เมื่อผื่นที่ 1 ปรากฏ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่ได้รับยาต้านไวรัสฯ ในชุดประสิทธิภาพสูงที่ประกอบด้วยยา 3 ตัวตามแนวทางปัจจุบัน
ใช่ครับ มันคือคำแนะนำพื้นฐาน
1. ยา 3 รายการตามแนวทาง
2. รับประทานยาวันละ 1 ครั้งตรงเวลา
เรากินยามื้อแรกหลังได้รับยามา โดยในคืนนั้นตอน 4 ทุ่ม ที่เราตั้งใจว่าจะเป็นเวลาที่ต้องกินมันทุกวัน ... เรากินยาอีก 1 ครั้ง โดยเช้าวันรุ่งขึ้น เราไม่รู้หรอกว่าในด้านการออกฤทธิ์ต้านไวรัสของพวกมันจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ด้านผลข้างเคียง เราเห็นมันปรากฎอยู่ต่อหน้าเราแล้ว
เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์สุขภาพฯ แห่งนั้นให้แอดไลน์เพื่อติดต่อกัน เราแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่นานข้อความตอบกลับก็ปรากฎขึ้นใจความคือให้ทานยาต่อไป ถ้ามีอาการมากขึ้นกว่านี้ให้ปรึกษามาอีกครั้ง
.
สิ่งที่กลัวคือ กลัวว่าผื่นเหล่านี้มันจะรุนแรงมากขึ้น
สิ่งที่หวาดระแวงคือคนรอบข้างที่เห็น
สิ่งที่กังวลที่สุดคือถ้าใช้ยาชุดนี้ไม่ได้ เส้นทางของเราที่เต็มไปด้วยความหวังมันเหมือนกำลังมืดมิดลงอีกครั้ง
เรารู้มาจากโลกออนไลน์ว่า ผื่นแพ้ยามีหลายลักษณะ และสั่งกันนักหนาว่าแพ้ยาให้รีบหยุดยา แล้วหาหมอ ...
อ้าว แล้วนี่เราควรทำอย่างไรเพราะยาคือความหวังทั้งหมด จะไปโรงพยาบาลใดสักแห่งเพื่อขอเปลี่ยนยา หรืออดทนตามที่เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ฯ แนะนำ แต่ที่แน่ๆ เราเปิดหาข้อมูลในเอกสารกำกับยา และในอินเตอร์เน็ตเพื่อรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด
1. จากเอกสารกำกับยาถือว่าอาการข้างเคียงประเภทผื่น "พบบ่อย" ในคำจำกัดความคือร้อยละ 1-10 ... 10 คน ก็เป็นซะแล้ว 1
.
2. ผื่นแบบที่เราเป็น มันคืออะไร แล้วถ้ายาจำเป็นสำหรับเรา อนาคตของผื่นจะเป็นอย่างไร
.
เราไปเจอในเว็ปให้ความรู้เว็ปหนึ่ง ผื่นแบบที่เราเป็น เขาเรียก morbilliform drug eruption (แต่ของเราเป็นน้อยกว่ารูปในเว็ปเยอะ) และที่เราต้องการทราบคือ เราต้องทำอย่างไร?
ในเว็ปเขาบอกให้เลือก 2 ทางคือ
1. หยุดยา ผื่นนั้นจะดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง และจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในประมาณ 1-2 สัปดาห์
2. แต่ถ้ายานั้นจำเป็นมาก ไม่สามารถหยุดยาได้ จำเป็นต้องใช้ยานั้นต่อไป ทางนี้อาจเกิดผลข้อใดข้อหนึ่งใน 3 ทาง
2.1 ผื่นค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปได้เองทั้งๆ ที่ก็กินยาเหล่านั้นอยู่
2.2 ผื่นคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
2.3 ผื่นรุนแรงขึ้นจนเกิดเป็นการอักเสบที่รุนแรงของผิวหนัง
โดยเราไปหาซื้อยาแก้แพ้มากินตั้งแต่เห็นผื่นขึ้นแว้ปแรกแล้ว ไม่รู้ว่ามันช่วยได้หรือไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ... ง่วงชะมัด
ไม่ใช่แค่เว็ปภาษาอังกฤษหรอกที่เราเข้าไปอ่าน ในเว็ปไทย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเล็ก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ต่างก็จะมีบทความทำนองนี้และให้คำตอบไปในแนวทางเดียวกันคือ อดทน เดี๋ยวมันจะดีขึ้นเอง ไม่เกิน 2 สัปดาห์
จริงๆ นอกจากเรื่องผื่นที่ดูเหมือนจะรุนแรงและรบกวนทั้งร่างกาย และจิตใจเป็นที่สุดแล้ว อาการคลื่นไส้เล็กน้อย หรือปวดหัวเป็นบางครั้ง ก็รบกวนร่างกายเราพอควร แต่เรื่องพวกนี้มันเก็บงำไว้ได้ เราไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้
แต่เรื่องผื่นนี่สิ เมื่อไหร่จะหาย
เรายังคงรักษาวินัยในการกินยาให้ต่อเนื่องและตรงเวลาต่อไป ผ่านเป็นที่ 3, 4, 5, ... รู้กันมั้ยครับว่า ทุกเช้าเราจะเฝ้าดูผื่นเหล่านั้น และดูเหมือนว่าขอบเขตของมันเริ่มชัดเจนมากขึ้น มันอาจจะลอกเป็นแผ่นในสักวันหนึ่ง หรือไม่ ก็คงอยู่ต่อไปเป็นรอยสักประจำตัวเหมือนในเว็ปไซท์ภาษาอังกฤษนั้นบอก แต่ก็ลุ้นให้ในเช้าวันรุ่งขึ้นของทุกวัน ผื่นเหล่านั้นจะค่อยๆ จางและหายไปในที่สุด
วันที่ 6, 7, 8 ... และวันที่เรารอคอยก็มาถึง ผื่นเหล่านั้น (จริงๆ เราเป็นทั้งที่มือที่ถ่ายรูปเก็บไว้ และที่เท้า ข้อพับ ในร่มผ้า ซึ่งไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้) มันค่อยๆ จางลง จางลง และหายไปในที่สุด
ศึกคราวนี้ความอดทนของเราเป็นฝ่ายชนะ
ใกล้ครบ 2 สัปดาห์แล้ว ... มันก็ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องทานยาอีก 1 ชนิดที่มีตัวยา 2 ตัวประกอบอยู่ในนั้น ทุกวันต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ควบคู่กัน แล้วเราจะเจอศึกครั้งใหม่อีกมั้ย หรือถ้าจะปฏิเสธการทาน สุขภาพของเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต
15102565
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
