ที่แรกในโลก กับการเปลี่ยนไปใช้รถไฟพลังไฮโดรเจน
ไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็ประเทศที่ล้ำกว่าชาวบ้านเค้าก้าวนึงเสมอในเรื่องเทคโนโลยี ใช่ค่ะ เรากำลังพูดถึงประเทศเยอรมนี อยู่นั่นเอง
โดยล่าสุดที่รัฐซักโซนีล่าง ของเยอรมนี ได้กลายเป็นที่แรกในโลก ที่เปลี่ยนการขับเคลื่อนรถไฟที่จากเดิมใช้ดีเซล มาเป็นการใช้พลังงานจากไฮโดรเจนที่ได้รับการติดตั้งอยู่บริเวณหลังคารถไฟแทน ซึ่งมันเป็นมิตรกับโลกม๊ากมากกก เพราะเค้าเคลมว่า มันเป็น Zero Emission และด้วยการใช้พลังงานไฮโดรเจนนี้ จะช่วยให้เจ้ารถไฟของรัฐซักโซนีล่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการป้องกันการปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์มากถึง 4,400 ตันต่อปี
คุณพระ... 4,400 ตันเลยเชียวรึ..
คาดการณ์กันว่า เยอรมนี จะทำการทยอยเปลี่ยนรถไฟพลังงานดีเซลให้เป็นพลังไฮโดรเจนให้ได้มากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่จะราบรื่นตลอดแหละ เพราะข่าวว่า ไม่ใช่แค่รถไฟที่สนใจพลังงานไฮโดรเจน เพราะอุตสาหกรรมอย่าง ยานยนต์ การบิน รวมไปถึงอุตสาหกรรมหนักทั้งหลาย เช่นอุตสาหกรรมเคมีและเหล็ก ก็กำลังจับจ้องอยากลองใช้ไฮโดรเจนกันทั้งนั้น แต่โพรไฟล์ระดับเยอรมนีอะเนอะ กลัวที่ไหน เพราะในปี 2020 พี่แกก็เพิ่งประกาศไปแหมบ ๆ ว่า จะเป็นผู้นำในเทคโนโลยีไฮโดรเจนให้ได้ ภายในหนึ่งทศวรรษนับจากนี้
นอกจากจะมีคู่แข่งแย่งใช้ไฮโดรเจนอยู่มากหน้าหลายตาแล้ว อุปสรรคสำคัญอีกประการนึงก็คือ กระบวนการได้มาซึ่งไฮโดรเจน และทั้งที่เรารู้จักมันมานานแล้ว อีกทั้งยังเป็นธาตุที่มีเยอะสุดในจักรวาลอีกตะหาก แต่มนุษย์ก็ยังไม่สามารถค้นพบวิธีการสกัดมันให้ง่ายกว่าที่เป็นอยู่
แค่นั้นไม่พอ ไม่ใช่แค่กระบวนการสกัดที่ยาก แต่กระบวนการจัดเก็บก็ยุ่งยากไม่แพ้กัน ยากไม่ว่า ดันแพงอีกตะหาก ซึ่งนี่คือปัญหาสุดแคลสสิคของพลังงานสะอาดทั้งหมด คือการสร้างพลังน่ะไม่ยาก มายากก็อีตรงจัดเก็บนี่แหละ ซึ่งปัญหาข้อนี้ ไม่ได้เกิดแค่กับพลังงานไฮโดรเจนเท่านั้น แต่เกิดกับพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลม และน้ำด้วยเช่นกัน
แล้วถ้ายังงั้น ทำไมเยอรมนีถึงยังดันทุรังจะทำต่อ นั่นก็เพราะเยอรมนีคงมีการคาดการณ์และคำนวณแล้วว่า ในระยะยาว ยังไงก็คุ้มและดีกว่า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย เช่น แบตเตอรี่ เมื่อเทคโนโลยีแพร่หลายมากขึ้น ก็น่าจะถูกลงได้ เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนให้รถไฟมาใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งถ้าจะทำแบบนั้น มันต้องรื้อทั้งระบบเพื่อให้รองรับการวิ่งโดยพลังไฟฟ้า ในขณะที่ ถ้าเปลี่ยนมาวิ่งพลังงานไฮโดรเจน เยอรมนีไม่ต้องวุ่นวายเปลี่ยนทั้งระบบ แค่ไปวุ่นวายกับการติดตั้งแบตเตอรี่ไฮโดรเจนแทนถังน้ำมันดีเซล แค่นั้นพอ
คำนวณแล้ว แค่เปลี่ยนถังน้ำมันดีเซลมาเป็นแบตเตอรี่ไฮโดรเจน น่าจะถูกกว่าไปวุ่นวายเปลี่ยนทั้งระบบเยอะ
ก็นับว่า เป็นอีกก้าวสำคัญที่น่าสนใจในการขยับทำอะไรเพื่อโลกเราในแบบรูปธรรม งานนี้เยอรมนีได้ไป 1 คะแนนค่ะ
ติดตามข่าวอื่น ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมได้ที่
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
