9 ต.ค. 2022 เวลา 23:47 • ปรัชญา
🌈วันออกพรรษา🌈
เป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษา หรือออกจากพรรษาที่ได้อธิษฐานเข้าจำพรรษาตลอดระยะเวลา 3 เดือน เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กลับมายังโลกมนุษย์ หลังจากที่พระองค์ได้เสด็จไปจำพรรษา และแสดงพระธรรมเทศนาโปรดเทพบุตรพุทธมารดา ซึ่งอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต แต่ลงมาฟังพระธรรมเทศนาที่ชั้นดาวดึงส์
วันออกพรรษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันปวารณา” หรือ “วันมหาปวารณา” เป็นวันที่พระสงฆ์ทำปวารณากรรม คือเปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันด้วยเมตตาจิต เมื่อได้เห็น ได้ยิน หรือสงสัยในพฤติกรรมของกันและกัน หลังจากวันออกพรรษาแล้วสามารถจาริกไปค้างแรมที่อื่นได้
🌸พระพุทธเจ้าเปิดโลก🌸
พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ในพรรษาที่เจ็ดของพระองค์หลังจากที่เสด็จขึ้นไป
แสดงพระธรรมเทศนา โปรดพุทธมารดา
ในโอกาสนั้น ทรงสำแดงฉัพพรรณรังสี
เป็นเหตุให้ภพภูมิทั้งหลายตั้งแต่พรหมภูมิไปจนถึงนรกภูมิ
เปิดสว่างจนแลเห็นซึ่งกันและกัน
ท้าวสักกะทรงเนรมิตบันได ๓ ชนิด
คือบันไดทองคำ บันไดแก้วมณี บันไดเงิน
เชิงบันไดเหล่านั้นตั้งอยู่ที่ประตูสังกัสสนคร
หัวบันไดเหล่านั้นตั้งอยู่ที่ยอดเขาสิเนรุแดนดาวดึงส์
บันไดทองได้มีในข้างเบื้องขวา เพื่อพวกเทวดา
บันไดเงินได้มีในข้างเบื้องซ้าย เพื่อมหาพรหมทั้งหลาย
บันไดแก้วมณีได้มีในท่ามกลาง เพื่อพระพุทธเจ้า
พระศาสดาประทับยืนอยู่บนยอดเขาสิเนรุ
ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ในกาลที่เสด็จลงจากเทวโลก
ทรงแลดูข้างบนแล้ว สถานที่อันพระองค์ทรงแลดูแล้วทั้งหลาย
ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก
ทรงแลดูข้างล่าง สถานที่อันพระองค์ทรงแลดูแล้ว
ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงอเวจี
ทรงแลดูทิศใหญ่และทิศเฉียงทั้งหลาย
จักรวาลหลายแสนได้มีเนินเป็นอันเดียวกัน
เทวดาเห็นพวกมนุษย์, แม้พวกมนุษย์ก็เห็นพวกเทวดา
พวกเทวดาและมนุษย์ทั้งหมด ต่างเห็นกันและกันด้วยพุทธานุภาพ
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีไปแล้ว
มนุษย์ในที่นั้นซึ่งมีปริมณฑล ๓๖ โยชน์แม้คนหนึ่ง
เมื่อแลดูสิริของพระพุทธเจ้าในวันนั้นแล้ว
ทุกๆคนต่างปราถนาเพื่อเป็นพระพุทธเจ้ากันทั้งหมดทั้งสิ้น
พวกเทวดาลงทางบันไดทอง
พวกมหาพรหมลงทางบันไดเงิน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงทางบันไดแก้วมณี
เทพบุตรชื่อปัญจสิขะ
ถือพิณสีเหลืองดุจผลมะตูมยืนอยู่ ณ ข้างเบื้องขวา
ทำบูชาด้วยการฟ้อนแด่พระศาสดาลงมา
มาตลิสังคาหกเทพบุตรยืน ณ ข้างเบื้องซ้าย
ถือของหอมระเบียบและดอกไม้อันเป็นทิพย์
นมัสการอยู่ ทำบูชาแล้วลงมา
ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร
ท้าวสุยามถือพัดวาลวิชนี
พระศาสดาเสด็จลงพร้อมด้วยบริวารนี้
หยุดประทับอยู่ที่ประตูสังกัสสนคร
แม้พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร มาถวายบังคมพระศาสดาแล้ว
เพราะพระศาสดาเสด็จลงด้วยพุทธสิริเห็นปานนั้น
อันท่านไม่เคยเห็นแล้ว ในกาลก่อนแต่นี้
เพราะฉะนั้น จึงประกาศความยินดีของตน ว่า
"พระศาสดา ผู้มีถ้อยคำอันไพเราะ
ทรงเป็นอาจารย์แห่งคณะ
เสด็จมาจากดุสิตอย่างนี้
เรายังไม่เห็น ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย"
โฆษณา