8 ต.ค. 2022 เวลา 06:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Inverse Floater หนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ในยุคดอกเบี้ยสูง
ใครที่กำลังผ่อนรถ ผ่อนบ้านอยู่คงมีความกังวลอยู่ไม่น้อย หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 0.75% เป็น 1.00% เพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อ
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เรากำลังเข้าสู่ยุคดอกเบี้ยสูงขึ้นอย่างเป็นทางการ
ซึ่งผลกระทบจากการปรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ย่อมส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน โดยเฉพาะผู้กู้ หรือผู้ที่กำลังจะรีไฟแนนซ์ที่ต้องเผชิญกับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสีย เพราะอีกมุมหนึ่ง ก็ยังมีกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ จากสถานการณ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ที่ได้รับการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
ในขณะที่นักลงทุนสถาบันการเงินที่ลงทุนอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย ก็สามารถใช้สถานการณ์เหล่านี้ ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในอนาคต จากสถานการณ์ขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ยที่มีการเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วยเช่นกัน
วิธีนั้นเรียกว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบ “Inverse Floater”
Inverse Floater คืออะไร แล้วทำไมถึงเป็นโอกาสในการลงทุนในยุคดอกเบี้ยสูง ลองมาทำความเข้าใจไปด้วยกัน
Inverse Floater หรือตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวแบบย้อนทิศ คือหนึ่งในรูปแบบของตราสารหนี้ ที่ผลตอบแทนปรับตัวในทิศทางตรงข้าม กับการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่เปลี่ยนแปลงไป
หมายความว่า หากดอกเบี้ยอ้างอิงปรับตัวลง ตราสารหนี้แบบ Inverse Floater จะมีอัตราดอกเบี้ย ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากดอกเบี้ยอ้างอิงปรับตัวขึ้น ตราสารหนี้แบบ Inverse Floater ก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงไปนั่นเอง
การทำงานของ Inverse Floater จึงเหมาะสำหรับนักลงทุน ที่มีความชำนาญในการคาดการณ์การขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดได้ และสามารถยอมรับความเสี่ยงในระดับสูง เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่สูงกว่า
รวมถึงต้องมีความชำนาญในการใช้เป็นเครื่องมือ สำหรับการควบคุมความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ย ร่วมกับตราสารประเภทอื่น ๆ อีกด้วย
โดยเมื่ออ้างอิงจากสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ที่อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ไปตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจากทั่วทั้งโลก จึงทำให้ช่วงนี้มีความน่าสนใจในการเริ่มต้นลงทุนแบบ Inverse Floater
นอกจากนี้ Inverse Floater ยังมีตัวเลือกของรูปแบบสัญญาในแบบอื่น ๆ ให้บรรดานักลงทุนสถาบันที่สนใจได้เลือกสรรอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจคือ “Inverse Floater Swap”
Inverse Floater Swap คือรูปแบบหนึ่งของ Inverse Floater ที่มีการใช้สัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย ที่เกิดขึ้นในอนาคตระหว่างคู่สัญญาเป็นหลัก (ตามรูปแบบของประเภทสัญญาสวอป)
1
ซึ่งนโยบายการลงทุนใน Inverse Floater Swap สามารถสร้างประโยชน์ร่วมกันระหว่างคู่สัญญาได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ผลตอบแทนจากความเสี่ยงที่อ้างอิงกับเรื่องระยะเวลา และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ ที่ผู้ลงทุนจะยังคงได้รับดอกเบี้ยไม่น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำ เป็นต้น
ซึ่งสำหรับนักลงทุนหรือสถาบันไหน ที่สนใจเลือกลงทุนในรูปแบบ Inverse Floater Swap นั้น ทาง KTAM ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจมาแนะนำ
นั่นก็คือกองทุนเปิดเคแทม Inverse Floater Complex Return 2 (ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย) โดยกองทุนจะมีการลงทุน และทำธุรกรรมโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 กองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือเงินฝาก และ/หรือตราสารการเงิน รวมถึงหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ โดยอันดับของตราสารหรือของผู้ออกตราสาร
อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ประมาณร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีเป้าหมายให้เงินลงทุนส่วนนี้ สร้างกระแสเงินสดให้ครอบคลุมส่วนที่ต้องนำไป แลกเปลี่ยนกับคู่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทสัญญาสวอปซึ่งเป็นไปตามส่วนที่ 2
