12 ต.ค. 2022 เวลา 03:51 • ไอที & แก็ดเจ็ต
Meta Connect ครั้งที่ 11 จัดขึ้นวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ตรงกับเวลาในประเทศไทย คือเที่ยงคืนพอดี ในประเทศไทย ถือว่าเริ่มเปิดงาน 00.01 ของวันที่ 12 ตุลาคม โดย Keynote Speaker ไม่ใช่ใครที่ไหน Mark Zuckerburg นั่นเอง
ในช่วงเปิดตัว ที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง มีการพูดถึงเรื่อง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย โดยหนึ่งในนั้น ตามที่แหล่งข่าว ต่าง ๆ มีการคาดการณ์กันไว้ คือการเปิดตัว Headset ตัวใหม่ คือ Meta Quest Pro ซึ่งก็เป็นตามนั้นจริง ๆ ในบทความนี้ จึงเขียนเกี่ยวกับ Meta Quest Pro ก่อน และจะเขียนเรื่องอื่น ๆ ในตอนต่อไป
Mark Zuckerberg กำลังพูดเปิดตัว Meta Quest Pro
ช่วงที่จะแนะนำ Meta Quest Pro ก่อนที่ Mark จะพูดถึงเรื่องราคา Mark ได้มีการพูดเน้นย้ำ ว่านี่คือ Headset ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานใน Metaverse เป็น Hi End Headset ที่ต้องเกริ่นแบบนี้ คงเพื่อให้เตรียมใจ กับราคาที่กำลังจะพูดออกมา เพราะราคา Headset นี้ อยู่ที่ 1500$ ซึ่งหากเทียบกับราคา VR ปัจจุบันนี้ ที่อยู่ราว ๆ 400 - 700$ ก็ถือว่า สูงขึ้นเยอะเลยทีเดียว แต่ถ้าเทียบกับข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้า ถือว่าแหล่งข่าวแม่นยำ เป็นราคาเดียวกับที่ลือเลยทีเดียว
ส่วนต่อไป เป็นการเปรียบเทียบ Quest Pro ที่เปิดตัววันนี้กับ Quest 2 และอาจจะมีเทียบกับ Pico 4 อยู่บ้าง เพราะเปิดตัวออกมาไล่เลี่ยกัน
การเปรียบเทียบ Quest Pro กับ Quest 2
Chipset & RAM : จากที่คาดการณ์ว่า จะใช้ Snapdragon XR2 Gen1 แต่ Quest Pro ใช้รุ่นที่สูงกว่า คือ XR2+ ในส่วนของ RAM Quest Pro มีการเพิ่มขึ้นถึง 1 เท่าตัว
Lens Type : Quest Pro มีการใช้ Pancake Lens ซึ่งถือว่าเป็นเลนส์ที่จะใช้กันเป็นปรกติพื้นฐานสำหรับ Headset ต่อจากนี้ ถือว่าหมดยุคของ Fresnel Lens ที่ใช้กันมายาวนานเป็น 10 ปีแล้ว
Passthrough : Quest Pro เป็น Colour Passthrough แล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับ Pico 4 ที่มี Colour Passthrough เหมือนกัน แต่ Quest Pro มีความเหนือกว่าที่ตรงที่วัตถุต่าง ๆ ที่มองผ่าน Headset จะเป็น 3D แต่ใน Pico 4 เป็นแแบบ 2D
การทำงานในแบบ MR ที่สามารถใช้จอหลายจอในโลกเสมือนได้เลย
Refresh Rate : Quest 2 จาก ที่เริ่มต้นออกมา ทำ Refresh Rate ได้เพียง 72 Hz และมีการอัพเกรดเพิ่มเป็น 90 Hz และตอนนี้ได้ถึง 120 Hz ส่วน Quest Pro ทำได้ที่ 90 Hz ซึ่งเท่ากันกับ Pico 4 ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า เมื่อเวลาผ่านไป ทั้ง Quest Pro และ Pico 4 จะทำ Refresh Rate ได้สูงขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ได้ อาจจะหมายความว่า Pancake Lens คงจะมีข้อจำกัดเรื่อง Refresh Rate
