11 ต.ค. 2022 เวลา 16:10 • ธุรกิจ
#ญี่ปุ่น ชิงจังหวะ เยนอ่อน เปิดประเทศ
หวังกวาดรายได้ 1.3 ล้านล้านบาท
แต่เหมือนกรรมบัง เพราะขาดแรงงานภาคท่องเที่ยว 73%
นอกจากไทยที่เป็นประเทศที่มีการพึ่งพาการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมแล้ว ญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เริ่มหันมาพึ่งมานักท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นกัน
.
เพราะในปี 2019 ก่อนจะเกิดโรคระบาด ไทยเองก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากถึงเกือบ 40 ล้านคน สร้างรายได้มากถึง 1.9 ล้านล้านบาท ส่วนญี่ปุ่นเองมีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 32 ล้านคน ที่เข้ามายลโฉมแดนอาทิตย์อุทัย จนทำให้การท่องเที่ยวของญี่ปุ่นสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศคิดเป็น 7% ของรายได้ทั้งหมด
3
ทำให้ประเทศที่พึงพารายได้และเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว ต้องจัดการเรื่องโรคระบาดให้อยู่หมัด โดยใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องเจ็บน้อยที่สุด และต้องมีความพร้อมมากที่สุดในการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว
.
ซึ่งทำให้ช่วงที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ไทยเท่านั้นที่เจ็บปวดจากการปิดประเทศและไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน
3
แต่สถานการณ์โรคระบาดญี่ปุ่นจะแตกต่างจากไทย อ้างอิงจาก Worldometer ที่รวบรวมข้อมูลการระบาดจากโรคติดเชื้อในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน พบว่าญี่ปุ่นเองมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 21 ล้านคน ส่วนไทยเองมีผู้ติดเชื้อจากโรคระบาดสะสมกว่า 4.6 ล้านคน
.
จึงทำให้ญี่ปุ่นเอง มีความท้าทายในการจัดการ ภายใต้เงื่อนไขการเดินไปของเวลาที่ทำให้ผู้ประกอบการเฝ้ารอวันเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวก็รอคอยวันที่จะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งเช่นกัน
4
หลังจากที่ทางการญี่ปุ่นกลับมาใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป จึงทำให้ในมุมของนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้สมการรอคอย รวมไปถึงทำให้ความหวังของคนญี่ปุ่นก็กลับมาจากภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่ทำให้ญี่ปุ่นยังสามารถเดินต่อไปได้
3
จึงทำให้การท่องเที่ยวเป็นความหวังสำคัญในการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะแม้ว่าญี่ปุ่นจะมีขนาด GDP เป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ก็ถือว่าเป็นประเทศที่มีความท้าทายทางเศรษฐกิจในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ทั้งในแง่การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ถึง 2% ประกอบกับประชากรของประเทศมีแนวโน้มลดลง เรื่อยๆจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่น
2
แต่อีกปัจจัยที่ท้าทายญี่ปุ่นอยู่ตอนนี้ คือเรื่องค่าเงินเยนที่อ่อนค่าไปพอสมควร เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยที่ FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่เกิดจากสงครามรัสเซียยูเครน
.
ประกอบกับ ธนาคารกลางญี่ปุ่นใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ 0.1% คงที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในญี่ปุ่น จนทำให้ค่าเงินเยนไปสู่ระดับ 145 เยน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าไปถึง 26% เมื่อเทียบกับต้นปี
4
จึงทำให้ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจใช้ช่วงเวลาที่ค่าเงินอ่อนอย่างหนักเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวเช้ามากระตุ้นการใช้จ่าย
.
โดยการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นถือว่าเป็นความหวังของทางรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อย่างฟูมิโอะ คิชิดะ ที่คาดหวังเรื่องรายได้จากนักท่องเที่ยวถึง 5 ล้านล้านเยน หรือ เทียบเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท ภายใน 1 ปีหลังจากนี้
เพื่อที่จะมาฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
2
อ้างอิงข้อมูลจาก Japan times ที่ได้ไปพูดคุยกับ อาราตะ ซาวะ เจ้าของที่พักสไตล์ญี่ปุ่นในรูปแบบที่เรียกว่าเรียวกัง ได้พูดถึงการเปิดประเทศครั้งนี้โดยหวังว่าให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนก่อนโรคระบาด
นอกจากนี้ข้อมูลของ AP ที่ไปพูดคุยกับหัวหน้าผู้บริหาร ร้านค้าปลอดภาษีในญี่ปุ่นอย่าง Akky International Corp. ได้ให้ความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า ห้างร้านและธุรกิจอื่นๆ เช่น ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า สายการบิน รวมไปถึงธุรกิจการท่องเที่ยวความคาดหวังที่จะกลับมาฟื้นตัว จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวที่ทางญี่ปุ่นไฟเขียวเข้ามาในช่วงเวลานี้
2
เพราะที่ผ่านมา ห้างร้านขายปลีกได้ปิดตัวไปเพื่อความอยู่รอด และเปิดสาขาไว้เท่าที่จำเป็นอย่างในสนามบินนาริตะ หรือเมืองเกียวโต
.
ทำให้การเปิดประเทศครั้งนี้ของญี่ปุ่นจึงไม่ใช่แค่ความหวังของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ประชาชนและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังคาดหวังเป็นอย่างมาก สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่จะฟื้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
4
ที่เขียนมาทั้งหมดเหมือนจะมีข่าวดี และความหวัง แต่ก็อย่าลืมว่า ในช่วงการระบาดของโรคติดต่อนี้ ทำให้กิจการต่างๆรวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวต้องมีการลดพนักงานไปก่อนหน้านี้
.
ทำให้ภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ก็เจออุปสรรคจากภาคแรงงานในภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่อาจจะทำให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวไปไม่ถึงฝั่งฝันที่นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้ตั้งเป้าไว้
1
เนื่องจากข้อมูลการสำรวจของ Teikoku Databank เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่า ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ขาดแคลนแรงงานมากถึง 73% เพราะเนื่องจากรายได้ของแรงงานจากภาคการท่องเที่ยวนั้นมีค่าแรงที่ต่ำ จึงทำให้เป็นเสียงเรียกร้องไปถึงรัฐบาลญี่ปุ่นถึงการใส่เม็ดเงินสนับสนุนเข้าไป เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลคาดหวังรายได้จากการท่องเที่ยว
รวมไปถึงเสียงสะท้อนจาก ผู้จัดการทั่วไปของ Yokikan รีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนในเมือง Shizuoka มองว่า เรื่องการขาดแคลนแรงงานจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนหลังจากนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วภาคธุรกิจอาจจะไม่ได้ดีใจกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวหลังจากนี้
1
รวมไปถึงการเปิดประเทศครั้งนี้ของญี่ปุ่นห้างร้านต่างๆก็ไม่ได้กลับมาเปิดเหมือนเดิม
จากการเปิดให้บริการของร้านค้าในสนามบินนานาชาตินาริตะที่เปิดให้บริการเพียง 130 ร้านค้า จาก 260 ร้านค้า ที่ยังให้บริการไม่ครบในวันแรกที่เปิดประเทศ
.
ทำให้การเปิดประเทศครั้งนี้ของญี่ปุ่น ยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางโอกาสจากการเปิดประเทศ และปัจจัยที่ท้าทายญี่ปุ่นหลายด้านอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้ญี่ปุ่นกลับมาเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
5
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
.
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
Line : @reporterjourney
โฆษณา