จากคัมภีร์สู่ตำนาน จากตำนานสู่คัมภีร์ 1
ในวัย7-9 ขวบ ผมถูกส่งไปอยู่กับปู่ที่บ้านนอก
ไม่มีไฟฟ้า เย็นมาก็จุดตะเกียง ค่ำหน่อยก็เข้ามุ่งนอน
หลานๆ สองสามคนรวมทั้งผมก็จะนอนกับป้า
ที่ชอบเล่าเรื่อง นบีหรือศาสดาของพระเจ้าให้ฟัง
เริ่มตั้งแต่อาดัม มนุษย์คนแรก จนทุกวันนี้ผมแปลกใจนะ
ว่าป้าผมไปอ่านเรื่องแบบนี้มากจากไหน ที่เล่าได้ต่อเนื่อง
พอสมควร
ส่วนผมมาต่อเรื่องทั้งหมดได้เพราะอ่านไบเบิ้ลเดิม
ของยิว และคริสต์ ที่เรียบเรียงเรื่องนี้ไว้อย่างละเอียด
แบบการเล่าประวัติศาสตร์ ที่ต่างจากคัมภีร์อัลกุรอาน
ที่เล่าแบบ ไม่แคร์คนอ่าน ว่าจะติดตามเรื่องให้จบเรื่อง
ได้อย่างไร เพราะเล่า กระจัดกระจาย แต่ละเรื่องปนกันไป
ในบทต่างๆ ในเชิงบทสนทนา ที่ยกเรื่องโน้นเรื่องนี้
แล้วแต่ตอนใดที่สำคัญ ต่อการพูดในเวลานั้นเพื่อมาเสริมประเด็น
(เดียวผมจะยกมาให้ดูในตอนหลังๆ ว่าจะต้องเอามา
ต่อกันอย่างไร จึงจะเข้าใจประวัติของ ศาสดาแต่ละคน)
แต่ก่อนนอนที่เราท่องกันเล่นๆประจำคือการเรียงลำดับ
ศาสดา 25 องค์ที่คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึง เป็นสิ่ง
ที่ติดหูมาตั้งแต่เด็ก ที่เริ่มจาก อาดัม อิดริส นุห์ ฮูด ซอและ
อิบรอฮีม ฯลฯ มาจบที่ นบีมูฮัมหมัด(ขอพระเจ้าทรงประทานพร)
ป้าผมเล่าเรื่องพระเจ้าสร้างมนุษย์ ในภาษาที่เด็กๆฟัง
แล้วสนุกสนาน ไม่ได้เป็นวิชาการอะไร วิธีเล่าแบบไม่อ้างอิง
เอาแต่เนื้อเรื่องสำคัญ ผสมสำนวน ภาษานิทาน
ที่เริ่มจาก อาดัม ซาตาน เอวาห์ ต้นไม้ต้องห้าม
มาจนถึง นบีนุห์(ขอสันติจงมีแด่ท่าน)หรือโนอาห์
เรื่องการต่อเรือและน้ำท่วมโลก ต่อเนื่องนับเดือน
ทุกคืน จนมาจบที่ นบีมูฮัมหมัดของอิสลาม
ทั้งหมดได้ความสนุก เชิงตำนานแต่ไม่ได้
ข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์อะไร ในเวลานั้นผม
ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ศาสนา ยิวและคริสต์เป็นอย่างไร
โลกของผมมีแค่สองศาสนาเท่านั้นที่รู้จัก คือ พุทธกับอิสลาม
เรื่องที่ค้างคาใจและสนใจมากที่สุดคือเรื่องของ
ศาสดาที่ชื่อ ฮูดและซอและห์ ซึ่งตอนนั้นผมเรียงไทม์ไลน์
เรื่องนี้ยังไม่เป็น แต่รู้ว่า หลังน้ำท่วมโลกหล่ะ
คือ กลุ่มชนของท่านนบีฮูด และซอและห์ หลังจากหมดยุคโนอาห์
พวกเขามีความพิเศษ ที่พระเจ้าให้พวกเขามีร่างกายกำยำใหญ่โต
กว่าทุกเผ่าที่เคยมีมา
