13 ต.ค. 2022 เวลา 20:22 • ความคิดเห็น
จริงๆตอนนี้ในโลกนี้มันมียาตัวนี้อยู่แล้วค่ะ​
ไม่แน่ใจคำตอบจะโดนแบนไหม​ 5555
แต่จะตอบให้เป็นความรู้ค่ะ
นักวิทยาศาสตร์​คิดค้นได้มาหลายสิบปีตั้งแต่ก่อนสงครามเวียดนามอีกค่ะ​ แต่มันโดนจัดให้อยู่ในหมวดยาเสพติด​ ยาตัวนี้มีชื่อว่า​ Ecstacy หรือในไทยเรียกว่า​ "ยา​อี" มีฤทธิ์​กระตุ้นประสาท​ที่ทำให้รู้สึกมีความสุขอยากเต้น​ รักทุกคนที่อยู่รอบข้าง​ รักตัวเอง​ รักไปหมดทุกคนแล้วยาตัวนี้ระงับความคิดด้านลบ​ ไม่มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย​ ช่างแม่งทุกอย่าง​ ไม่มีความคิดว่าเรื่องร้ายๆคือสิ่งเลวร้าย​ เพราะยาตัวนี้ไปกระตุ้นสารแห่งความสุขในสมองที่ชื่อเซโรโทนินให้ทำงานตลอดเวลาจนกว่าฤทธิ์​ยาจะหมด​
ข้อเสียคือ​ เมื่อร่างกายคุ้นชินกับสิ่งที่รับเข้ามาร่างกายก็จะเลิกผลิตสารนั้นเสียเอง ยาตัวนี้หากใช้ในปริมาณ​มากๆทุกวันก็มีฤทธิ์​ทำให้ปลายประสาทหรือส่วนที่ผลิตสารนี้ฝ่อลงหรือทำลายระบบส่วนนี้ได้​ เพราะร่างกายชินกับการรับเข้ามาเรื่องอะไรจะผลิตขึ้นเอง​ ดังนั้นมันเหมือนการบาลานซ์​เมื่อเรามีความสุขตลอดเวลาภายใต้ฤทธิ์​ยา​ สารในสมองจะลดลงเหลือปริมาณ​ปกติ​ หรือน้อยลงหากใช้เยอะเกินไป​
ผลก็คือความรู้สึกดิ่งลงกว่าเดิมหลังเลิกใช้ยาค่ะ​ ผู้เสพใหม่ๆจะไม่ค่อยรู้สึก​ แต่ผู้เสพบ่อยๆหลังๆเวลาฤทธิ์​ยาหมดจะดิ่งลงง่ายมากค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความยับยั้งชั่งใจของแต่ละคนว่าจะยอมรับความไม่มีความสุขเพื่อแลกกับความสุขภายใต้ฤทธิ์​ยาไปแล้วหรือไม่
เพราะไม่มีอะไรได้มาฟรีๆค่ะ​ มันคือกฎการบาลานซ์​ของโลกใบนี้
ช่วงที่ยานี้ถูกกฏหมาย​ คนหลายๆกลุ่มนำไปใช้ทางที่ผิด คือนำไปปาร์ตี้ทุกวัน​ จนเกิดการเสพติด​ หรือจริงๆแล้วติดทางใจมากกว่า​ เพราะทำให้ร่าฃกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า​อยากเต้น​ มีความสุข​ เห็นสีสันสวยงาม​ ไม่ค่อยหิวน้ำแต่ร่างกายจะขาดน้ำมาก​เพราะยาตัวนี้ดูดน้ำในร่างกายหมด​
หลังจากนั้นผู้คนเริ่มมีความสุขเพรราะยาตัวนี้ทุกวัน​ ผู้คนเริ่มหยุดงานและเสพยาตัวนี้​ ผู้คนเลิกทะเลาะกัน​และช่วงนั้นเกิดยุคฮิปปี้​ก็เพราะยาตัวนี้​ ทหารไม่ไปทำสงครามช่วงนั้นยุคสงครามเวียดนามพอดี​ ผู้คนประท้วงไม่เอาสงครามเพราะยาตัวนี้สั่งให้ทุกคนรักกัน
สรุปว่าบ้านเมืองเงียบหรือเละเฟะก็ไม่รู้​ คนหยุดทำงาน​ หยุดมีแรงบรรดาลใจ​หยุดทะเลาะกันเพราะยาตัวนี้ทำให้ทุกคนมีความสุขจนรัฐบาลไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศชาติได้
ยาตัวนี้เลยไปลงเอยที่
"หมวดหมู่ยาเสพติด" ค่ะ
สามารถหาข้อมูลเพิ่ทเติมได้ใน Netflix นะคะ
เป็นสารคดีและบทสัมภาษณ์​นักวิทยาศาสตร์​และยุคสมัยที่เกิดยาตัวนี้ค่ะ
อย่าลืมว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ​ อะไรที่ได้ไปแล้วก็ต้องมีอะไรมาแลก​ การมีความทุกข์​ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ได้รับความสุขมาเลย บางทีเราจดจ่อกับความทุกข์​มากเกินไปเลยมองไม่เห็นความสุขนะคะ​ กฎการบาลานซ์​ของจักรวาลนี้ไม่เคยลำเอียงอยู่แล้วค่ะ
โชคดีค่ะ
🙏😇
โฆษณา