14 ต.ค. 2022 เวลา 05:16 • ปรัชญา
สิ่งที่น่ากลัวของโลกมนุษย์ ในยุคที่กาลเวลา เดินเลยมาถึงกึ่งกลางพุทธศาสนา จิตที่บุญกุศลบารมีลงมาเกิด เพราะเค้ารู้ว่า ควรจะมาเกิดในช่วงไหน ที่มีพ่อแม่ มีบุญกุศลบารมี เพราะการเกิดแต่ละครั้ง มันต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ ..เรียนรู้จัก การใช้กายวาจาใจกันใหม่ กรรมที่เคยสะสมมาก็มารองรับจิต..ให้ชำระสะสางกรรม..ของตน ด้วยคำว่าสร้างบุญกุศลบารมี เพื่อจะกลับสู่ที่เก่า หรือให้สูงขึ้นไปกว่าเดิม หากผิดพลาด เผลอใจเผลอสติ ทำตามอารมณ์โลภโกรธหลง ไม่ได้ลดละอะไรเลย สิ่งนั้นก็จะนำพาจิตไปสู่คำว่าอบายภูมิ..
1
โลกอนาคต เทคโนโลยีอะไรดี ก้าวหน้าดี ..แต่นั่นก็มีกลุ่มบุคคลคณะหนึ่ง..ที่รวบรวมความรู้ รวบรวมทรัพย์สินทรัพยากร รวบไว้มีการผูกขาด ..ต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้ ..เมื่อร่ำรวย ก็บริวาร มีผู้บริหาร มี…มากมาย มีดอกเบี้ย ..แค่เอาดอกเบี้ย ไปกว้านซื้อทรัพย์สิน เสาะแสวงหาหากำไร จากผู้ที่ใช้บริการ ที่ล้วนเหน็ดเหนื่อย อยากลำบาก..กว่าจะได้ปัจจัยมาจุนเจือ
1
นี่แหละ..เค้าว่า โลกเค้าเจริญ ..ให้อะไรมากมาย ให้ความรู้เอามาแย่งชิง ชกชิง ทำร้าย ทำลายมนุษย์ด้วยกัยเอง สร้างอาวุธอานภาพสูงๆ ทำลายกันเอง ผิดกับคนป่าคนเถื่อนที่เอาไม้มาตีดันตายได้ครั้งละคนสองคน
1
เราเลยไม่รู้ว่าใครมันโหดร้ายกว่ากัน ความป่าเถื่อนมันอยู่ในส่วนไหนของจิตใจมนุษย์ มนุษย์ยุคนี้เหมือนดี แต่ก็ไม่ได้ไปไหนเลย ที่เค้า บอกว่า จิตของคนยุคนี้ ขึ้นมาจากอบายภูมิกันมาก อยู่กับทุกข์มานาน ..ก็หลงระเริงความสุขที่โลกปรนเปรอให้ คนมีความรู้คนเก่งมากมาย ก็ตกนรก ..ยุคนี้เค้าก็เอาคนเก่ง เก่งที่สร้างกรรม ให้มาเกิด..จะได้สร้างเรื่องราวให้คนหลงมากมาย ทั้งที่ชีวิตนี้ก็มาเพียงแค่อาศัย ไม่เกินแปดสิบปีร้อยปี ก็หาจนไม่ลืมนึกว่า วันหนึ่งต้องตาย อะไรก็กองไว้ในโลก เรือนกายกต้องเน่าเปื่อยทิ้งไว้ในโลก
1
เค้าบอกว่า..ต่อไป..มนุษย์ก็จะไม่รู้จักคำว่า พ่อแม่ผู้ที่ให้กำเนิด ..ไม่รู้จักคำว่า พระคุณ สิ่งที่ดีๆ ความเห็นอกเห็นใจกันก็จะไม่มี มีแต่แก่งแย่ง ธาตุดิน ธาตน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม จะไม่ปกติ ดินฟ้าอากาศวิปริตผิดปกติรุนแรงขึ้น การหักล้างทำลายกันก็มากขึ้น ..เลยไม่รู้ว่า อะไรจะมาแทนที่ ก็มันเป็นเรื่องของจิตที่มารับรู้ ทุกข์สุขของโลก ถ้าไม่มาอาศัยกายที่เป็นทุกข์ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็คงไม่ต้องมาทุกข์อะไรอีก ไม่มีอะไรมาแทน นอกจากคำว่าทุกข์ของสัตว์โลกทั้งนั้น
1
เรื่องโลกร้อน ..มีผู้เล่าให้ฟังว่า ที่โลกมันร้อน ก็เพราะ มนุษย์นั้นใช้แต่อารมณ์กันมาก ไม่เคยหยุดยั้ง ใช้ด้วยความโลภโกรธหลง มีทิฐิยึดถืออารมณ์กันมากมาย .แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น อารมณ์ที่เราใช้อยู่ มันก็เป็นไฟ แผดเผาธาตุในเรือนกาย ที่เค้าเรียกว่า อนุธาตุน้อยๆ ในกาย ..ก็ลอยขึ้นสูอากาศ ในคำว่ามหาธาตุ
..ดินฟ้าอากาศ ก็เลยวิปริต ทวีให้โลกร้อน ..ร้อนด้วยเวรกรรม ที่คนเราร่วมกันใช้ ..ต่างคนต่างใช้อารมณ์ ..มันก็เลย ความร้อนมันก็แผดกระจายไปทั่วโลก ..หาความสุข ความสงบ ในมวลหมู่มนุษย์ ไม่ค่อยได้ ..แล้วสิ่งหนึ่ง ..ก็อาจเกิดขึ้น ..เหมือนตอนจบในมหาภารตะยุทธ อรชุนต้องแผลงศร ..เพื่อให้ชนรุ่นหลัง..เกิดมาใหม่ มาสร้างอารยธรรมดีๆกันใหม่ ..จิตที่ดีๆ..จะได้เกิดมาสร้างบุญกุศลบารมีกันต่อไป ..นั้นก็เหมือนเรื่องดินฟ้าอากาศบันดาล ให้เป็นไปตามยุคสมัย ..
โฆษณา