9 ต.ค. 2022 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #เปลี่ยนสูตรดีกว่า? ]
หลังจากแมนฯยูไนเต็ดบุกเข่นโอโมเนีย นิโกเซีย เราได้ยินเสียงวิจารณ์มากมายจากกูรูพันดิตหรือผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์เกม
2
พอล สโคลส์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ BT Sport แสดงความเห็นเป็นฉากๆ โดยเฉพาะการวิเคราะห์เกมแดนกลางของทีม
ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าปีศาจแดง เป็นวันคลับแมน เล่นอยู่ทีมเดียวไม่เคยย้ายไปไหนตลอดอาชีพค้าแข้ง อีกทั้งเป็นมิดฟิลด์ถูกยกขึ้นหิ้งเป็นตำนานสโมสร มุมมองของเขาจึงดึงดูดความสนใจได้มาก
สโคลส์ มองว่า กาเซมีโร่ ต้องใช้เวลาปรับตัวอีกพอสมควร เพราะสไตล์ของแมนฯยูไนเต็ดแตกต่างจากตอนที่เล่นเรอัล มาดริดชัดเจน
1
แผงกลางราชันชุดขาวมี 3 คน ลูก้า โมดริช กับ โทนี่ โครส ยืนอยู่ไม่ห่างจาก กาเซมีโร่ เท่าไรนัก คอยสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา
1
บางเกมหากว่า คาร์โล อันเชล็อตติ อยากจะอัดมิดฟิลด์ให้แน่น ก็ยังส่ง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ไปยืนทางริมเส้นขวา แล้วคอยหุบมาข้างในช่วยไล่บี้เพรสซิ่งอีกแรง
นั่นหมายความว่างานของ กาเซมีโร่ ไม่ได้หนักหนาอะไรนัก ยืนหน้าแบ็กโฟร์ พอได้บอลก็มองหา โครส หรือ โมดริช ฝากไว้ให้ เล่นไม่ต้องยาก แบบรู้ศักยภาพ
บางจังหวะเขาอาจจะไปคอยซ้อนเพื่อนให้หรือ คอยระวังเวลาฟูลแบ็กดันขึ้นไปข้างบนเล่นเกมรุก ก็จะระวังหลังคอยดูแลพื้นที่แทน
แต่พอมาสวมเสื้อแมนฯยูไนเต็ด แท็คติกไม่เหมือนเดิม มีกองกลางแค่ 2 คน ตามสูตร 4-2-3-1 อย่างที่ เอริก เทนฮาก เลือกใช้เหมือนเมื่อก่อน ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่คาดกัน
ดังนั้น กาเซมีโร่ ต้องทำงานหนักขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องเกมรับเท่านั้น แต่ยังต้องเสริมด้วยการเคลื่อนไปข้างหน้า วางออกซ้ายขวาเพื่อแบ่งเบา คริสเตียน เอริกเซ่น ซึ่งไม่ถนัดเล่นเกมรับอีกด้วย
สถานการณ์บังคับไม่ให้เขาได้เล่นง่ายๆในแบบถนัดเหมือนอย่างเคย นั่นคือเวลาได้บอลก็มองหา โครส หรือ โมดริช แต่ยังต้องคอยมองให้ไกลเข้าไว้ เปลี่ยนจังหวะอย่างรวดเร็ว ลำพังจะมองหาแค่ เอริกเซ่น คงไม่ได้แล้ว
สโคลส์ เลยคอมเม้นต์ว่า กาเซมีโร่ ต้องมีคนช่วยอีก จะเป็น สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือ เฟร็ด ก็ได้ ไม่อย่างนั้นคงยากจะเค้นฟอร์มเหมือนสมัยอยู่มาดริด
แต่ในระบบของ เทนฮาก ยังไงก็ต้องใช้มิดฟิลด์ตรงกลาง 2 คน บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะถูกดันขึ้นไปสูงเป็นเบอร์ 10 คอยปั้นเกมและช่วยไล่ในแดนบนมากกว่าลงมาข้างล่าง
เกมที่ไซปรัสจะเห็นว่า กาเซมีโร่ โดนเปลี่ยนออกในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ผลงานโดยรวมไม่ได้แย่อะไร แต่เราได้เห็นจุดที่ยังต้องปรับปรุงไม่น้อยเลย
ทันทีที่ความเห็น สโคลส์ ออกสู่สาธารณะ มีพวกแฟนบอลนำมาถกกันในโซเชี่ยล มีไม่น้อยตั้งคำถามว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ เทนฮาก ควรจะเปลี่ยนแท็คติกหรือวิธีการเล่นบางอย่างดีหรือไม่
ในเมื่อตัวกุนซือดัตช์ เคยทำอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมประสบความสำเร็จจากระบบ 4-3-3 มาแล้ว หากจะกลับไปใช้อีกครั้ง ย่อมเป็นเรื่องที่น่าคิดเลยทีเดียว
ยังจำกันได้ตอน เทนฮาก มาใหม่ๆ สื่อทุกสำนัก นักข่าวแทบทุกคน ต่างเชื่อว่าแมนฯยูไนเต็ดโฉมใหม่จะเป็น 4-3-3 ซึ่งสาวกหลายต่อหลายคนก็อยากเห็นเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ผู้เล่นใหม่บางราย ก็ผ่านการเล่นด้วยสูตรนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น เอริกเซ่น , กาเซมีโร่ รวมทั้ง อันโตนี่ อีกคน
