9 ต.ค. 2022 เวลา 23:15 • ไลฟ์สไตล์
๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
มหาปวารณาพระเจ้าเปิดโลก : Lifestyle โมกขสิทธิ์
ปกติโลกสวรรค์ โลกมนุษย์ โลกนรก
ปิดประตูกฎใครกฎมันไม่เกี่ยวข้องกัน จนกว่าจะถึงวันเคลื่อนจิต
สรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แดนสรวงที่สมเด็จพระชินสีห์ ทรงเลือกจำพรรษา ในพรรษาที่ ๗
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ปราบเดียรถีย์ เปล่งรัศมี ดิน น้ำ ลม ไฟพวยพุ่ง ออกจากพระวรกายเป็นคู่ ๆ เตือนพวกหย่อนความประมาท ผู้ยังเคลือบแคลง ประจักษ์พุทธานุภาพ
หลังจากแสดงยมกปาฏิหาริย์ ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ พระศรีศากยมุนี ทรงย่างพระบาท ผ่านคลื่นกาลเวลา เหยียบยอดเขายุคันธร เขาอิสินธร ทะลุม่านมิติ ล่วงป่าหิมพานต์ แทรกพระวรกาย
ผสานธาตุสี่ รักษาร่างด้วยพุทธคุณ เปิดประตูแดนไตรตรึงษ์ ประทับบนบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ใต้ร่มไม้ปาริชาตกัลปพฤกษ์ ทดแทนคุณน้ำนม ค่าชีวิตขณะสงบงามวิมานครรภ์ แสดงพระอภิธรรมปิฎก โปรดพระพุทธมารดา ตลอดหนึ่งไตรมาสวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
บันไดเงินยวง บันไดทองนพคุณ บันไดแก้วนพรัตน์ เนรมิตจากท้าวอัมรินทราธิราช เป็นบันไดทิพย์ ทอดยาวจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ลงสู่แดนมนุษย์ จรดประตูเมืองสังกัสสะ รัฐอุตตร ถิ่นภารตะชมพูทวีป
หลังออกพรรษา ๑ วัน พระบรมครูทรงแสดงปาฏิหาริย์อีกครั้ง บันดาลเปิดโลกสวรรค์ พรหม เทพ คนธรรพ์, โลกมนุษย์ มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน,
โลกนรก สัตว์นรก เปรต อสุรกาย ให้มองเห็นกันและกัน บางคัมภีร์ก็ว่า ทรงเปิดให้คนทุกชั้นวรรณะ ยากดีมีจน ทัดเทียม เสมอภาค ด้วยพระธรรมวินัย รู้เลือกวิธีคุมเชิงชีวิต ให้เรียบรื่น มิหย่อนสั่งสมบุญ พุทธานุภาพบันดาลให้สัตว์สามภพ นรก โลก สวรรค์ มองเห็น รับรู้ทุกข์สุขซึ่งกันและกัน ผ่านม่านแก้วกางกั้นที่สัมผัสกันไม่ได้
พระศรีสรรเพชญ์ ทรงเสด็จลงแดนสรวงดาวดึงส์ ทางบันไดแก้วที่อยู่ตรงกลาง ทวยเทพพร้อมบริวาร ตามเสด็จทางบันไดทอง ฝั่งข้างขวา
เหล่าท้าวมหาพรหม ส่งเสด็จทางบันไดเงิน ฝั่งข้างซ้าย ปัญจสิขรคนธรรพ์เทพบุตร บรรเลงเพลงพิณ ฟ้อน โห่ร้อง กล่อมสวรรค์ เดินนำในเบื้องหน้า
ท้าวสันดุสิตเทวราช ท้าวสุยามเทวราช ทรงทิพย์จามรีถวายทั้ง ๒ ข้าง ท้าวมหาพรหมทรงทิพย์เศวตฉัตรกั้นถวาย ท้าวอัมรินทราธิราชประคองบาตร นำเสด็จลงสู่เมืองสังกัสสนคร
ท้าวจตุโลกบาล มีท้าววิรูปักษ์เทวานาคราช พวยพุ่งประกายจิต ปลิวขึ้นไปในท้องฟ้า ถวายจากบาดาล ดุจเดือนดาว แวววาวบูชาพุทธองค์
เหตุการณ์บันไดทิพย์ ทอดยาวจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ลงสู่โลกมนุษย์ครั้งนั้น ก่อเกิดประเพณีทำบุญตักบาตรวันเทโวโรหณะ วันพระเจ้าเปิดโลก
การทำบุญ เหมือนการรู้จักเลือกทางชีวิต เดินสายกลาง ตามกาลเทศะ ดุจเดินบนบันไดแก้ว มีผู้ส่งเสริม สนับสนุน ผู้น้อยดัน(ทวยเทพ) ผู้ใหญ่ดึง(ท้าวมหาพรหม) เตือนสติ ช่วยค้ำพ้นวังน้ำที่ไหลเชี่ยว ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ดังพุทธพจน์ว่า ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนหมู่มาก
วันออกพรรษานอกจากเป็นวันมหาปวารณา
ยังเป็นวันที่พระชินสีห์เสด็จลงจากเทวโลกเรียก “วันเทโวโรหณะ”
โบราณเรียก”วันพระเจ้าเปิดโลก”
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากสวรรค์มาประจำยังโลกมนุษย์
บางวัดบางหมู่บ้าน เริ่มทำบุญตั้งแต่วันขึ้น ๑๔ ค่ำเดือน ๑๑ ไปถึงวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑
เฉลิมฉลองความอิ่มอกอิ่มใจ ที่เห็นพระธรรมราช จึงร่วมใจสาธุการทำบุญตักบาตรเทโว
อุทิศส่วนบุญแด่ญาติมิตรผู้ล่วงลับ
และไตร่ตรองไม่ประมาทบ่มบุญ
สั่งสมกุศลจากประเพณีสืบปัจจุบัน
ดั่งคำพระชินสีห์ว่า
"บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญ
ว่าบุญมีประมาณน้อยจัก ไม่มาถึง
แม้หม้อน้ำ ยังเต็มด้วยหยาดน้ำ
ที่ตกลงมาทีละหยดได้ ฉันใด
บุคคลผู้มีปัญญา สั่งสมบุญแม้ทีละน้อย
ย่อมเต็มด้วยบุญได้ ฉันนั้น"
โฆษณา