13 ต.ค. 2022 เวลา 11:09
Blog ที่ 99 (06/10/22) ฟังเนื้อหาจาก blog ที่ 98 และนำมา เขียนเรียบเรียงใหม่ (เพิ่ม/ลด/ปรับเนื้อหาได้ตามสมควร)
ใช้เวลา 15 นาที
สวัสดีค่ะเราชื่อ นางสาวพรนิภา เตยหอม ชื่อเล่นแตงกวา ตอนนี้ปีสองแล้วค่ะ รหัสนิสิต 64522584 กำลังศึกษาคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ สาขาชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุล มหาวิทยาลัยนเรศวร
เราเป็นคนที่ดูเหมือนเงียบๆ นิ่งๆ ไม่อะไรกับใคร แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เราเป็นตัวโจ๊กของกลุ่มเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยความที่สนิทกันแล้วเราจะกล้าเล่นมุกแป๊กๆ ชวนคุย พูดนี่นั่น แต่ถ้าไม่สนิทเราจะเงียบ ไม่ถาม ไม่ชวนคุย แต่ถ้าอีกฝ่ายถามก็จะตอบ แต่จะตอบสั้นๆ ไม่ชวนคุยอะไรต่อ
เราเป็นคนที่ไม่ใช่ อินโทเวิร์ด และก็เอ็กโทรเวิร์ด แต่น่าจะเป็นประเภทชอบขัดแย้งกะตัวเองมากกว่า เป็นคนที่ชอบนอนบ้าง อยู่คนเดียวบ้าง แต่ก็ไม่เสมอไป บางครั้งก็ไม่ได้อยากอยู่คนเดียว อยากเที่ยว ชอบสังสรรค์ มันแล้วแต่อารมณ์เลย เดาใจตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน
เป็นคนที่คิดมาก ชอบเอาเรื่องเล็กเรื่องน้อยมาคิดให้ปวดหัว ให้เครียด แล้วก็ซึม เศร้า ร้องไห้ตามสเต็ปเลย เราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเลย กลัวไปหมดทุกอย่าง ไม่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆเลย ไม่กล้าที่จะแสดงออก เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำผิดพลาด แล้วพากลุ่มตัวเองเสียไปด้วย เลยชอบที่จะทำงานเดี่ยวมากกว่างานกลุ่ม
และเราเป็นคนที่รู้สึกว่าถ้าเราโดนเทคแคร์ เราจะต้องเทคแคร์เค้าคืน ถ้าใครให้อะไรเรามาเราก็จะให้ตอบแทนตลอด เช่น เวลาถึงวันเกิดเราแล้วเพื่อนซื้อเค้กเซอร์ไพรส์ หรือซื้อของขวัญวันเกิดให้เรา พอถึงวันเกิดเพื่อนตัวเราก็จะซื้อเค้กเซอร์ไพรส์และซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อน อะไรประมาณนี้
ในส่วนของการเรียนเราชอบที่จะทีเล่นทีจริงไปวันๆ พอใกล้สอบก็มาฮึดทีเดียว สรุปเป็นไงเกรดก็เลยไม่สวย แต่ถามว่าเข็ดไม่ก็ไม่อะ เราเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตแบบบาลานซ์ เรารู้สึกว่าการศึกษามันไม่ควรมาทำให้เราเครียด ให้เราร้องไห้ อะไรขนาดนี้ ถามว่าเราควรต้องจริงจังกับการเรียนมั้ย มันก็ต้องจริงจัง แต่ไม่ใช่จริงจังตลอดเวลา
เราต้องหาความสุขให้ตัวเองบ้าง เรียนคือเรียน เล่นคือเล่น เที่ยวคือเที่ยว เราบริหารเวลาชีวิตให้กับตัวเองได้ เราถือว่าชีวิตวัยรุ่นมีแค่ครั้งเดียวเราต้องสนุกและมีความสุขกับมันให้เต็มที่ อย่าเอาสุขภาพจิตกับกายของเราไปแลกกับการศึกษาให้มาก เพราะถ้าสุขภาพจิตกับกายเราเสียใครจะมารับผิดชอบ เอาแค่ที่มันพอดีกับชีวิตพอเราถือคติกับตัวเองแบบนี้
ถ้าถามว่าอยากทำอะไรในอนาคตก็คงอยากทำงานที่ดี ที่เหมาะกับตัวเอง และเงินเดือนก็ต้องไม่สวนทางกับค่าครองชีพด้วย อยากทำงานใกล้บ้าน อยู่บ้านเลี้ยงแมวสบายใจ ไม่ต้องเสียค่าหอ ค่าเดินทาง ค่าครองชีพในจังหวัดที่แพง เช่น กรุงเทพ ชลบุรี ระยอง
อย่างที่คิดๆไว้ตอนนี้เรียนจบก็จะไปสมัครเป็นตัวแทนขายเครื่องมือแพทย์ แรกๆก็คงจะต้องฝึกหนักหน่อยเพราะเราไม่ค่อยกล้าคุยกับคนแปลกหน้า แต่มันเป็นการเพิ่มความมีเสน่ห์ให้ตัวเองด้วย ถ้าเป็นคนที่คุยสนุก คุยแล้วสบายใจ ก็มีแต่คนชอบเรา อยากคุยกับเรา ทำให้เรามีคอนเนคชั่นที่ดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย
เนี่ยถ้าเราต้องเป็นตัวแทนขายเครื่องมือแพทย์ เราจะต้องเข้าใจอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นอย่างดี ให้บริการและดูแลลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเดิม รวมไปถึงจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นตามที่บริษัทตั้งไว้
แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นตัวแทนขายเครื่องมือแพทย์ เราก็จะอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ ก.พ. เพื่อไปสอบเป็นนักวิทยาศาตร์การแพทย์(ชีวเคมี) ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำงานในห้องปฏิบัติการภายในโรงพยาบาล ศูนย์/สถาบันวิจัย เพื่อศึกษาค้นคว้าและวิจัย ในการหาสาเหตุ การป้องกัน และการรักษาโรคต่างๆ เช่น การทำงานเกี่ยวกับการตัดชิ้นเนื้อเยื่อ การผลิตวัคซีน งานวิจัยทางแพทย์ เป็นต้น
หรือห้องปฏิบัติการภายในโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ยาและสารเคมีเพื่อตรวจสอบคุณภาพและปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์
แต่ถ้าเราเป็นคนที่เก่งมากและขยันกว่าทุกวันนี้เราจะเก็บเงินไปสอบ IELTS ให้ได้คะแนนที่สูง แล้วขอยื่นทุนเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ แล้วกลับมาสมัครงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการโรงงานอุตสาหกรรมประเทศไทยที่เป็นบริษัทของชาวต่างชาติ เพื่อยกระดับฐานเงินเดือนของตัวเองให้สูงขึ้นกว่าเดิมเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
โฆษณา