อย่างไรก็ดี เทนฮาก เลือกจะยึดหมากเดิมต่อไป อาจมีเหตุผลไว้ในใจแล้ว ซึ่งคาดกันว่าพวกผู้เล่นเก่าต่างคุ้นเคยดี ไม่ต้องย้อนกลับมานับหนึ่งกันใหม่
นอกจากนี้หากว่ากันในแง่คุณภาพผู้เล่น แมนฯยูไนเต็ดเองก็ยังไม่ดีพอ หากเทียบกับทีมใหญ่ทั้งหลายที่เล่นลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรอัล มาดริดหรือแมนฯซิตี้
ต้องยอมรับว่าระบบการเล่น มันต้องสะท้อนและสมดุลไปกับผู้เล่นที่มีอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นมันก็เปล่าประโยชน์
ทีนี้พอมีเคสของ กาเซมีโร่ เกิดขึ้น การเปลี่ยนระบบ อาจเป็นหนึ่งในทางออกที่ช่วยให้นักเตะเล่นในแบบถนัด
1
ขณะเดียวกัน เอริกเซ่น ก็น่าจะคุ้นกับระบบนี้ด้วย แล้วบรรดาตัวรุกก็ไม่ต้องยืนชิดริมเส้นมากเกินไป หุบเข้าในได้ตามที่ชอบ
1
บางคนยกตัวอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ตอนมาเชลซีปีแรก เขาวางหมากในลักษณะแบ็กโฟร์ปกติ อาจสับเปลี่ยนแนวรุกบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก เราจึงได้เห็นทั้ง 4-3-3 หรือ 4-5-1
อย่างไรก็ตามพอเห็นว่าไม่เวิร์คนัก ปรับมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนพลิกชีวิตอย่างแท้จริง ช่วยให้เชลซีครองแชมป์พรีเมียร์ลีกสำเร็จเหนือคาดหมาย คอนเต้ ได้รับเครดิตไปเยอะเลยกับการกล้าตัดสินใจ
นอกจากนี้ยังปลุกปั้น วิคเตอร์ โมเสส ที่น่าจะหมดอนาคตแล้ว กลายเป็นวิงแบ็กที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพอีกต่างหาก
ไม่ผิดนักหากเราจะบอกว่า คอนเต้ ทำให้สูตรหลัง 3 กลับมาฮอตฮิตอีกครั้ง ทั้งที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไร
ในเมื่อมีเคสของ คอนเต้ ซึ่งมาปีแรกเหมือนกัน แล้วเปลี่ยนระบบกลางคัน จนทำให้เชลซีเปรี้ยงปร้างอย่างไม่คาดคิด ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกหาก เทนฮาก จะลองเอาอย่างบ้าง
กุนซือดัตช์ก็มาปีแรก รวมถึงเริ่มมองเห็นแล้วว่า หากเปลี่ยนระบบจริงน่าจะช่วยสนับสนุนผู้เล่นใหม่ๆ ซึ่งน่าจะคุ้นเคยกว่า
อย่างไรก็ดีแฟนบอลบางส่วน มองเห็นขัดแย้ง เชื่อว่าหากเปลี่ยนสูตรจริงอาจ จะกระทบต่อผู้เล่นหลายคนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแนวรุก
บรูโน่ แฟร์นันด์ส น่าจะถูกลดบทบาทอย่างแน่นอน เคยเล่น 4-3-3 มาแล้วในทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งเรามักจะเห็นกันว่าผลงานไม่น่าประทับใจ เหมือนตอนรับใช้สโมสร
ขณะเดียวกันกองกลางอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ อาจไม่คุ้นและสับสนได้เช่นกัน รวมถึงตัวรุกบางราย
นอกจากนี้ถ้าทำจริง ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องเสี่ยงไม่น้อยเลย มันเหมือนต้องย้อนกลับไปเรียนรู้กันใหม่ ไม่ง่ายเลยที่จะปรับกันได้ภายในเวลาสั้นๆ แถมยังเกิดขึ้นระหว่างซีซั่น อาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย
ไม่มีใครรู้ว่า เทนฮาก คิดอะไรอยู่และวางแผนไว้อย่างไรในเรื่องแท็คติก ซึ่งมีเสียงเชียร์ให้เปลี่ยนไม่น้อยเลย
แต่ดูจากสถานการณ์และลักษณะการทำงานของ เทนฮาก ต้องยอมรับว่า โอกาสเปลี่อนไม่เยอะเท่าไรนักหรอก
กระนั้นหากสถานการณ์ของผู้เล่นใหม่บางคน ยังไม่ดีขึ้น เราต้องจับตาดูให้ดีว่า เทนฮาก จะเอาอย่างไร
ส่วนแฟนบอลเสียงแตกอย่างแน่นอน ต่างคิดมองเห็นไม่เหมือนกันและเชื่อกันคนละแบบ
ตกลงอยากเห็น เทนฮาก เปลี่ยนสูตรการเล่นหรือเปล่า?
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา