16 ต.ค. 2022 เวลา 16:33 • กีฬา
#ไม่ดีไม่หนีไม่เปลี่ยน
FT : Manchester United 0 - 0 Newcastle United
1
จบเกมด้วยผลเสมอที่แบ่งแต้มกันไป สำหรับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
เป็นเกมที่ยูไนเต็ดเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานอีกหนึ่งเกมจริงๆ ด้วยปัจจัยปัญหาหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในสนามวันนี้ที่ต้องพูดกันตามตรง
ประเด็นเรื่องการที่นักเตะสำคัญหายไปหลายคนก็มีส่วน ทั้งการขาดหายไปของอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล / การสำรองของแรชฟอร์ดที่ยังไม่ฟิตพอ และ อีริคเซ่นที่ป่วยก่อนเกม ทำให้ทีมยวบลงไปเยอะ
เมื่อบวกกับการที่แม็คโทมิเนย์ติดโทษแบนเพราะเก็บเอ็กโซเดียครบ5ใบ ทำให้แดนกลางไม่เหลือตัวเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากคู่ คาเซมิโร่-เฟร็ด อย่างที่เห็น
แดนกลางก็ขาดoption แดนหน้าก็เหมือนจะมีแรชฟอร์ดที่เปลี่ยนเกมได้แค่คนเดียว
แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างของการพลาดสามแต้มวันนี้ เพราะจุดผิดพลาดที่เป็นเรื่องอื่นๆยังมีอีก
เกมนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้างเท่าที่ผู้เขียนเห็น ไปอ่านกันเลยครับ
1. เกมครึ่งแรกไม่สามารถครองบอลมีคุณภาพพอ ทำให้สร้างโอกาสยิงแทบจะไม่ได้ บอลเปลี่ยนมือกันไปมาแดนกลางจากการเข้าเพรสซิ่งเร็วของทั้งสองฝั่ง
1
นิวคาสเซิลรู้ดีว่าเล่น High Pressing จะเล่นงานเราได้แน่นอน ในยามที่ทีมเป็นเจ้าบ้าน และเอริค วาง Game Plan มาชัดเจนว่าจะให้ทีมครองบอล และbuild-upจากกองหลัง นิวคาสเซิลจึงขึ้นมาติดกองหลังเราเลยในทันที บีบให้หลายๆครั้งทีมก็เล่นได้ลำบาก และเสี่ยงจะเสียประตูหน้าบ้านตัวเอง
ครึ่งแรกที่ยังสดอยู่ทั้งคู่ เกมวิ่งแลกกันด้วยไดนามิคการเล่นจึงค่อนข้างเด่นชัด
ยูไนเต็ดอาจจะครองบอลดีกว่า เล็กน้อยในครึ่งแรก แต่ฝั่งที่ "เล่นเกมได้ดีกว่า" ชัดเจนว่าเป็นฝั่งนิวคาสเซิลที่อันตรายกว่าเราเยอะ
นี่ก็ยังงงวิธีการคิดคำนวณความน่าจะเป็นของพรีเมียร์ลีกอยู่เลยว่า ครึ่งแรกมันเอาอะไรมาคำนวณฟะว่าแมนยูมีสิทธิ์ชนะมากกว่า ทั้งที่นิวบุกเยอะกว่า เข้ากรอบเยอะกว่า -*-
พวกเขาเล่นลูกเซ็ตพีซได้น่ากลัวทุกลูก และเกือบได้ประตูนำจากโชเอลลินตันจริงๆจากจังหวะโหม่งสองครั้งที่DDGหมดสิทธิ์เซฟไปแล้ว แต่ได้เสากับคาน ช่วยกันเซฟพัลวัน
ขณะที่แมนยูมีช็อตยิงชัดๆก็ช่วงท้ายแล้วจากลูกยิงแอนโทนี่ กับ บรูโน่ที่ได้โขก จบครึ่งแรกแบบที่ภาพรวมนิวคาสเซิลก็ยังดีกว่าอยู่ดีในทุกด้าน ทั้งความน่ากลัว และการเอาชนะเกมกลางสนาม
ครึ่งหลังสิ่งที่มองเห็นชัดสุดก็คือ เทน ฮาก แก้ไขด้วยการปรับให้ทีมเน้นครองบอลกันให้แน่นอนมากขึ้นกว่าเดิม และก็ทำได้ดีขึ้นจริงๆ
แต่ก็แค่เรื่องครองบอลอย่างเดียว
-----------------------------
2. การสร้างสรรค์โอกาสยิงวันนี้ค่อนข้างแย่ในภาพรวมที่ภาระทั้งหมด ไปตกอยู่กับ Antony อยู่คนเดียวที่ดูจะทำอะไรได้ชัดเจน และอันตรายมากที่สุด ขณะที่ซานโช่ครึ่งแรกทำได้ดี แต่ครึ่งหลังหายไปจากเกม และควรจะโดนเปลี่ยนตัวออก แต่ได้อยู่จนจบเกม
ในความเป็นจริงหากคิดเชิงเหตุและผล ทีมโจมตีจังหวะสุดท้ายได้แย่มาก เราควรจะเก็บคริสเตียโน่ โรนัลโด้เอาไว้ก่อนในนาทีที่70 แล้วถอดซานโช่ออก ส่งตัวทำประตูอย่างแรชฟอร์ดลงมาช่วยกระจายเป้าเข้าทำเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว โดยมีแอนโทนี่ทำเกมอยู่ด้านขวา
ที่น่าผิดหวังคือ สิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม เราได้เห็นเฟร็ด ทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวทำเกมรุก แล้วบรูโน่ลงต่ำมาช่วยไล่บอล ขยับออกข้างเชื่อมเกม ทดแทนตำแหน่งเยอะมาก
บรูโน่ทำงานหนักเกินกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่เขาควรจะได้เป็นคนทำเกมรุกหลัก แล้วเฟร็ดซัพพอร์ตอยู่ด้านหลัง กลับกลายเป็นว่าสองคนนี้สลับRoleกัน แล้วประสิทธิภาพก็ทำได้แค่เท่าที่เห็น ซึ่งตัวบรูโน่ก็ทำเต็มที่แค่เท่าที่ทำได้แล้ว แต่คนที่น่าผิดหวังตั้งแต่ต้นจนจบก็คือ "เฟร็ด" ที่ยังคงได้เล่นเต็ม 90 นาที แม้จะทำอะไรไม่ได้เลยก็ยังได้อยู่ในสนามอยู่
ครึ่งหลังเฟร็ดดีกว่าครึ่งแรกหน่อยนึงตรงที่พอจะจ่ายบอลเชื่อมเกมได้บ้าง แต่การทำได้แค่นั้นก็แทบจะสร้างประโยชน์ให้ทีมเอาชนะคู่แข่งไม่ได้เลย
คำถามคือ เราไม่เชื่อว่า นักเตะดาวรุ่งอย่างซีดาน อิคบาล จะด้อยกว่าเฟร็ดในภาคของการทำเกมสร้างสรรค์ในแดนกลาง ยามที่ทีมโดยรวมครองบอลได้ดีแล้ว อย่างน้อยถ้ามีตัวช่วยทำเกมตรงกลางแบ่งเบาบรูโน่เพิ่มมากกว่านี้อีกคน ทีมคงจะสร้างเกมรุกได้ดีกว่านี้
เรื่องการที่เอาเฟร็ดออกแล้วจะส่งผลต่อสมดุลการครองบอลของเกมที่เข้มข้น และต้องเล่นละเอียดหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าไม่ เพราะว่า วาราน มาร์ติเนซ คาเซมิโร่ คุมเกมได้อยู่แล้ว ถ้าเปลี่ยนเฟร็ดจะไม่กระทบเกมคอนโทรลของทีมแน่ๆ
-------------------------
3. แทคติกอย่างหนึ่งของเอริค เทน ฮาก ที่เห็นได้ชัดตั้งแต่เกมที่แล้วที่เจอโอโมเนีย นิโคเซียก็คือ การใช้วิงแบ็ค หุบเข้ามาทำเกมในแดนกลาง ซึ่งวันนี้ ดาโลต์ หุบเข้ามากลางและช่วยเกมได้เยอะ เนื่องจากแทคติกเทน ฮาก จะใช้ "ปีกขึงริมเส้น" ในด้านกว้างของสนามค่อนข้างชัดเจน
