14 ต.ค. 2022 เวลา 15:28 • สุขภาพ
4 ปัจจัยที่ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อประกันชีวิต
การเลือกซื้อประกันชีวิตแต่ละครั้ง จำเป็นที่จะต้องพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถเลือกซื้อแบบประกันได้ตรงกับแผนการเงินของตัวเอง บทความนี้จะขอแชร์ 4 ปัจจัยที่ควรพิจารณาหากต้องเลือกซื้อประกันชีวิตซักฉบับครับ
1.จุดประสงค์ในการทำประกัน
ประกันชีวิตมีหลายประเภท แต่ละประเภทให้ความคุ้มครองชีวิตเหมือนกัน แต่มีจุดประสงค์บางเรื่องแตกต่างกัน เช่น ประกันออมทรัพย์ เน้นการออมสร้างผลตอบแทน แต่มีระยะเวลาคุ้มครองจำกัด ในขณะที่ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ จะให้ระยะเวลาความคุ้มครองชีวิตยาวนาน แต่ผู้เอาประกันจะไม่ได้รับเงินคืนถ้าไม่มีการเวนคืนกรมธรรม์ เป็นต้น ดังนั้นก่อนเลือกซื้อประกันควรพิจารณาจุดประสงค์ในการทำประกันก่อน
2.พิจารณาทุนประกัน
เนื่องจากประกันชีวิตให้ความคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต โดยมีผู้รับผลประโยชน์เป็นผู้รับเงินประกัน ดังนั้นผู้เอาประกันควรพิจารณาด้วยว่าควรทำประกันในวงเงินเท่าไหร่
หลักการพิจารณาอาจประเมินจากภาระหนี้สินของตัวเอง, ค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อเอามาสรุปเป็นวงเงินประกันที่ต้องการ
เช่น
หนี้บ้าน 3,000,000 บาท
หนี้รถ 500,000 บาท
ค่าใช้จ่ายในครอบครัว 20,000 บาท/เดือน = 240,000 บาท/ปี
ค่าเรียนลูก 100,000 บาท/ปี รวม 10 ปี = 1,000,000 บาท/ปี
เงินเผื่อสำหรับเป็นทุนให้ครอบครัว 1,000,000 บาท
สรุป วงเงินประกันที่ต้องการ = 5,740,000 บาท
3.เบี้ยประกัน ระยะเวลาจ่ายเบี้ยสภาพคล่อง
การทำประกันชีวิต มีภาระผูกพันที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยให้บริษัทประกันตามระยะเวลาที่แบบประกันนั้นกำหนด (เช่น จ่ายเบี้ย 20 ปี) ดังนั้นควรพิจารณาเบี้ยประกันให้เหมาะสมกับการบริหารสภาพคล่องของตัวเอง ไม่ให้ตึงจนเกินไปจนกระแสเงินสดขาดมือ ซึ่งมีโอกาสทำให้ไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันในปีถัดๆไปได้
ถ้าผู้เอาประกันเน้นความคุ้มครองชีวิต อาจเลือกทำประกันชีวิตตลอดชีพหรือแบบชั่วระยะเวลาแทน เพราะที่วงเงินความคุ้มครองเท่ากัน ประกันทั้ง 2 แบบจะมีเบี้ยประกันต่ำกว่าประกันออมทรัพย์
จากตัวอย่างในข้อ 2. ตีกลมๆว่าควรทำประกันชีวิตวงเงินคุ้มครอง 6 ล้านบาท ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า 6 ล้านบาท จำเป็นต้องคุ้มครองตลอดชีพหรือไม่? เช่น หนี้รถ ค่าเล่าเรียนลูก ถ้าประเมินว่าน่าจะจ่ายหมดภายในเวลา 10 ปี ส่วนนี้ถ้าทำประกันชั่วระยะเวลาให้คุ้มครองแค่ 10 ปี ก็เพียงพอแล้ว
ส่วนหนี้บ้านอาจจะต้องใช้เวลาถึง 30 ปี หรือมากกว่านั้น ก็อาจพิจารณาทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพสำหรับภาระหนี้ก้อนนี้ เป็นต้นครับ
4. อายุและประวัติสุขภาพ
ผู้เอาประกันที่อายุยังน้อยและไม่มีประวัติสุขภาพมาก่อน เบี้ยประกันชีวิตจะอยู่ในอัตราปกติ เบี้ยประกันชีวิตจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น และถ้ามีประวัติสุขภาพบางรายการ ก็อาจมีโอกาสที่บริษัทประกันจะไม่รับประกัน หรือรับประกันแบบมีเงื่อนไข หรือรับประกันแต่เพิ่มเบี้ยประกัน
และทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกทำประกันชีวิต หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกแบบประกันให้ตรงกับแผนการเงินของทุกๆคนครับ
โฆษณา