13 ต.ค. 2022 เวลา 15:14
DAY 99 (06-10-2022) : ฟังเนื้อหาจาก blog ที่ 98 และนำมาเขียนเรียบเรียงใหม่ (เพิ่ม/ลด/ปรับเนื้อหาได้ตามสมควร)
สวัสดีค่ะ เราชื่อนางสาวอรวรรณ ริดจันทร์ ชื่อเล่นน้ำฝน อายุ 20 ปี เรียนคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ สาขาชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุล ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร เราเป็นคนจังหวัดตาก เรามาเรียนคณะนี้ได้เพราะไม่ติดคณะที่หวังไว้ แต่คณะที่เรียนอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแย่ เพราะเรามีเพื่อน มีสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้เราความสุขกับมันได้ไม่ต่างจากคณะที่เราฝันไว้ตั้งแต่แรก
เราคิดว่าตัวเองเป็นคนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เรามีเป้าหมายในการต้องทำอะไรสักอย่างทุกครั้ง แต่เราเป็นคนปล่อยวางได้ง่าย มูฟออนเร็ว ไม่จมปลักหรือกดดันตัวเองถ้าผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้อย่างที่คาดหวังไว้ เพราะทุกอย่างที่เราทำเราทำลงไปด้วยความตั้งใจทั้งหมดที่มีแล้ว
เราเป็นคนไม่ค่อยพูด หรือรู้สึกไม่สบายใจถ้าต้องคุยหรืออยู่กับคนที่ไม่รู้จัก เราจะกล้าพูดกล้าแสดงออกกับคนที่เราสนิทเท่านั้น แต่การต้องมาอยู่คนเดียวตอนเรียนมหาลัยเลยทำให้เราต้องพยายามพูดหรือเข้าหาคนใหม่ ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ โชคดีมาก ๆ ที่เราได้เจอเพื่อนที่ดี ที่ทำให้เรามีความกล้าและได้ลองทำอะไรนอกกรอบของตัวเอง
เรามีคอมฟอร์ตโซนเป็นครอบครัวของตัวเอง ที่ไม่ว่าจะคุยกันกี่ครั้งเราก็รู้สึกได้ถึงความรัก ความห่วงใย และกำลังใจที่ส่งมา และเราก็มีเซฟโซนเป็นตัวของเราที่อยู่ในห้องคนเดียว ทำอะไรสักอย่างที่เราชอบ และมีความสุข เราค่อนข้างที่จะชอบอยู่กับตัวเอง เพราะชอบความเงียบและบรรยากาศที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเอง เราชอบเวลากลางคืนเพราะชอบกลิ่นหรือบรรยากาศตอนนั้น
เรารักครอบครัวมาก เพราะทุกคนรักและให้กำลังใจเราเสมอ เรารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้คุยหรือแสดงความรักกัน เพราะทุกคนรักเราเราถึงรักตัวเองมากเช่นเดียวกัน เราเชื่อว่าถ้าครอบครัวเป็นพื้นที่สบายใจของเราได้ การทำอะไรให้ครอบครัวก็จะเป็นเรื่องที่เราสบายใจที่จะทำ เพราะทุกคนไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าจะต้องทดแทนบุณคุณ
เราชอบโทรไปหาพ่อกับแม่เวลาที่เรามีสอบเพราะท่านจะรู้โดยทันทีว่าเราอยากได้กำลังใจ หรือคำอวยพร เพราะมันทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ และมีความหวัง เรามีพี่สาว 1 คน ที่สนิทกันมาก สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ถ้าเราเริ่มหายไปนาน ๆ ไม่ได้คุยกัน พี่สาวจะถามถึงสาเหตุด้วยความเป็นห่วงเสมอ พี่สาวจะบอกเราเสมอว่าให้ใช้ชีวิตให้เต็มที่เพราะเราอายุเท่านี้ ได้เจอสภาพแวดล้อมแบบนี้แค่ครั้งเดียวในชีวิต จะได้ไม่รู้สึกเสียใจหรือเสียดายในอนาคตถ้าไม่ได้ทำ
เราไม่ได้ศรัทธาหรือมีอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะเราเชื่อว่าตัวเราเองนี่แหละที่เป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง เราทำให้ทุกอย่างที่เราอยากได้ ทุกอย่างที่เราหวังเกิดขึ้นได้ด้วยตัวของเราเอง
จากบล็อกที่ 97 ยกตัวอย่างเรื่องหนังสือ/บทความ/ภาพยนตร์/คลาส ที่เปลี่ยนมุมมองต่อโลกของนิสิตมาที่สุดมาหนึ่งอัน สรุปว่าเกี่ยวกับอะไรเปลี่ยนมุมมองเราไปในแง่ไหน เราเลือกบทสัมภาษณ์ LAZ1 จาก ออล แม็กกาซีน เพราะเป็นกลุ่มศิลปินที่เราชอบเป็นพิเศษในช่วงนี้ เราชอบวิธีการคิด และการกระทำ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าการเชื่อมั่นในความพยายามและการกระทำของตัวเองผลลัพธ์ที่ได้มันไม่เคยสูญเปล่า ถึงจะผิดหวังหรือสมหวังยังไงสิ่งนี้ก็ทำให้เรารู้ว่าตัวเองมีความพยายามและรักตัวเองมากแค่ไหน
ตอนนี้เราเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เรามองอนาคตที่ใกล้เข้ามาของตัวเองคือการฝึกงาน เราอยากจะไปฝึกงานที่ Biotec สวทช. หรือถ้าเป็นไปได้เราก็อยากจะได้เข้าทำงานที่นี่ด้วย เพราะว่าลักษณะงานที่มีค่อนข้างจะตรงกับส่วนที่เราชอบ และคิดว่าตัวเองจะทำได้ดี
ส่วนในอนาคตถ้าเป็นไปได้และเราก็คาดหวังให้เป็นจริงได้ เราอยากจะเรียนเรียนต่อปริญญาโทชีวการออกแบบทางการแพทย์ (Biodesign in Medicine) มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นการเรียนด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และอีกอย่างที่เราหวังไว้คือการเรียนต่อปริญญาโทเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่เราเรียนมาในต่างประเทศ
แต่สุดท้ายแล้วเราก็คงต้องเลือกทำสิ่งที่เราชอบ เราสบายใจ และมีความสุขกับมันได้ตลอดไป เพราะชีวิตนี้เป็นของเรา สิ่งที่ดีที่สุดคือสิ่งที่เราได้เลือกมันได้ด้วยตัวเอง เราคาดหวังได้เพราะเราทุกคนล้วนใช้ความหวังในการดำเนินชีวิต แต่อย่างน้อยการที่เราได้ทำสิ่งที่อยากทำไปอย่างเต็มที่แล้ว ถึงจะไม่สมหวังบ้าง แต่ก็นับได้ว่าเราสมหวังไปบางส่วนแล้ว ดีกว่าที่เราไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย
โฆษณา