14 ต.ค. 2022 เวลา 22:24 • กีฬา
#DriversHigh "การขับดันจิตวิญญาณซ้ำสอง"
: บอสให้สัมภาษณ์ถึงนักเตะ และความพร้อมก่อนเกมเจอทูนอาร์มี่
😈 มาร์กซิยาลอาจลงเจอนิวคาสเซิลทัน แต่ต้องรอดูความพร้อมขั้นสุดท้าย
😈 แรชฟอร์ดเล่นดีแล้วในเกมเจอโอโมเนีย แต่การยิงให้ได้ก็จำเป็นด้วย
😈 ศักยภาพแอนโทนี่ยังมีอีกเยอะ ความท้าทายทำให้เขารีดฟอร์มเก่งได้
😈 แมกไกวร์ยังไม่พร้อม แต่น่าจะได้เริ่มกลับมาซ้อมอาทิตย์หน้า
-----------------------------------
"ผมมั่นใจว่าแมนยูจะมีคนที่ยิงได้มากกว่า20ลูกอยู่แน่นอน ในทีมของผมมีนักเตะหลายคนที่เป็นตัวยิง พวกเขาจะเข้าไปในตำแหน่งยิง และส่วนสุดท้ายของมันก็ขึ้นอยู่กับการสร้างสรรค์ของตัวนักเตะเอง"
"ผมไปทีละเกมต่อเกมเสมอ และคิดว่ามันช่วยสร้างแรงผลักดันให้ทีมมีความเชื่อมั่น สปิริตของพวกเขามันดีอยู่แล้ว แต่ผมจะสร้างแรงขับให้กับสปิริตดังกล่าวซ้ำเข้าไปอีกครั้ง และมันจะสร้างความเชื่อมั่นขึ้นในทีม"
"กับนิวคาสเซิล ทีมพวกเขาเล่นกันได้ดีมากนะ ผมคิดว่าพวกเขาสามารถเล่นเกมที่ใช้ระดับความเข้มข้นในการเล่นสูงมากๆได้ ด้วยการที่ต้องใช้พลังงานมหาศาล นั่นทำให้คู่แข่งลำบากแน่นอน และเราก็รู้ดีว่าเราต้องเล่นอย่างสุดความสามารถเท่านั้นถึงจะเก็บผลการแข่งขันจากพวกเขาได้"
"มาร์คัสทำหลายอย่างได้ดีเลยนะในเกมเจอโอโมเนีย แต่เขาก็รู้ดีว่า เขาจำเป็นที่จะต้องเฉียบขาดกว่านี้แล้วต้องยิงให้ได้ เพราะถ้าคุณเคลื่อนที่ได้ดีเยี่ยม มีการเล่นผสานกันที่ดี ทำทุกอย่างได้ดีแล้ว คุณก็ต้องจบมันให้ได้"
"อ็องโตนี่ มาร์กซิยาลอาจจะฟิตทันเจอนิวคาสเซิลได้ แต่เราจะต้องรอดูก่อนว่ามันจะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนในช่วงก่อนเกม ส่วนแฮรี่ แมกไกวร์คงยังไม่ทัน แต่ก็อีกไม่นานแล้วผมว่า อาทิตย์หน้าก็กลับมาซ้อมกับทีมได้แล้วมั้ง ไม่ก็อาทิตย์ต่อไป"
"ส่วนแอนโทนี่ น่าจะเป็นเรื่องของพัฒนาการที่จะตามมา ผมคิดว่าเราได้เห็นบางส่วนของความสามารถในการเลี้ยง สปีดของเขา การจบสกอร์ การปั้นเกมกันแล้ว แต่เขาก็ต้องฝึกฝนทำงานให้หลากหลายมากกว่าเดิมด้วย"
"เขาเป็นคนที่ปรับตัวได้เร็วมากๆในระดับสูง แล้วก็เป็นผู้เล่นที่รักความท้าทาย เขาชอบความท้าทาย ทุกๆการฝึกซ้อมคือเกมท้าดวลสำหรับเขา ทุกๆแมตช์คือการท้าชิงชัยต่อหน้าเขา นั่นแหละมันทำให้เขาเรียกฟอร์มออกมาได้อย่างเต็มที่ แล้วเขาก็ชอบมากด้วย"
"ถึงกระนั้นผมก็คิดว่ายังมีอะไรให้เขาพัฒนาไปได้มากกว่านี้อีกเยอะมาก แต่ตอนนี้เขาก็อยู่ในระดับที่ดีมากๆแล้วนะ เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์แมนยูที่ยิงได้สามนัดติดจากเกมเดบิวต์ มันชี้ให้เห็นศักยภาพในตัวเขาแล้ว"
