตรีทแบรนด์ และผลิตภัณฑ์วีแกนหรือสินค้าออร์แกนิก ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนเลยว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร และแนวทางการตลาดจะเป็นอย่างไร
3. ช่วยกำหนดแนวทางการตั้งราคาสินค้า
Brand Positioning ไม่เพียงแต่ช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายและแนวทางการตลาด แต่ยังช่วยเป็นแนวทางในการตั้งราคาสินค้าให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ถึงแม้บางแบรนด์จะตั้งราคาสูง แต่ลูกค้าก็พร้อมจะควักเงินจ่าย เพราะจุดยืนที่ชัดเจน และคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้สินค้าหรือบริการ
4. ช่วยสร้าง Brand Loyalty
แบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจนสามารถสื่อสาร Brand Values ได้อย่างตรงไปตรงมา ทำให้ผู้บริโภคเกิดความไว้วางใจ สร้างความเชื่อมั่น รู้สึกมีส่วนร่วมและผูกพันธ์กับแบรนด์ ทำให้เกิดการซื้อซ้ำ ไม่เปลี่ยนใจไปอุดหนุนคู่แข่ง
ทำไมถึงต้องมัดใจลูกค้าด้วย Brand Positioning
4 เคล็ดลับ สร้าง Brand Positioning ให้สตรอง 💪🏼
1. สร้างความแตกต่างในการทำธุรกิจ
ชูจุดยืนในความเป็นตัวเองด้วยการนำเสนอจุดเด่นของสินค้าหรือบริการ และสร้างความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครในใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อที่จะนำหน้าคู่แข่ง จุดต่างนั้นสามารถสร้างได้หลายรูปแบบ เช่น แตกต่างที่บรรจุภัณฑ์ (บรรจุภัณฑ์ธรรมชาติ VS บรรจุภัณฑ์พลาสติก) หรือแตกต่างวัตถุดิบที่ใช้ไปจนถึงช่องทางจัดจำหน่ายก็เป็นได้
2. สร้างแบรนด์ให้น่าจดจำด้วย Essence Chart
Brand Essence Chart เป็นเครื่องมือที่ช่วยระดมความคิดในการประเมินการทำธุรกิจผ่านข้อมูลต่างๆ เช่น คุณสมบัติของแบรนด์ (Brand Attributes) ประโยชน์ที่จะได้จากการใช้สินค้าหรือบริการ (Brand Benefits) บุคลิกภาพของแบรนด์ (Brand Personality) และคุณค่าของแบรนด์ในใจผู้บริโภค (Brand Values) มักจะถูกสื่อสารในรูปแบบของโลโก้หรือ Tagline ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่แบรนด์กำลังดำเนินอยู่
3. ยิ่งรูทันจุดอ่อนคู่แข่ง ยิ่งได้เปรียบ
การศึกษาจุดอ่อน/จุดแข็งของฝั่งตรงข้ามเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แบรนด์สามารถพัฒนากลยุทธ์ในการแข่งขัน วางแผนการตลาด และเตรียมรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์คู่แข่งมีหลายวิธี เช่น การทำ Market Research, การสำรวจข้อมูลใน Social Media, หรือแฝงตัวเป็นลูกค้าเพื่อเข้าใจสิ่งที่คู่แข่งกำลังทำ
4. กำหนด Brand Values เพื่อตอบคำถาม “ทำไมลูกค้าต้องซื้อสินค้าเรา”
การกำหนด Brand Values หรือคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จะทำให้เรารู้ทิศทางของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ทำการตลาดและการวางกลยุทธ์ระยะยาวได้ง่ายขึ้น เข้าใจภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมไปถึงเกิดคู่ค้าใหม่ๆ ที่มี Brand Values ที่ไปในทิศทางเดียวกัน สุดท้ายเมื่อเรากำหนด Brand Value ได้แล้ว เราก็จะเข้าใจเลยว่า “ทำไมลูกค้าถึงเลือกเราและไม่ใช่คู่แข่ง”
4 เคล็ดลับ สร้าง Brand Positioning ให้สตรอง
หากใครได้ลองนำเคล็ดลับไปทำ Branding Position ของแบรนด์ตัวเองให้ดีขึ้นแล้ว อย่าลืมมาแชร์บอกต่อกันที่ K SME นี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : marketeeronline
#KSME #KBankLive
โฆษณา