9 ต.ค. 2022 เวลา 12:00
ทำความเข้าใจเหตุกราดยิง
เหตุกราดยิง (mass shooting) นับเป็นปัญหาความรุนแรงในโลกสมัยใหม่อันมีลักษณะเป็นปัญหาร่วมที่หลายประเทศเคยประสบ เช่น สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ เป็นต้น
แต่ทว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเริ่มมีเหตุกราดยิงบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งชี้ว่า ปัญหาความรุนแรงลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไป
จึงควรถึงเวลาที่เราจะมาทำความเข้าใจเหตุกราดยิงว่ามีที่มาจากอะไร ? เพราะทุก ๆ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุปัจจัยโดยรอบที่ส่งผลกับผู้ก่อเหตุ หาใช่ว่าจะเกิดขึ้นมาได้โดยฉับพลัน
หนังสือพิมพ์ The Washington Post ได้ระบุสถิติเหตุกราดยิงในสหรัฐอเมริกาว่า จาก 196 เหตุ ที่ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวน 4 คนขึ้นไป นับตั้งแต่ปี 1966 ผู้กระทำผิดเกือบ 98% ล้วนเป็นผู้ชาย โดยมากกว่า 40% นั้นเป็นเพศชายอายุ 18 - 29 ปี
จากสถิติจะพบเห็นว่า แนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นเกี่ยวพันกับเพศชายอย่างมีนัยยะสำคัญ
Jonathan Metzl นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Vanderbilt ค้นพบว่าในสมองส่วน Prefrontal Cortex ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ตระหนักถึงผลที่จะตามมาจากการกระทำใดกระทำหนึ่งและเป็นส่วนที่ทำงานด้านการยับยั้งชั่งใจของเพศชายทั้งในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น นั้นจะยังไม่พัฒนาเท่าที่ควรจนกว่าจะมีอายุถึง 25 ปี
จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เพศชายบางคนในช่วงวัยนี้มีแนวโน้มก่อความรุนแรง ขาดการยั้งคิด ซึ่งสาเหตุการตายของคนกลุ่มนี้ ได้แก่ การชกต่อยทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ การขับรถเร็ว เป็นต้น
และจากการสัมภาษณ์จากนักวิจัย นักอาชญวิทยา และคนทำงานในด้านอาชญากรรม เผยว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุกราดยิง พอสรุปออกมาเป็นประเด็นได้ดังนี้ (อิงจากบริบทในสหรัฐอเมริกา)
(1) ความรู้สึกไร้ตัวตน ซึมเศร้า ถูกทำให้โดดเดี่ยว
(2) ความล้มเหลวใน “ความเป็นชาย” (masculinity) ที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง
3
Frank Robertz ผู้อำนวยการจาก Institute for Violence Prevention and Applied Criminology ในเมืองเบอร์ลิน อธิบายว่า ลักษณะเด่นที่พบได้ในผู้ก่อเหตุหลาย ๆ คน คือ การมีภาพฝันถึงการได้มาซึ่งอำนาจและความยิ่งใหญ่ที่ไร้ขีดจำกัด และความปรารถนาที่จะได้รับความชื่นชอบ
อีกทั้ง Eric Madfis ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขาความยุติธรรมทางอาญา (criminal justice) จากมหาวิทยาลัย Washington ยังกล่าวเสริมว่า เพราะสังคมของเราสอนเด็กผู้ชายว่าต้องไม่อ่อนแอ อ่อนไหว ต้องแกร่ง ต้องแมนและก้าวร้าวเท่านั้นถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้กระทำผิดหลาย ๆ คนไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าว
ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่ คือ เด็กผู้ชายที่ถูกทำให้บอบบางมาเป็นระยะเวลานาน พวกเขาถูกรังแก ไม่ได้รับความสนใจ หรือไม่ได้รับความนิยมตามที่เด็กผู้ชายเหล่านี้ต้องการ
ยกตัวอย่าง Ramos ผู้ก่อเหตุที่ฆ่าเด็ก 19 คนและครู 2 คน ในเมือง Ulvade นั้นเคยถูกล้อเลียนเพราะพูดไม่ชัด หรือ Lanza ผู้ฆ่าคน 26 คนในโรงเรียนประถม Sandy Hook คือคนที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ขังตัวเองอยู่ในห้องนอนเป็นเวลาหลายเดือน และพูดคุยกับแม่ของเขาผ่านทางอีเมล์แม้ว่าทั้งสองจะอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน
Robertz กล่าวว่า ยิ่งผู้ก่อเหตุมีภาวะความนับถือตัวเองต่ำ มีความเครียด และที่สำคัญ มีปฏิสัมพันธ์กับสังคมรอบข้างน้อย ผู้ก่อเหตุก็จะยิ่งมีจินตนาการถึงความรุนแรงต่าง ๆ ที่ชัดเจนและทรงพลังมากยิ่งขึ้น(ซึ่งมักถูกใช้เป็นหนทางที่จะหลบหนีจากชีวิตวัยรุ่นของผู้ก่อเหตุที่เต็มไปด้วยปัญหาในโลกความจริง)
กลับมาที่ประเทศไทย จากเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากหลายปัญหา ตั้งแต่การเข้าไม่ถึงการบำบัดยาเสพติด หรือการไม่ได้รับความช่วยเหลือทางสุขภาพจิตในพื้นที่ชนบท จนไปถึงปัญหาภายในหน่วยงานราชการที่กดทับข้าราชการชั้นผู้น้อย และปัญหาการครอบครองปืนที่เข้าถึงได้ง่าย
เชาวน์พิชาญ เตโช นักจิตวิทยาชำนาญการกล่าวว่า สังคมไทยมักมองว่าหากใครมีปัญหาสุขภาพจิตนั้นคือ “คนบ้า” มายาคติดังกล่าวจึงทำให้ผู้ที่มีปัญหาปฏิเสธเข้ารับการช่วยเหลือทางจิต
จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมาอาจกล่าวได้ว่า คน ๆ นึงไม่ใช่ว่าจะเกิดมาแล้วเป็น “อสูรร้าย” ของสังคมไปในชั่วข้ามคืน หากแต่การสั่งสมของปัญหาเป็นระยะเวลานานตั้งแต่การถูกรังแก การถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวจากสังคมรอบข้าง หรือความไม่เป็นธรรมจากหน่วยงานภาครัฐ นั้นต่างหากคือชนวนที่จะเปลี่ยนคนธรรมดาคนนึงให้กลายมาเป็น “อสูรร้าย”
สังคมควรที่จะก้าวข้ามมายาคติว่าด้วยเรื่อง “ความเป็นชาย” หรือ “คนบ้า" แล้วหันมามองมุมใหม่ว่า คนทุกคนควรที่จะได้จัดการอารมณ์ตัวเอง และได้รับความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต รวมถึงเอาใจใส่คนใกล้ตัว มีความเห็นอกเห็นใจ มีการรับฟังเพื่อไม่ปล่อยให้สมาชิกคนใดคนนึงรู้สึกโดดเดี่ยว
จนไปถึงระดับองค์กรหรือภาครัฐที่ควรให้คนในที่ทำงานได้มีโอกาสได้พูด และได้รับการเข้าถึงการช่วยเหลือทางสุขภาพจิต
หากเราสร้างสังคมที่ไม่ปล่อยให้ใครอยู่เพียงลำพัง หรือเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่ผู้มีอำนาจจะไม่สามารถกดหัวผู้น้อยอย่างไม่เป็นธรรมได้ เมื่อนั้นก็คงจะไม่เกิด “อสูรร้าย” ที่ก่อกำเนิดขึ้นโดยสังคมของเรา
โฆษณา