------------------------------------
ทั้งหมดด้านบนนี้คือเพรสคอนฯบางส่วนของเอริค เทน ฮาก ในคืนหมาหอน ซึ่งทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่างเยอะพอควร โดยเฉพาะที่เขาพอใจกับลูกทีม และชื่นชมอย่างมาก แต่ก็ยังคงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทีมอยู่
รวมทั้งยังพูดถึงนิวคาสเซิล คู่แข่งทีมต่อไปด้วย
ถ้ายังจำกันได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาครั้งแรกก็เป็นเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เปิดบ้านเจอกับทีมผู้โชคร้ายในตอนนั้นอย่างนิวคาสเซิล โดนไป 4-1 อิ่มหมีพีมัน พี่โด้เบิ้ลไปสองเม็ด
แต่ตอนนี้ นิวคาสเซิลทีมนั้นต่างออกไปแล้วอย่างสิ้นเชิง พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นจากทั้งเงินทุนเสริมทีมไม่อั้น แต่ใช้อย่างคุ้มค่าเท่าที่จำเป็น เสริมทีมได้ดีและถูกจุด(เหมือนที่เราทำในปีนี้ แต่เราใช้เงินหนักกว่าเยอะมาก)
บรูโน่ กิมาไรส์ และ คีแรน ทริปเปียร์ คือสองสุดยอดนักเตะที่เข้ามาพลิกโฉมให้นิวคาสเซิล ยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องรวมโกลเทพอย่าง นิค โป๊ป, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์, สเวน บอทมัน
เมื่อเอาไปรวมตัวเก่าที่ดีๆอยู่แล้วอย่าง อัลแลง แซ็งต์-แม็กซิแมง, มิเกล อัลมิรอน, คัลลั่ม วิลสัน, ฟาเบียง แชร์ ฯลฯ
นิวคาสเซิลชุดนี้โคตรรรรรแน่น
ข่าวล่าสุดเบื้องต้นที่พอจะรู้ก็คือ สองนักเตะที่น่าจะไม่ได้ลงสนามเจอกับเราที่โอลด์แทรฟฟอร์ดแน่ๆ คนแรกคือ "ไอ้โจ้" จอนโจ้ เชลวีย์ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในสถานะตัวจริงของทีมแล้ว เมื่อบรูโน่ กิมาไรส์ มาคุมเกมแดนกลางเป็นหัวใจสำคัญแทนเขาแล้ว
อีกคนคืออเล็กซานเดอร์ อิซัค ซึ่งก็ไม่กระทบกระเทือนอะไรมาก เพราะตัวที่คุ้นเคยกับพรีเมียร์ลีกและแมนยูดีมากๆอย่าง คัลลั่ม วิลสัน ก็พร้อมลงสนามเช่นกัน
แถมตัวรุกริมเส้นสลับสับเปลี่ยนกันหลายตัว ไม่ได้มีแค่แม็กซิแมงตัวเดียวแล้ว แล้วแต่ละตัวเคลื่อนที่กันดีๆโหดๆทั้งนั้น
มีทางเดียวคือ นิวคาสเซิลแรงกว่าเดิมสองเท่า เราต้องใส่แดงไปให้แรงสามเท่าถึงจะเอาทีมชุดขาวดำทีมนี้อยู่
พูดง่ายๆคือ มาตรฐานระดับที่เล่นกับลิเวอร์พูล กับ อาร์เซนอล จะต้องถูกขุดขึ้นมาใช้ในนัดนี้ และในทุกๆนัดของพรีเมียร์ลีกให้ได้
