Blockdit Logo (Mobile)
World Update
•
11 ต.ค. 2022 เวลา 06:34 • ข่าวรอบโลก
สกอตแลนด์ มั่นใจมาก! ทำประชามติแยกเอกราชจากสหราชอาณาจักรได้แน่
8
สกอตแลนด์ เป็นชนชาวสกอต เดิมเป็นราชอาณาจักรสกอตแลนด์ จนถึง ค.ศ. 1603 เมื่อพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ ทรงได้ครองบัลลังก์ ใช้พระนามว่า พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ
จึงมีผลให้ทั้งสองประเทศมีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกัน เรียกว่า การรวมราชบัลลังก์ (Union of the Crowns) แต่รัฐบาลของทั้งสองยังคงแยกจากกัน
2
ปี 1707 ในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีแอนน์ ทั้งอังกฤษ และสกอตแลนด์ ได้รวมตัวกันด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ ตามพระราชบัญญัติสหภาพ มีผลให้เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร
ระบบกฎหมายของสกอตแลนด์ แยกจากระบบกฎหมายของอังกฤษ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ และอยู่ในเขตอำนาจศาลต่างหาก ทั้งในทางกฎหมายมหาชนและเอกชน การคงไว้ซึ่งสถาบันกฎหมาย, การศึกษา, และศาสนาของตน อย่างเป็นอิสระจากสถาบันของสหราชอาณาจักร
3
ปี 1707 ในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีแอนน์ ทั้งอังกฤษ และสกอตแลนด์ ได้รวมตัวกันด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ ตามพระราชบัญญัติสหภาพ มีผลให้เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร
ระบบกฎหมายของสกอตแลนด์ แยกจากระบบกฎหมายของอังกฤษ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ และอยู่ในเขตอำนาจศาลต่างหาก ทั้งในทางกฎหมายมหาชนและเอกชน การคงไว้ซึ่งสถาบันกฎหมาย, การศึกษา, และศาสนาของตน อย่างเป็นอิสระจากสถาบันของสหราชอาณาจักร
5
ส่งผลให้วัฒนธรรมสกอตแลนด์ และอัตลักษณ์ของชาติสามารถคงความต่อเนื่องไว้ได้ พื้นที่สกอตแลนด์ ครอบคลุม 33% ทางตอนเหนือของเกาะบริเตนใหญ่ มีพรมแดนร่วมกับประเทศอังกฤษ ทางทิศใต้ สกอตแลนด์ มีเกาะอีกกว่า 790 เกาะ
น่านน้ำสกอตแลนด์ มีปริมาณน้ำมันสำรองใหญ่สุดในสหภาพยุโรป ทำให้เมืองแอเบอร์ดีน นครใหญ่สุดอันดับ 3 ในสกอตแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงน้ำมันของทวีปยุโรป
2
ปัจจุบัน เกิดความขัดแย้งขึ้นมานานกว่า 10 ปี เมื่อรัฐบาลสกอตแลนด์ มองว่าทรัพยากรรายได้ในเขตของตนจากพลังงานน้ำมัน และก๊าซ ถูกรัฐบาลกลางอังกฤษนำไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเหลวแหลก ไม่ก่อประโยชน์แท้จริงต่อชาวสกอตแลนด์
2
ปี 2014 มีการทำประชามติรอบแรก แต่ชาวสกอตแลนด์ลงมติคัดค้านด้วยคะแนนเสียง 55% แต่พรรค SNP คัดค้านผลประชามติดังกล่าว เพราะช่วงนั้นอังกฤษกำลังทำประชามติ เพื่อออกจากสหภาพยุโรป (EU) พอดี และส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องประชามติแยกเอกราชของชาวสกอตแลนด์
3
ด้วยสหราชอาณาจักรมีดินแดนอาณานิคมที่ยังไม่ให้เอกราชจำนวน 14 ชาติ คือ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จาเมกา บาฮามาส เบลิซ เบลิซ เกรนาดา แอนติกัวและบาร์บูดา เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ เซนต์คิตส์และเนวิส เซนต์ลูเซีย ปาปัวนิวกินี ตูวาลู และหมู่เกาะโซโลมอน
4
ซึ่งชาติเหล่านี้ช่วงหลังมาพยายามแยกเอกราชโดยทางพฤตินัย และกำลังดำเนินการแยกเอกราชอย่างสมบูรณ์ แม้แต่บรรดาดินแดนที่อยู่ใกล้เกาะอังกฤษเอง ก็กำลังก่อหวอดแยกเอกราช เช่น เวลล์ สกอตแลนด์ ฯลฯ เพราะนโยบาย "รีดไถ" ของรัฐบาลกลางอังกฤษ
บังคับส่งเงินบรรณาการไปให้ยูเครนกู้ซื้ออาวุธ ทำให้บรรดารัฐในปกครองฟิวขาด เพราะไม่เกิดประโยชน์กับพลเมืองตนเอง แต่ได้ประโยชน์เฉพาะพ่อค้าอาวุธกลุ่มเดียว
