9 ต.ค. 2022 เวลา 03:54 • ข่าวรอบโลก
ปัญหาจริงๆของรัสเซียไม่ใช่เรื่องจำนวน แต่มันคือเรื่อง "วิธีการ"
หนึ่งในArgument หลักๆตอนนี้ที่เห็นในไทยในเรื่องความเพลี่ยงพล้ำของรัสเซียในสงครามหรีอการปฏิบัติการพิเศษกับยูเครน นั่นคือ เรื่องของ "กำลังพลน้อยกว่า"ของรัสเซีย โดยตั้งต้นจากการที่บอกว่า จำนวนทหารรัสเซียที่นำมาปฏิบัติการ ในยูเครนประมาณ 2แสนนาย ในช่วงตั้งแต่ ปลายกุมภา เริ่มต้นของสงคราม นั้น ไม่ได้มีกำลังทหารราบมากพอ เป็นหน่วยสนับสนุนการรบ และหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ อยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้กำลังหน่วยรบมีน้อยจนอาจจะน้อยกว่ายูเครนเสียด้วย (เอ๊ะ!แล้ว1)
ประเด็นที่ตามต่อมา คือ ความกว้างของแนวหน้าในการรบนั้นกว้าง ดินแดนที่รัสเซียผนวกก็มีพื้นที่ลึก ทำให้กำลังที่มีน้อยของรัสเซียไม่สามารถจะดูแลระวังป้องกันในพื้นที่ส่วนหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแนวรบที่กว้างกำลังที่น้อยก็ไม่สามารถทำการรุกได้เช่นกัน (เอ๊ะ!ที่2)
1
คำอธิบายของปัญหาข้างต้นที่นักวิเคราะห์ที่สนับสนุนรัสเซีย หรือติดตามในฝั่งรัสเซีย จะให้คำอธิบายว่า เนื่องจากรัสเซียไม่สามารถนำกำลังประจำการทั้งหมด ที่มีอยู๋ 9 แสนถึง1ล้านนายมาทุ่มในยูเครนทั้งหมดได้ เพราะต้องใช้ในการป้องกันประเทศและประจำการในชายแดนในด้านอื่นๆด้วย ประกอบกับสงครามครั้งนี้ไม่ได้ประกาศเป็น"สงคราม" ตามกฎหมายของรัสเซีย เป็นเพียงการปฏิบัติการพิเศษเท่านั้น ทำให้รัสเซียไม่สามารถระดมพลเต็มรูปแบบได้ (แต่สุดท้ายก็ระดมกำลังกองสำรอง 3 แสนนาย เข้าสู่สนามรบอยู่ดี /เอ๊ะ!ที่3)
#BFSS อยากจะเสนอมุมมองต่อ Argument เหล่านี้ แบบนี้ครับว่า ปัญหาที่ว่ามาทั้งหมดไม่ใช่ปัญหาของแก่น ในความผิดพลาดของรัสเซียในยูเครนที่เราเห็นครับ แต่ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลมันสะท้อน ความผิดพลาดในการวางแผนหรือการเลือกใช้ยุทธวิธีของกองทัพรัสเซียเอง และขีดความสามารถของกำลังทั้งหมดที่มีหรือปริมาณไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นคุณภาพได้
ประการแรก ไม่มีใครบังคับให้"รัสเซีย" เปิดแนวรบ,ยึดครองพื้นที่ ,ผนวกดินแดน กว้างและลึกแบบที่เห็นตอนนี้ รวมไปถึงไม่ได้มีใครบังคับให้รัสเซียจัดกำลังเป็น BTG ที่มีกำลังหน่วยสนับสนุนการรบเป็นครึ่งนึงของหน่วยดำเนินกลยุทธแบบนี้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ฝ่ายเสนาธิการรวมถึงผู้มีอำนาจตกลงใจของกองทัพรัสเซีย
( Let's say ปูติน) รู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีการจัดกำลังแบบใด การจัดกำลังแบบนี้เหมาะกับยุทธวิธีลักษณะไหน ,มียุทโธปกรณ์แบบใด ที่เป็นจุดเด่นหรือทำให้การปฏิบัติได้เปรียบหรือประสบความสำเร็จ และ "จำนวน" ที่มีอยู่ สามารถนำไปทำภารกิจอะไรแบบใดได้บ้าง
1
ฉะนั้น เมื่อผลของการ"เลือก" หรือ"ตัดสินใจ" ทำแบบที่เราเห็นแล้วกลายเป็นว่า รัสเซียไม่สามารถระวังป้องกันดูแลพื้นที่ยึดครองได้ (รวมไปถึงสี่ดินแดนที่ผนวกมา รัสเซียประกาศเส้นเขตแดนชัดๆไม่ได้ด้วยซ้ำไป ) และจะบุกก็คืบหน้าไปไม่ได้ คำว่า เพราะ "คนน้อยกว่า" จึงไม่ใช่คำตอบครับ คนน้อยกว่า" เพราะคุณตัดสินใจหรือวางแผนผิดพลาดตะหาก"