นั่นคือสิ่งที่เอริค เทน ฮาก พูดเอาไว้เป๊ะๆว่า สิ่งที่เขาต้องทำ คือ "ผลักดัน" สปิริตเหล่านั้นของลูกทีมย้ำไปอีกรอบ จากที่ตัวนักเตะเองก็มีอยู่แล้ว เพื่อทำให้พวกเขามั่นใจ
และเกิด "ความเชื่อ" ในการเล่นของตนเอง
วันไหนที่นักเตะไม่มีความเชื่อ วันนั้นฟอร์มจะออกมาทันที อย่างเกมที่แพ้ซิตี้ 6-3 นั่นแหละ
"สปิริต" นอกเหนือจากการที่นักเตะมีมันอยู่ในตัวอย่างเดียวคงไม่พอ สิ่งนี้จะต้องถูก "ขุด" ถูก "สตาร์ท" และถูก "ขับ" ออกมาให้ "สูงยิ่งกว่าปกติ" ถึงจะดึงขีดจำกัดนักเตะออกมาใช้ได้เต็มที่
ถ้าเปรียบ Squad ของเราเป็นรถยนต์หนึ่งคัน
ดาวิด เดเคอา อาจจะเป็นบังโคลน
มาร์ติเนซ วาราน อาจจะเป็นกันชนหลัง
คริสเตียน อีริคเซ่น อาจจะเป็นหัวเทียน
แม็คโทมิเนย์ กับ คาเซมิโร่อาจจะเป็นตัวถังรถ
แอนโทนี่อาจจะเป็นแบตเตอรี่จ่ายไฟให้เครื่อง
แฮรี่ แมกไกวร์ อาจจะเป็นล้อหลังด้านซ้ายที่ต้องรับมือทั้งการเข้าโค้งและขี้ดินขี้โคลนที่ซัดเข้ามาใส่ทีม
และบรูโน่อาจจะเป็นแตรรถยนต์ที่เอาไว้บีบด่ารถคันอื่นเวลาโดนตัดหน้ากระชั้นชิดแล้วไม่เปิดไฟเลี้ยว เพื่อแทนคำพูดว่า "โพ่งเตย" ก็ได้
รถยนต์คันนี้อาจจะเป็นรถที่สมรรถนะสุดยอด เพราะประกอบด้วยวัสดุชั้นยอดมากมายมารวมๆกันเป็นสุดยอดรถยนต์หนึ่งคัน
แต่ถ้าไม่มีคนเหยียบมันให้เต็มกำลัง ถ้าไม่มีคนควบคุมมันไปให้ถูกทิศทางก็ไม่มีควาหมาย
คนทำหน้าที่ "ขับ" และ "เหยียบคันเร่ง" คือบอส เอริค เทน ฮาก ที่เหมือน Driver ซึ่งมีลูกทีมเป็นพาร์ทต่างๆของรถยนต์ ประกอบกันขึ้นมาเป็นคัน สุดท้ายถ้ารถไม่มีคนขับและเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง รถคันนั้นก็ไร้จุดหมายที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้
สิ่งนี้สำคัญสุดๆ และมันก็คือสโลแกนของเพจเล็กๆเพจนี้ด้วย
นี่คือข่าวยามตีสี่ที่จะ "ขุด" และ "ขับ" ให้จิตวิญญาณปีศาจแดงของคุณพลุ่งพล่านสูงยิ่งๆขึ้นไป ไม่ว่าคุณจะได้อ่านมันตอนกี่โมงก็ตาม
รถยนต์ดี คนขับเก่ง มันก็จะเข้าสู่สภาวะ "Driver's High" ได้ง่ายๆ คล้ายๆกับกรณีที่นักวิ่งอย่างผมวิ่งแล้วรอบขากับลมหายใจมันเริ่มนิ่ง มันก็จะเข้าเกียร์ยาวๆและเข้าสู่สภาวะ "PACEนิรันดร์" เหมือนที่คุณเอ๋ นิ้วกลม Roundfinger แกบอก
สิ่งนี้สำคัญสุดๆ และมันก็คือสโลแกนของเพจเล็กๆเพจนี้ด้วย
นี่คือข่าวยามตีสี่ที่จะ "ขุด" และ "ขับ" ให้จิตวิญญาณปีศาจแดงของคุณพลุ่งพล่าน ไม่ว่าคุณจะได้อ่านมันตอนกี่โมงก็ตาม
สโลแกนเพจผมไม่ได้เขียนไว้เท่ๆ มันมีไว้ตามที่เอริค เทน ฮาก พูดไว้นั่นล่ะ
#BELIEVE
-ใครไม่บีลีฟ ไม่มีหรอก แฟนแมนยูเค้าบีลีฟกันหมดแล้วเฟ้ยยย!!!!
โฆษณา