Lens Separation : Quest 2 สามารถปรับระยะห่างระหว่างสายตาได้แค่ 3 ระดับ แต่ Quest Pro ปรับได้อย่างอิสระ และมีระยะในการปรับค่อนข้างกว้าง หากเทียบกับ Pico 4 ถือว่ากว้างกว่าด้วยซ้ำ ถ้าดูจากสถิติเรื่องระยะห่างสายตาของคนส่วนมาก Quest Pro จะครอบคลุมแทบทุกระยะห่างของคนส่วนใหญ่ แต่ของ Pico 4 คน กลุ่มคนที่มีระยะห่างสายตาประมาณ 55 - 62 จะมีปัญหาในการใช้งาน
Tracking : Quest Pro มีความสามารถในการติดตามดวงตาและใบหน้าได้ ส่วนการทำ Hand Tracking มีมาตั้งแต่ Quest 2 แล้ว
Controller : สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือ นอกจาก Quest Pro จะไม่มีวงแหวนเพื่อป้องกันแล้ว ซึ่งน่ากลัวมาก ๆ ถ้าเอาไปเล่นเกมในที่แคบ ๆ แล้วเผลอชกเข้ากับกำแพง นอกจาก Controller จะเสียหายแล้ว มือยังบาดเจ็บด้วย
คือ Controller ของ Quest Pro สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง มีกล้องในตัวเอง และมี Chipset ประมวลผลในตัวเอง ทำให้สามารถทำงานได้ครบ 360 องศา ซึ่งที่ผ่านมา ในการจับการเคลื่อนไหวของ Controller จะใช้กล้องที่อยู่ที่ Headset ดังนั้น บริเวณด้านหลัง Headset ที่กล้องไม่เห็น Controller สัญญาจะหายไป
น้ำหนัก : Quest 2 มีน้ำหนัก 503 กรัม Quest Pro 722 กรัม สิ่งที่พอจะช่วยให้ไม่ปวดคอจนเกินไป จากน้ำหนักที่สูงขึ้นกว่า Quest 2 100 กว่ากรัมคือการที่ย้ายแบตเตอรรี่มาอยู่ด้านหลัง ทำให้เกิดความสมดุลมากขึ้น
การชาร์จและแบตเตอรี่ : Quest Pro จะมาพร้อมกับแท่นชาร์จ Headset ที่ Charge ได้ทั้ง Headset และ Controller แต่ขนาดของแบตเตอรี่ ไม่มีระบุขนาดว่าเท่าไหร่ แต่ผู้ที่มีโอกาสได้ทดสอบ บอกว่าหมดค่อนข้างเร็ว ใช้ได้แค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
Meta Quest Pro Headset กับ Controller และแท่นชาร์จ
ที่ผ่านมา VR ใช้เพื่อ เล่นเกม เพื่อ Social เช่น VR Chat และฟิตเน็ต สำหรับ Quest Pro Mark ต้องการให้เป็น Head set ที่ขยายไปยังกลุ่มต่อไป คือใช้เพื่อการทำงาน ทำให้การทำงานไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง สามารถ Teleport ไปที่ไหนก็ได้ เข้ามาแก้ปัญหา เวลาที่มีการอบรม การ Brain Strom ที่ต้องมีการเขียน ไวท์บอร์ด ที่ต้องมีการติดกระดาษโพสอิท การทำงานที่ต้องมีการทำงานร่วมกัน ซึ่งหากใช้การประชุมผ่าน Online แบบเดิม ๆ ไม่สามารถทำได้หรือทำได้แต่ไม่เต็มประสิทธิภาพ
Magic Room สถานที่ สำหรับเข้าไปทำงานร่วมกัน
ดังนั้น เพื่อให้ Avatar ที่เป็นตัวแทนใน Metaverse ได้แสดงออกทางสีหน้า ท่าทางใกล้เคียงที่สุด นอกจากจะมี Eye และ Face Tracking แล้ว Quest Pro ยังสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของขาได้ด้วย ดังนั้น ตัว Avatar จะเห็นขึ้นมาเต็มตัว ไม่ใช่ครึ่งตัวแบบเมื่อก่อน โดยการ Tracking ขานี้ ไม่มีอุปกรณ์ที่ต้องเอามาติดเพิ่มเติมใด ๆ เหมือนกับยี่ห้ออื่นที่จะต้องติดตั้ง Sensor เพิ่ม
ช่วงนึงของโชว์ Mark เข้าไปพูดอยู่ใน Horizon World และขยับขาของ Avatar
สำหรับ การวางจำหน่าย สามารถเริ่มสั่งซื้อได้ ตั้งแต่ตอนที่ Mark พูดเปิดตัวในงานเลย โดยของจะส่งในวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
โฆษณา