โดยส่วนที่ 2 กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทสัญญาสวอป (Inverse Floater Swap) โดยลักษณะสัญญา จะไม่มีการแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดในวันเริ่มสัญญา แต่จะกำหนดเงื่อนไขแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดในแต่ละช่วงตลอดอายุสัญญา
ซึ่งกองทุนจะเป็นผู้จ่ายดอกเบี้ยคงที่ และเป็นผู้รับดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งจะมีสูตรคำนวณอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย Thailand Overnight Repurchase Rate (THOR) เพื่อเปิดโอกาสให้กองทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการเปลี่ยนแปลงของ THOR
ซึ่งโครงสร้างพอร์ตกองทุนจะนำผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป ไปแลกเปลี่ยนกับกระแสเงินสดที่จะได้รับจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทสัญญาสวอปนั่นเอง
ในส่วนของผลตอบแทนจากการลงทุน มีปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ที่ต้องคำนึงถึงคือ…
  • 1.
    ผลตอบแทนหลังหักภาษีฯ โดยเฉลี่ยจากตราสารหนี้/เงินฝาก
  • 2.
    การปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงตลอดอายุโครงการ
  • 3.
    ความผันผวนของราคาตราสาร และมูลค่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทสัญญาสวอป
ทั้งนี้ กองทุนมีแผนจะทำธุรกรรม Inverse Floater Swap Forward กับธนาคารกรุงไทย (KTB) ในฐานะคู่สัญญาฯ และมีความเกี่ยวข้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KTAM ซึ่งถือเป็นธุรกรรมที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ได้
ในส่วนปัจจัยด้านความเสี่ยงของกองทุน ประกอบด้วย
- ความเสี่ยงด้านราคาและผลตอบแทน
- ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk)
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk)
- ความเสี่ยงด้านกฎหมาย (Legal Risk)
- ความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest)
- ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk)
- ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน (Country and Political Risk)
- ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการนำเงินลงทุนกลับประเทศ (Repatriation Risk)
- ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk)
- ความเสี่ยงในเรื่องคู่สัญญาในการทำสัญญาป้องกัน- - ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Counter Party Risk)
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกลยุทธ์การลงทุนแบบ Inverse Floater ไปแล้ว ก็น่าจะทำให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสการลงทุนในยุคดอกเบี้ยสูงได้ไม่มากก็น้อย และบทเรียนที่สำคัญกว่านั้นคือ ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ ไม่ได้เป็นแค่ประโยคเท่ ๆ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับโลกการลงทุนเสมอมา
สำหรับนักลงทุนผู้มีเงินลงทุนสูงหรือสถาบันไหน ที่มีความสนใจลงทุนกับ กองทุนเปิดเคแทม Inverse Floater Complex Return 2 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย ก็สามารถศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ http://bitly.ws/v8Gf
สำหรับใครที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม ผ่านแอปพลิเคชัน KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย
ดาวน์โหลด:
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร. 02-686-6100 กด 9
*คำเตือน
- ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 2 ปีได้ และกองทุนนี้อาจลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกและหมวดอุตสาหกรรม ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก หรืออาจขาดทุนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- การลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีความซับซ้อน ซึ่งมีปัจจัยอ้างอิงมีความแตกต่างจากการลงทุนในปัจจัยอ้างอิงโดยตรง จึงอาจทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนดังกล่าวมีความผันผวนแตกต่างจากราคาของปัจจัยอ้างอิงได้
- “ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนทำการลงทุน”
References :
- บทที่-7-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสัญญาสวอป from blog.bru.ac.th
- ตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวแบบย้อนทิศ (Inverse Floaters) from www.thaibma.or.th
- ตราสารหนี้ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว from www.thaibma.or.th
โฆษณา