ทรงการยืนมันจะแผ่ด้านบนในพื้นที่ Final Third แรงหน้ากระดาน แล้วใช้ปีกทำเกม ซึ่งการทำเกมดังกล่าวจะได้ผลดีกว่าเดิม ถ้า "กลาง" ช่วยปีกโจมตีได้บ้าง แต่นี่คือไม่มีเลย ภาระอยู่ที่ปีกอย่างแอนโทนี่คนเดียวจริงๆ
กลางทำได้แค่ถ่ายบอลไปมาเท่านั้น ซึ่งก็นำโดยเฟร็ดนั่นแหละที่เจ้าตัวไม่ได้มีสกิลทักษะจะปั้นเกมรุกได้ ผลที่ออกมาก็คือ แมนยูต่อบอลไป ต่อบอลมาแบบไม่มีจุดหมาย เผาเวลาตัวเองไปเรื่อยๆอย่างที่เห็น
สุดท้ายต้องถึงมือของคาเซมิโร่ เราถึงได้เห็นว่า การมีนักเตะที่มีคลาสสร้างสรรค์เกมได้มันเป็นยังไง คาเซมิโร่ดีดไซด์ก้อยไปให้แรชฟอร์ดเกือบโหม่งทำประตูได้
แปลว่า แทคติกการใช้ปีกทำเกม wide area ของเขา มัน Complete แค่ 50% เพราะอีก 50% นักเตะพื้นที่ Center Area ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระหรือโจมตีนิวคาสเซิลได้เลย
นิวคาสเซิลยามที่ลงไปรับลึกก็เหนียวแน่นสุดๆซะด้วย สมราคาที่เกมรับเหนียว และนักเตะที่มี Physical ได้เปรียบมากๆ ทั้งตัวใหญ่และแข็งแกร่งกว่าทีมเราอย่างเห็นได้ชัด
-------------------------------
4. การเล่นในจังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ เห็นชัดๆว่า นิค โป๊ป แทบไม่มีจังหวะให้ต้องเหนื่อยเลย มีแต่ลูกยิงที่ตรงตัว ไม่มีดอกไหนที่ต้องพุ่งปัดแม้แต่ลูกเดียว ด้วยการยืนตำแหน่งด้วย บวกกับลูกยิงของเราไม่อันตรายพอ ซึ่งแอนโทนี่เป็นตัวสร้างสรรค์และหาโอกาสได้มากที่สุด แต่การจะให้แกแบกอยู่คนเดียว ยิงอยู่คนเดียวทุกนัดมันก็ไม่ไหว
แล้วกองหน้าคนอื่นล่ะ?
เจดอน ซานโช่ ดูเหมือนว่าจะเล่นทำเกมได้ดี ข้อนี้จริง แต่สิ่งที่เราต้องการจากเขามากกว่านี้ก็คือความเข้มข้น ความดุดัน และความ "กล้า" ในการโจมตีและยิงด้วยตัวเอง เจ้าตัวเหมือนจะทำแค่ลากเลื้อยปั้นเกม จ่ายบอลเพื่อน ทั้งที่ตัวเองก็น่าจะส่องเองได้
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เอาชนะกองหลังนิวคาสเซิลด้วยร่างกายไม่ได้โดยตรง แต่จังหวะที่เป็นบอลquick transition ก็ยังอันตรายอยู่ และช็อตที่ถูกนักเตะนิวคาสเซิลเข้าทำลายจังหวะก่อนที่จะได้ยิงในกรอบนั่นก็ยังเป็นข้อสงสัยต่อกรรมการว่า ตัดสินอะไรยังไง
ก็ไม่แปลกใจการเป่าของกรรมการแบบเคร้ก พอว์สัน อยู่แล้ว ห่วยสมราคา แต่เราก็ต้องโทษตัวเองด้วยว่าไม่ดีพอจะเอาชนะคู่แข่งได้เองจากการบุกที่มีคุณภาพมากพอจะจัดการกับนิวคาสเซิลได้
ส่วนลูกที่โด้เห็นว่าพวกเขาเล่นบอลไปแล้ว และฉกไปยิงเข้า แต่โดนเป่าและเสียใบเหลือง ลูกนั้นยังไม่ชัดเจนในเรื่องเจตนาที่จะชี้ได้ 100% ว่าเป็นการเล่นไปแล้ว คงโทษอะไรไม่ได้