และการที่บอกว่า ตัวเลขกำลังพลที่เราเห็นทั้งหมดไม่ใช้หน่วยกำลังรบทั้งหมด นั้น มันเป็นเรืองปกติครับ ตัวเลขกำลังพลแบบนี้ ที่ไหนๆในโลก ทุกประเทศ จะสหรัฐอเมริกา จีน หรือแม้แต่ไทยเอง ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นครับ คือ มีทั้งหน่วยรบ สนับสนุนการรบ และสนับสนุนการช่วยรบ รวมกันอยู่ในนั้น แต่ไส้ในจะเอาอะไรไปมากกว่ากันเป็นสัดส่วนแบบใด มันคือ "เสรี" ในการเลือกของตัวคุณเองทั้งนั้น
ประเด็นที่สอง "การสะท้อนในเรื่องของขีดความสามารถ" การที่เราบอกว่าเพราะรัสเซีย ยังต้องมีการป้องกันประเทศและป้องกันชายแดนในภารกิจอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถที่จะทุ่มกำลังทั้งหมดมาใช้ในยูเครนได้ และเพราะการเป็นปฏิบัติการพิเศษ ไม่ใช่สงครามด้วย แต่ในทางกลับกัน พอผนวกดินแดนปุ๊บ รัสเซียไประดมกำลังสำรองเพิ่มเติม อีก 3 แสนนาย โดยเอากองหนุนชั้น1 อดีตทหารเก่า มาเข้าสนามรบก่อน
แน่นอนครับว่า ปริมาณไม่ได้สะท้อนคุณภาพ แต่! ปริมาณเป็นคุณภาพในตัวมันเอง การที่คุณมีทหาร 1 แสน เอาไปรบกับทหาร 1 พัน ยังไงคุณได้เปรียบมีคุณภาพกว่ากำลังฝ่ายตรงข้ามแน่นอน ปัญหาคือ ด้วยจำนวนทหารประจำการ 9 แสนนาย (Army280,000 Navy 150,000 Air
165,000 Strategic Rocket Force 50,000 Airborne
45,000 Special Operations Forces 1,000 Railway
Forces 29,000 Command and Support 180,000)
กำลังกึ่งทหาร อีก 554,000 และมีกำลังสำรองประมาณ 2 ล้านนาย
เมื่อรัสเซียเอากำลังทหารราวๆ 2 แสนนายเข้าไปในยูเครนแล้ว รัสเซียไม่สามารถจะจัดลำดับความสำคัญและโยกกำลังหรือจัดกำลังจากส่วนอื่นๆที่เหลือ อีก 7 แสนนายมาเพิ่มเติมกำลังในยูเครนได้เลย
1
ทำให้รัสเซียต้องไประดมกำลังสำรอง ซึ่งการนำหน่วยกำลังสำรองเข้าสู่สงครามน่ะไม่ผิด และไม่แปลก ถ้ามันมีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้า อย่างเป็นระบบ มีการเรียกมาฝึก เตรียมการ สับเปลี่ยนกำลัง แต่สิ่งที่เราเห็น คือการระดมพล มาฝึกและเตรียมการ ในขณะที่การปฏิบัติในการรบอยู๋ในช่วงวิกฤตหัวเลี้ยวหัวต่อในหลายพื้นที่
นั่นแสดงถึงความไม่พร้อมของกำลังที่มีประจำการอยู่หรือไม่อย่างไร ในขณะเดียวกันก็มักจะมีข้อถกเถียง ว่า "เพราะยูเครนเป็นฝ่ายโดนบุกทำให้สามารถจะระดมพลเกณฑ์พลเข้ามาได้ทุกผู้ทุกคน ทำให้มีกำลังพลได้มากกว่ารัสเซีย
ข้อสังเกตของ BFSS ต่อข้อถกเถียงนี้คือ แม้ยูเครนจะทำแบบนั้นได้จริง แต่่ในจำนวนทหารของยูเครนนั้น ก็ย่อมต้องผสมกันไปใน หน่วยรบ หน่วยสนับสนุนการรบ และหน่วยหน่วยสนับสนุนการช่วยรบเช่นกัน และที่สำคัญ ยูเครนก็ยังต้องคงกำลังทหารไว้ในส่วนต่างๆในภารกิจป้องกันประเทศ และแนวชายแดนในด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างไปจากรัสเซียเช่นกัน
เอวัง ด้วยประการละฉะนี้
#BFSS #รัสเซีย #ยูเครนรัสเซีย #สงครามรัสเซียยูเครน #ยูเครน
อ้างอิง
The Militaly Balance 2021. IISS
โฆษณา