ป้าบอกว่า พวกนี้ใช้นิ้วแกะสลักหน้าผาหินเพื่อทำบ้านอยู่
เดินที่หนึ่งไปได้ไกลด้วยก้าวที่ยาว ไม่มีใครสู้พวกนี้ได้
แต่พวกนี้ไม่เชื่อพระเจ้า พระเจ้าจึงส่ง นบีฮูดให้มาสอน
ศาสนาให้มานับถือพระเจ้าผู้สร้างทุกอย่างองค์เดียว
แต่เขาไม่เชื่อแล้วพระเจ้าก็ส่งบทลงโทษลงมา
คล้ายๆกับที่หลาย นบีที่จบคล้ายกัน ที่พระเจ้าทำลาย
พวกที่ไม่เชื่อ เช่น เอานำ้ล้างโลก หรือให้เกิดพายุทมึน
ฟ้าผ่า แผ่นดินดูด อะไรทำนองนั้น
เป็นเป็นการเล่าเชิงตำนานสำหรับเด็ก ที่เพียงพอแล้ว
ที่รอบทสรุปตอนจบ ที่ธรรมะ ได้ชนะอธรรม
แล้วหลานๆ ก็หลับอย่างอบอุ่น ไปทีละคนสองคน
ในค่ำคืนที่เงียบสงัด
แต่เมื่อผมโตขึ้น ได้อ่านคัมภีร์ทั้งฝ่าย ยิว คริสต์
และอิสลาม จึงได้รู้ว่า นบี(ศาสดา หรือศาสนทูตของพระเจ้า)
ที่ผมท่องมาตั้งแต่เด็กนั้น เป็นยิวอยู่ราว 19 ท่าน
เป็นอาหรับ 3 และเป็น อัคคาเดี้ยน1 และ อีก3 ไม่รู้เชื้อสาย
(โดยประมาณนะ)
และสองท่านที่เป็นอาหรับ ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว คือ นบีฮูดกับซอและห์
ที่มาจากเผ่า อ๊าต และษะมูต
เมื่อผมพยายามเอามาเทียบกับอารยธรรมโลกยุคใหม่
ที่นับถอยหลัง กลับไปได้ราว5000ปี ก่อนมาถึงยุคเรา
นบีฮูดและซอและห์นั้น อยู่ก่อนยุคอารยธรรมโลกยุคใหม่
หมายถึง มากกว่า 5000 ปีที่ผ่านมา แต่สรุปเวลาไม่แน่นอน
(สิ่งที่อ้างอิงเวลาค่อนข้างได้ชัดเจนนั้น นับจากอารยธรรมยุคใหม่)
และมาสรุป สิ่งที่เหลืออยู่ ของอาหรับ เผ่าอ๊าตและษะมูต
ก็คือ ซาก สิ่งก่อสร้าง ของอารยธรรม ที่อ้างหลังสุด
ของพวก เมเดียน(Madain) และต่อมาคือ นาบาเทียน(Nabateans)
ที่มีอารยธรรม ต่อเนื่องกันจากเยเมน โอมาน พาดผ่าน
ซุอุดิอารเบีย ไปทะลุจอร์แดน
คราวหน้าค่อยมาว่ากันด้วยสตอรี่ ของกลุ่มชน
ที่เป็นรอยต่อ ระหว่างหลังน้ำท่วมโลก ในตำนาน
กับอารยธรรมโลกยุคใหม่ที่เรายึดถือกันในแบบสากล
และเนื่อหาที่อยู่ในคัมภีร์ อัลกุรอานของอิสลาม
ที่ไม่มีเรื่องนี้ในคัมภีร์ของศาสนา ยิวและคริสต์
ที่หลุดออกจากตำนานของป้าผม มาเป็นเรื่องราว
เชิงประวัติศาสตร์และ สำนวนภาษาที่อัลกุรอาน
ที่มุสลิมเชื่อว่าเป็นการตรัสเล่าเรื่องนี้จากพระเจ้าโดยตรง
จบตอน1 (ถ้ามีเวลาจะมาเขียนต่อครับ เริ่มหลายเรื่อง
แล้วไม่จบซักที ตอนเดียวจอด อิอิ)
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