จังหวะยิงที่โด้หลุดไปยิงเข้าไปอีกจังหวะนั่นก็ล้ำหน้าอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร
จังหวะของคนอื่นๆในเกมนี้ที่น่าสนใจ ก็มีช็อตที่แรชฟอร์ดวิ่งมาแตะบอลหนีโป๊ปได้แล้วจ่ายบอลเข้ากลางได้สวย เฟร็ดเองก็ยังยิงออกไปอย่างน่าใจหาย แล้วจริงๆก็ล้ำหน้าอยู่แล้วลูกนั้น ขณะที่ช้อตสุดท้ายก่อนจบเกม นั่นคือBig Chance ที่ควรจะต้องเป็นประตู แต่กลับทำไม่ได้ของมาร์คัส แรชฟอร์ด
ในใจผมคิดเลยว่า ลูกนี้ถ้าเป็นโด้น่าจะคอนโทรลหัวโหม่งเล่นทางได้ประตูแน่นอน แต่.. ฟุตบอลไม่มีคำว่าถ้า และโด้ก็ออกจากสนามไปแล้ว คิดไปก็เท่านั้น
ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องยอมรับว่า ทีมเราจบสกอร์กันได้แย่มากจริงๆ ขาดความเฉียบคม แม่นยำ และดุดัน
---------------------------
5. ในมุมมองส่วนตัว เกมนี้ผมรู้สึกว่า เอริค เทน ฮาก ผิดพลาดค่อนข้างหลายประเด็นมากๆ ไม่ว่าจะเป็น
5.1 เอริค เทน ฮาก วันนี้แก้เกมช้ามาก
เขาควรจะเห็นและแก้เกมเร็วกว่านี้ เพราะครึ่งหลังผ่านไป 15-20 นาทีควรจะเห็นว่าทีมยังสร้างเกมรุกไม่ได้ดีขึ้น แม้จะครองบอลชัวร์กว่าเดิม มันดีขึ้นก็จริง แต่ทีมยังยิงนำคู่แข่งไม่ได้ เอริคควรจะขยับทำอะไรเร็วกว่านี้
5.2 ใช่ แรชฟอร์ดอาจจะไม่ฟิตพอจะลงมาเล่นได้นานกว่านี้ เรายังพอเข้าใจได้ว่า หากสาเหตุที่ปล่อยลงมาช้าเพราะสภาพร่างกายไม่พร้อม นั่นโอเค แต่คำถามคือ นักเตะคนอื่นๆบนม้านั่งสำรอง ทำไมเอริคไม่เชื่อใจบ้าง อย่างน้อยเปลี่ยนลงไปเติมความสดก็ยังดี
-ไทเรลล์ มาลาเซีย น่าจะช่วยลุคชอว์ได้ หรืออย่างน้อยถ้าเล่น Inverted Wing-Back ก็ให้เล่นฝั่งดาโลต์ก็ได้ทั้งสองฝั่ง
-ซีดาน อิคบาล ไม่มีอะไรที่ด้อยกว่าเฟร็ด นอกจากเรื่องอายุกับประสบการณ์ ฝีเท้ามันเห็นค่อนข้างชัดว่าเฟร็ดทำเกมรุกไม่ได้ ก็น่าจะลองเปลี่ยนลงมาใช้งานบ้าง
หรือหากจะไม่ใช้ซีดาน ตัวที่ลงมาเล่นเกมรุกได้ก็คือ แอนโธนี่ เอแลงก้า ที่ลงมาช่วยโจมตีได้ทั้งริมเส้นและตรงกลาง หุบซานโช่เข้ามาเล่นเป็น 8s คู่ Bruno ก็ยังได้ แต่ไม่เปลี่ยน
- อเลฮันโดร การ์นาโช่ / ฟาคุนโด้ เปลยิสตรี อย่างน้อยลงมาแทนซานโช่ หรือแอนโทนี่บ้าง ก็น่าจะสร้างความสับสน หรือเติมความสดให้แดนหน้าของทีมได้ แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนเลยแม้แต่ตัวเดียว
5.3 เราไม่อยากจะพูดข้อนี้ แต่ในเกมที่ทีมยังทำประตูไม่ได้ การถอดหน้าเป้าตัวค้ำอย่าง CR7 ออก มันทำให้คู่แข่งเล่นง่ายขึ้นเยอะ เพราะแรชฟอร์ดกดดันในกรอบเขตโทษไม่ดีเท่าโรนัลโด้ และแรชควรจะได้โจมตีจากวงนอกแถวสองในฮาล์ฟสเปซมากกว่า
