7 ต.ค. 2022 เวลา 07:49 • ไอที & แก็ดเจ็ต
รายได้จากธุรกิจโฆษณาอันมหาศาลที่จะเกิดขึ้นใน Metaverse อีกสิ่งที่ Mark Zuckerburg เห็นชัด และยอมแลกกับค่าวิจัยพัฒนามหาศาลเพื่อให้ Metaverse สำเร็จ
เรื่อง Metaverse เรื่องของ Mark Zuckerburg มีเรื่องให้เขียนถึงได้หลายมุมมอง หลายด้าน จะทะยอยเขียนออกมาเรื่อย ๆ แต่วันนี้ จะเขียนในมุมมองของการหารายได้จากธุรกิจโฆษณา ธุรกิจที่มีเงินหมุนเวียนทั่วโลกอย่างมหาศาลในแต่ละปี
หลังจากประกาศ เรื่อง Metavese ในงาน Facebook Connect เมื่อปีที่แล้ว ได้มีการประกาศรับสมัครพนักงานเป็นหมื่นคนเพื่อมาเร่งสร้าง Metaverse ให้เกิดขึ้นได้ภายใน 5 ปี ตามที่ประกาศไว้ จนเกิดค่าใช้จ่ายมหาศาล ตัวเลขทางบัญชีเป็นตัวแดงสองไตรมาสติด จนต้องประกาศขึ้นราคา Meta Quest 2 และบริหารจัดการพนักงานเข้มข้นขึ้น ซึ่งถ้าไม่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และไม่มี Vision ที่ชัดเจน มองไม่เห็นรายได้มหาศาลที่รออยู่หากทำ Metaverse สำเร็จ คงจะถอดใจและยกเลิกไปแล้วก็ได้
Mark Zuckerberg กำลังเล่นฟันดาบแบบ Mixed Reality
การที่ Mark เกิดมากในยุคนี้ ยุคที่ที่ดินต่าง ๆ มีเจ้าของ มีผู้ครอบครองทั้งหมด และราคาก็ขึ้นมาสูงมาก จนการจะได้เป็นเจ้าของไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะยิ่งเป็นพื้นที่ที่ทำเลดียิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เมื่อไม่ได้อยู่ในจุดทีตัวเอง เป็นผู้คุมเกม หรือผู้ที่บุกเบิก โอกาสในการที่จะชนะในเกม เกมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
หากเป็นยุคก่อน อาจจะใช้วิธีไปบุกเบิกสถานที่แห่งใหม่ ย้ายไปตัังถิ่นฐานในจังหวัดใหม่ ประเทศใหม่หรือไปลงทุนในที่ยังไม่ค่อยเจริญ ที่เห็นว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น แล้วรอเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความเจริญตรงนั้น
แต่ในยุคที่ Internet เชื่อมโยงกันทั่วโลกเกือบหมด แม้แต่หลาย ๆ ประเทศในแอฟริกา ก็มีบริษัทอย่าง Google ที่เข้าไปลงทุน เพื่อให้ประชาชนเชื่อมต่อเข้าถึง Internet ได้ ซึ่งก็ได้ประโยชน์ทั้งตัวประชาชนเอง ที่ได้เห็นข้อมูล ได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น บริษัท Google เองก็ได้ข้อมูล ต่าง ๆ ตอบแทนกลับมา หรือสถานที่ที่กันดาร หรือเบาบาง ไม่คุ้มในการลงทุนระบบโทรคมนาคม ก็มีดาวเทียมอย่าง Starlink ที่ไปดึงคนเหล่านั้นเข้าสู่โลกออนไลน์
ตัวรับสัญญาณดาวเทียว Star Link
Mark ซึ่งไม่ได้เกิดในยุคก่อน แต่เกิดในยุค Internet จึงเลือกวิธีการที่ยาก แต่ก็พอที่จะเป็นไปได้แล้วในยุคนี้ เพราะเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ก็ก้าวหน้าพอที่จะไปถึง
Mark เลือกที่จะสร้างโลกใบใหม่ โลกใบที่สอง (ถ้าใช้คำว่าโลกสองใบ ความหมายจะเหมือนกันไหมหนอ) โลกที่เป็นมากกว่า Digital Twin เพราะเป็นโลกเสมือนที่ให้ความรู้สึกสมจริงกว่าการมองผ่านจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ เป็นโลกที่สามารถใส่จินตนาการต่าง ๆ เข้าไปได้อย่างไรขีดจำกัด โลกที่สามารถแต่งเติม เสริม (augmented) ให้การใช้ชิวิตมีสีสัน มีความสะดวกสบายมากขึ้น
