16 ต.ค. 2022 เวลา 13:13 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จังหวะสะสม BCPG หุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด
หุ้น BCPG หรือ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ และพลังงานลม
โดยมีโครงการในไทยและต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ลาว และเวียดนาม ปัจจุบัน BCPG มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 1,109 MW แบ่งเป็น โครงการที่ COD แล้ว 391 MW และอยู่ระหว่างพัฒนา 718 MW คาดจะ COD ได้ทั้งหมดภายในปี 2568
 
เมื่อมองไปที่ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น 1 ปีย้อนหลัง (ณ วันที่ 12 ต.ค. 65) ราคาหุ้น BCPG ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ลดลงถึง -25.42% มาต่ำกว่า 10 บาท
สาเหตุหลักๆ มาจากความเสี่ยงของตลาด สถานการณ์ภาคอุตสาหกรรมที่มีความผันผวน นโยบายดอกเบี้ยที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น ทำให้กดดันการเติบโตในภาพรวม
 
นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนมีความกังวลเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าที่กำลังทยอยหมดสัญญาขายไฟแบบ Adder
..
อย่างไรก็ตาม กลับยิ่งเพิ่มความน่าสนใจของหุ้น BCPG เพราะเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่มูลค่าไม่ได้แพงมากนัก ตรงกันข้ามกับหุ้นกลุ่มนี้หลายตัวที่ตอบรับการเติบโตในอนาคตมาอย่างรวดเร็ว จน P/E สูงลิบ
ทั้งนี้ BCPG เทรดอยู่บน P/E เพียง 10.57 เท่า และ P/BV ที่ 0.95 เท่า ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมมากทีเดียว
 
จุดที่ตอกย้ำว่ามูลค่าหุ้น BCPG ถูกเกินไปจริงๆ คือการที่ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่า Book Value ไปแล้ว
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิช่วงครึ่งปีแรกพุ่งไปถึง 64.11% หนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft ตั้งแต่เดือนพ.ค. รวมถึงการเข้าสู่ไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในไทย และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
 
ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2565 BCPG มีกำไรสุทธิ 1,693 ล้านบาท เติบโต 55.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 6,257.53 ล้านบาท
..
ด้วยกำไรสะสมที่มากและความสามารถทำกำไรขนาดนี้ หมายความว่าการจ่ายปันผลคงออกมาสวยงามแน่นอน
 
เนื่องจาก BCPG มีการเพิ่มทุนครั้งใหญ่ไปแล้วเมื่อปีก่อน ได้รับเงินทั้งหมดประมาณ 10,000 ล้านบาท
ทำให้ฐานทุนมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และยังเป็นโอกาสเร่งสร้างการเติบโตและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันอีกด้วย หลังจากที่ผ่านมา BCPG มักมีปัญหาอัตราเติบโตของหนี้แซงหน้าอัตรากำไรค่อนข้างมาก ทำให้สภาพคล่องฝืดเคือง ต้องพึ่งพาเงินเบิกเกินบัญชีมาอย่างต่อเนื่อง แต่การตัดสินใจเพิ่มทุนได้เป็นทางออกของปัญหาได้เลยทันที
..
BCPG มีแผนกลยุทธ์ 5 ปี ภายใต้แนวคิด “Running at Lightning Speed” วางเป้าหมายขยายการเติบโตขึ้น 100% หรือโตเท่าตัวจากปัจจุบัน ทั้งด้านรายได้และกำลังการผลิต จาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1.) ธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่
2.) ธุรกิจบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ (smart energy solution)
3.) ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ (smart infrastructure)
การเติบโตตามแผน 5 ปีดังกล่าว ต้องใช้งบลงทุนถึง 95,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการลงทุนตามแผน ด้วยความพร้อมจากเงินลงทุนที่เรามีอยู่เดิม 65,000 ล้านบาท รวมกับเม็ดเงินที่จะได้รับจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ทำให้มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 30,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการลงทุนให้มากขึ้น เพื่อหารายได้มาทดแทน Adder ที่กำลังจะหมดลงด้วย
นอกจากนี้ BCPG ยังตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มแหล่งกักเก็บและดูดซับคาร์บอน โดยตั้งเป้าปลูกป่าในประเทศไทย 1,000 ไร่ ใน 2 ปี
ขณะเดียวกันยังเป็นหนึ่งในผู้จัดตั้ง Carbon Markets Club แพลทฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตกันได้ตามความสมัครใจ
 
สุดท้ายนี้เรามองว่าการลงทุนในหุ้น BCPG เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สามารถทยอยเข้าสะสมได้ในช่วงนี้ ด้วยราคาหุ้นที่ค่อนข้างถูก จะซื้อไว้รับปันผลหรือเก็งกำไรก็ได้
ส่วนการเร่งลงทุนของ BCPG ก็สอดรับกับแผนพัฒนาสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานในอนาคต ทำให้สามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว
..
โฆษณา