4
พรรคชาติสกอต (SNP) ของนายกรัฐมนตรี นิโคลา สเตอร์เจียน แห่งสกอตแลนด์ ชูนโยบาย "แยกเอกราช" จนชนะเลือกตั้ง โดยแถลงต่อสมาชิกรัฐสภาสกอตแลนด์ว่าจะจัดทำประชามติรอบ 2 "แยกเอกราชออกจากสหราชอาณาจักร" ในปีหน้าวันที่ 19 ต.ค.2023
2
ในช่วงหลังมานี้ ชาวสกอตแลนด์ พลเมืองราว 5.46 ล้านคน จำนวนมากไม่พอใจการบริหารของรัฐบาลกลางอังกฤษที่ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อสูง พลังงานน้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้า มีราคาแพงมาก กระแสแยกประเทศจึงกลับมาร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ความความขัดแย้งปะทุรุนแรง เมื่อคราวรัฐบาลกลางอังกฤษ ของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน มีคำสั่งให้รัฐบาลในเครือจักรภพแต่ละเขตปกครองของตนเอง จัดงบประมาณ "ส่งส่วยบรรณาการ" รวมกันถึง 1,000 ล้านปอนด์ ในจำนวนนี้บังคับ สกอตแลนด์ ส่งเงิน 65 ล้านปอนด์ , รัฐบาลเวลส์ ส่งเงิน 30 ล้านปอนด์
3
เพื่อนำเงินไป "ส่งต่อให้ยูเครน" เป็นค่าซื้ออาวุธจากบริษัทอุตสาหกรรมสงคราม
อ้างว่าเงินหยาดเหงื่อแรงงานจากภาษีชาวสกอตแลนด์เพื่อ "ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของยูเครน" แต่รัฐบาลสกอตแลนด์ แข็งข้อต่อคำสั่งรัฐบาลกลางอังกฤษ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสกอตแลนด์ ได้ปฏิเสธคำสั่งโดยมิชอบนี้
4
โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลสกอตแลนด์ วางแผนที่จะใช้จ่ายเงินจำนวนนี้กับ "ระบบสาธารณสุข และการศึกษา" ของตนเองไม่ใช่เพื่อคนชาติอื่น และตามกฎหมาย การใช้จ่ายด้านความช่วยเหลือกับต่างประเทศ เป็นบทบาทของรัฐบาลกลางอังกฤษ ไม่ใช่รัฐบาลในเครือจักรภพ
3
พอเปลี่ยนผู้นำเป็นนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ขึ้นมาบริหารอังกฤษ ยิ่งไปกันใหญ่เพราะเธอ "ไม่ตรงปก" ทำไม่ได้จริงตามที่เคยคุยโวไว้ทางทีวีและเวทีดีเบสต่างๆ ท่าดีทีเหลวและที่สร้างความไม่พอใจมากต่อชาวอังกฤษเมื่อเธอประกาศสนับสนุนเงินทุนให้ยูเครน ทั้งที่ประเทศกรอบเป็นข้าวเกรียบ
คะแนนนิยมของผู้นำอังกฤษต่ำเตี้ยอย่างมาก เกิดม็อบชาวอังกฤษ และสหภาพแรงงานลุกฮือขึ้นทั้งประเทศทุกเมืองมากมายมหาศาลจากวิกฤติราคาพลังงานแพง สินค้าแพง จนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
4
นายกอังกฤษ ไปรายงานตัวต่อนายกอิสราเอล
ล่าสุดนางโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีของสกอตแลนด์ และหัวหน้าพรรคชาตินิยมสกอตแลนด์ (SNP) แสดงความมั่นใจว่าจะทำประชามติเพื่อแยกตัวจากสหราชอาณาจักร รอบที่ 2 ในวันที่ 19 ต.ค. 2023 นี้แน่นอน
5
เหตุเพราะพรรคการเมืองหลายพรรคที่ชูนโยบายแยกเอกราชจากอังกฤษ ต่างได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนเป็นอย่างดี ในการเลือกตั้ง ส.ส. ของสกอตแลนด์เมื่อปีที่แล้ว และถือเป็นอาณัติสัญญาณเด็ดขาด ให้เดินหน้าผลักดันการทำประชามติแยกเอกราชรอบ 2
โดยศาลสูงของสหราชอาณาจักร เริ่มกระบวนการไต่สวนคำร้อง เพื่อขอทำประชามติแยกเอกราชโดยไม่ต้องขออนุมัติจากนายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ และรัฐบาลสหราชอาณาจักร
6
แม้ว่าจะแพ้ในศาล นายกรัฐมนตรีสเตอร์เจียน ระบุว่า รัฐบาลสกอตแลนด์ก็ไม่สนโดยจะผลักดันประชามติแยกเอกราชต่อไป
เพราะจะมีการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักรขึ้นในปี 2024 ดังนั้นพรรค SNP จะชูนโยบายเพียงเรื่องเดียว คือ การแยกเอกราช และ "จะถือเป็นการทำประชามติ" ไปพร้อมกันเลย..สกอตแลนด์สู้ต่อไป แยกเอกราชได้แน่นอน 🤭😂
6
ที่มา : Telegraph , Reuters
#WorldUpdate
1
ช่องทางติดตามบทวิเคราะห์ข่าวเชื่อมโยงกัน
โฆษณา