โลก Metaverse ที่ Mark สร้างขึ้นนี้ หากสำเร็จ Mark ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้สร้างโลก ผู้ที่จะกำหนด กฏระเบียบ รูปแบบการใช้ชีวิต โลกที่ไม่ต้องรอให้พระอาทิตย์ขึ้น เพื่อจะเป็นเวลากลางวัน โลกที่ไม่ต้องรอให้พระอาทิตย์ตก เพื่อเป็นเวลากลางคืน โลกที่อาจจะเป็นสังคมที่โคตรดี เพราะใครที่มาเกรียนในนี้ ก็จะถูกแบน Account ให้กลับไปอยู่ในโลกใบเดิม โลกที่ไม่สามารถเรียกว่าเป็นนรก แต่ก็ดูเหมือนจะเลวร้ายลงไปทุกที หรืออาจจะเข้าไปป่วน อยู่ใน Metaverse ของจีน ของเกาหลีที่กำลังเร่งสร้างอยู่เช่นกันแทน
ก่อนที่จะไปไกลเกิน ย้อนกลับมาแค่เรื่องของโฆษณา ทุก ๆ สถานที่ ที่คนจะเข้าไปรวมตัวใน Metaverse สถานที่ ๆ ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นหน้าโรงภาพยนต์เสมือน สวนสัตว์ สวนสนุกในโลกเสมือน จุด Landmark ในการฉลองปีใหม่เสมือน ซึ่งในโลกความเป็นจริง จะจุดพลุฉลองไล่กันไป ตาม Time Zone ไล่ไปตามเวลาพระอาทิตย์ที่ไม่เท่ากัน
แต่ในโลกเสมือน เวลาจะไม่มี TimeZone ทุก ๆ คนที่เข้าไปฉลองปีใหม่ จะฉลองพร้อมกัน (นี่เรากลับสู่แนวคิดเรื่องโลกแบนหรือนี่) ดังนั้น สถานที่เหล่านี้แหละ ที่ Mark จะยิงโฆษณาออกไปได้ การฉายโฆษณาที่เห็นได้จากคนทุกมุมโลก โฆษณาที่แสดงให้เห็นเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคน ๆ นั้้น โฆษณาที่ตรงเป้าหมายกว่าป้ายบิลบอร์ดทางท้องถนน ป้ายโฆณาในรถไฟฟ้า ป้ายโฆณาตามสี่แยกไฟแดง ซึ่งป้ายเหล่านั้น อาจจะผ่านสายตามากมายในแต่ละวัน แต่อาจจะตรงกลุ่มเป้าหมายแค่ไม่กี่ร้อยคน
หรือเมื่อมีการย้ายคนเข้าไปทำงานใน Office เสมือนใน Metaverse ได้สำเร็จ (WFM) หากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่จ่ายเงินค่า Subscription การใช้งานในโลกเสมือนได้ ก็คงไม่มีอะไร แต่ถ้าบริษัทขนาดเล็ก ที่อาจจะใช้งานฟรี แต่ต้องแลกกับการที่ทางเดิน ผนังห้องประชุมเสมือน มีโฆษณาขึ้นมาแสดง
สำหรับผู้ใช้ตามบ้านก็เช่นกัน ที่ผ่านมา เราเคยชินกันตลอด ๆ กับการที่มีโฆษณาขั้นระหว่างรายการที่เราดู ถ้ายิ่ง Rating ดี ยิ่งมีโฆษณาเยอะ หรือในยุคที่คนเปลี่ยนพฤติกรรมไปดูผ่าน Youtube กัน หากไม่จ่ายเงิน ก็จะมีโฆษณาขึ้นมาเป็นระยะ ๆ
สำหรับยุค Metaverse เมื่อ VR Headset ถูกเข้าไปใช้งานแทนที่ทีวีแล้ว เพื่อให้ดูรายการต่าง ๆ ได้ โดยไม่มีโฆษณาขั้นให้เสียจังหวะ และไม่ต้องจ่ายค่า Premium ในการดู แต่ Meta จะขอขึ้นโฆษณา ข้าง ๆ จอทีวีเสมือนแทน ซึ่งหากไม่อยากเห็นโฆษณาขึ้นมากวน ก็คงต้องเสียค่า Subscription แต่ถ้าไม่อยากเสียเงิน ก็ต้องยอมแลก กับการเสียสมาธิของโฆษณาที่ขึ้นมาข้าง ๆ แทน
โปสเตอร์โฆษณา ที่สามารถถูกส่งเข้ามาแสดงผลในห้องนอน Metaverse ยุค 90
ตอนที่คิดหัวข้อว่าจะเขียนเรื่องนี้ คิดว่าน่าจะเขียนออกมาเป็นเรื่องเทคโนโลยี แต่พอมาเขียนมาถึงตอนจบ ทำไมออกมาเป็นแนวนิยายวิทยาศาตร์เนี่ย
โฆษณา