16 ต.ค. 2022 เวลา 05:22 • ประวัติศาสตร์
#ร่ม สัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีของชาวตะวันออก
ร่มพับได้ ร่มอัตโนมัติ ร่มมินิ ร่มขนาดใหญ่ ที่ใช้สำหรับกันฝน กันแดด…ในปัจจุบัน! ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายคนต้องพกติดตัวไว้ แต่อะไรคือที่มาของอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันชิ้นนี้? เรื่องราวการสร้างร่มที่น่าสนใจ เรื่องเล่าจากดาวนี้ได้สรุปมาให้อ่านดังนี้
ร่ม
ร่มถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกใน เมโสโปเตเมีย เมื่อประมาณ 4,000 ปีที่แล้ว เนื่องจากในช่วงเวลานั้น ดวงอาทิตย์ถือเป็นศัตรูที่คุกคามชีวิตได้มากกว่าฝน ด้วยเหตุนี้ร่มจึงถูกประดิษฐ์ขึ้น จากใบปาล์ม ต้นปาปิรัส และขนนกยูง มีลักษณะคล้ายพัดขนาดใหญ่
1
สิ่งนี้ถูกใช้ในอารยธรรมยุคแรก ๆ ของอียิปต์ อัสซีเรีย กรีซ และจีน สงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงในอียิปต์โบราณและภูมิภาคเมโสโปเตเมียเท่านั้น แม้ว่าร่มจะมีน้ำหนักมาก แต่ผู้คนก็นิยมพกร่มติดตัวไปด้วยอยู่บ่อยครั้ง เพื่อแสดงถึงฐานะทางสังคมและใช้ป้องกันแสงแดดระหว่างวัน
ทว่าร่มกันฝน เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศจีน ชาวจีนยุคกลางได้ประดิษฐ์ร่มกันน้ำขึ้นเพื่อใช้กันฝนระหว่างเดินทาง พวกเขานำร่มมาเคลือบแว็กซ์เพื่อไม่ให้ร่มเสียหายเมื่อต้องโดนน้ำนาน ๆ ในยุคนั้นร่มกันแดดเริ่มถูกเรียกตามรากศัพท์ภาษาละตินว่า umbra ซึ่งหมายถึง เงา และช่วงเวลานี้เองที่ร่มเริ่มกลายเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ สำหรับใช้ป้องกันตัวเราจากสภาพอากาศที่เลวร้ายและฝน
1
ในภาษาฝรั่งเศส 'parapluie' หมายถึงร่ม ส่วน 'para' หมายถึงการป้องกัน ในขณะที่ในภาษาอังกฤษ ร่มมีต้นกำเนิดภาษาละติน 'umbra' หมายถึงเงา จึงมีการเชื่อมโยงโดยตรงกับร่มกันแดดรุ่นก่อน /(Paris Street; Rainy Day, by Gustave Caillebotte (1877))
ในศตวรรษที่ 16-17 ร่มได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนชั้นสูง ชาว อิตาลี ฝรั่งเศส และอังกฤษ แม้ร่มในช่วงแรกจะเป็นเพียงเครื่องประดับสำหรับผู้หญิง
แต่หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 18 Jonas Hanway นักเดินทางและนักเขียนชาวเปอร์เซีย ได้เริ่มใช้ร่มต่อสาธารณชนในอังกฤษ ทำให้ร่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสุภาพบุรุษชาวอังกฤษ ที่เมื่อใส่ชุดสูทพวกเขาก็จะถือร่มติดมือไปด้วยเสมอ ตามรูปแบบการแต่งตัวของ Jonas Hanway บุรุษในยุคนั้นยังเรียกการแต่งตัวสไตล์นี้ว่า Hanway
1
ด้วยเหตุนี้ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ร่มยังกลายเป็นเครื่องประดับแฟชั่น ที่ช่างฝีมือหลายคนจดจ่อกับการสร้างงานศิลปะผ่านการขัดเกลาและแกะสลักอ้อยจากวัสดุอันทรงเกียรติอย่างไม้มะเกลือ วัสดุเหล่านี้มีราคาแพงมาก
A painting of Chancellor Pierre Séguier with a parasol hoisted above his head, by Charles Le Brun, 1670
ดังนั้นในศตวรรษที่ 19 ร่มจึงกลายเป็นสิ่งที่ชวนดึงดูดความสนใจของผู้คน เวลานั้นร่มถูกเพิ่มเติมเอกลักษณ์พิเศษ (สิ่งประดิษฐ์) เพื่อป้องกันการถูกขโมย เช่น กุญแจล็อคในตัว ไซเรน/สัญญาณเตือนภัย
แม้กระทั่งเพิ่มที่ซ่อนอาวุธ ติดตั้งไฟ นาฬิกา ที่เก็บน้ำหอม รวมถึงที่เก็บอุปกรณ์สำหรับสูบบุหรี่และสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกมากมาย ในยุคนั้นร่มกลายเป็นเครื่องประดับมัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคนในยุคนั้น
ร่มยุโรปรุ่นแรกมีโครงสร้างคล้ายกระดูกวาฬ แม้ว่าวัสดุที่ใช้จะมีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่โครงสร้างพื้นฐานของร่มก็ยังคงได้รับความสำคัญ จากนั้นโครงสร้างกระดูกวาฬก็ถูกแทนที่ด้วยไม้ เหล็ก ต่อด้วยอะลูมิเนียม และตอนนี้คือไฟเบอร์กลาส ส่วนผ้าใบผ้าน้ำมันยังถูกแทนที่ด้วยไนลอนชนิดที่ทนทานมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ร่มไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ฝน หรือแสงแดดหมดไป แต่สร้างขึ้นเพื่อให้เราสามารถเดินต่อไปได้…ทามกลางแสงแดดและสายฝน”
Jonas Hanway, by James Northcote (died 1831). See source website for additional information. This set of images was gathered by User:Dcoetzee from the National Portrait Gallery, London website using a special tool. All images in this batch have been confirmed as author died before 1939 according to the official death date listed by the NPG.
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
โฆษณา