5.4 เราก็ไม่รู้ว่ามุมมองเอริคมองยังไง แต่เห็นชัดว่าทีมไม่มีวี่แววว่าจะได้ประตูเลยแม้แต่น้อย เขาก็ยังคงปล่อยให้เกมเป็นแบบเดิมจนกระทั่งหมดเวลา ข้อนี้น่าผิดหวังจริงๆที่อย่างน้อย ทำอะไรสักอย่างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้างก็น่าจะดี
วันนี้ผมรู้สึกว่าเอริคยังไม่ดีพอที่จะหาทางเจาะนิวคาสเซิลได้ ทั้งที่ทีมเรามีศักยภาพพอจะทำได้ และไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่า "เพราะนิวคาสเซิลระเบียบเกมรับดี ตั้งรับต่ำและอุดกันหน้าประตู"
นั่นไม่ใช่ข้ออ้างเลย นั่นคือสิ่งที่เราต้องให้เครดิตคู่แข่ง และก็ต้องตำหนิทีมว่าไม่มีวิธีการในการเจาะที่หลากหลายมากพอจะเล่นงานเขาได้ ทั้งเรื่องของ Creativity (ความคิดสร้างสรรค์เกมบุก) ไม่มีเลย นอกจากจ่ายบอลกันไปมา บอลสั้นเจาะช่องแทบไม่มีเลย จังหวะที่ทำได้ช่วงท้ายๆจากดาโลต์ ก็ดันไม่เข้าใจกัน แล้วก็เรื่องความเฉียบคมในการทำประตูอย่างที่กล่าวไปแล้ว
ตอนที่ดูอยู่ในครึ่งหลัง เราป้อไปป้อมา ภาพที่เราเห็นมันชัดเจนมากว่า ข้อแตกต่างระหว่างท็อปทีมอย่างซิตี้กับเรา ค่อนข้างชัดเจนและห่างกันมากๆ เพราะถ้าซิตี้ครองบอลได้เยอะเหมือนที่เราทำในวันนี้ เขาสร้างโอกาสยิงกันรัวๆ และต้องมีประตูแน่นอนแล้ว ด้วยเกมบุกที่เข้มข้นและดุดัน (Intensive & Aggressive) ซึ่งสำคัญมากๆที่เราเคยทำได้ แต่นัดนี้หายไปเลย
6. คะแนนนักเตะ
แม้ว่าทีมจะไม่ได้แพ้นิวคาสเซิลคาบ้าน และการที่เอาชนะพวกเขาไม่ได้ มันก็ไม่แปลกอะไรเพราะนิวคาสเซิลอันดับใกล้ๆกับเราและฟอร์มการเล่นของพวกเขาแข็งแกร่งมาก
วันนี้เราดวงดีที่แซ็งต์-แม็กซิแมง เจ็บ ไม่งั้นป่านนี้น่าจะลงไปคุยกับรากวาซาบิน้ำหูน้ำตาไหลแล้ว เพราะเจค เมอร์ฟีย์ ไม่ได้ดีพอจะเล่นงานเราได้
ขณะที่อัลมิรอนวันนี้ก็เงียบๆ เนื่องจากแมนยูไนเต็ดมี CB แดนหลังที่ทำงานได้ดีมากทั้งคู่ ทั้งมาร์ติเนซ และ วาราน [คะแนน 8 / 8] คืองานดีย์ของเราในวันนี้ที่เก็บกินเกมรุกของนิวคาสเซิลเรียบ ทำให้เราแทบจะไม่เห็นตัวรุกของพวกเขาเลย
เห็นแต่บรูโน่ VS บรูโน่ ตลอดทั้งเกม รวมถึง แอนโทนี่ VS แดน เบิร์น มีแค่นี้จริงๆ
วันนี้นักเตะที่ส่วนตัวผมให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ของฝั่งแมนยูไนเต็ด ก็คงต้องเป็น Antony ที่ทั้งทำเกม โจมตี กดดัน และสร้างสรรค์โอกาส ทุกอย่างอยู่คนเดียวจริงๆ แบกหนักมากๆ [8.5]
ซานโช่ดีครึ่งแรก ครึ่งหลังเงียบ แต่น่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ [7.4]
ลุค ชอว์ ทำงานได้ดี พาบอลขึ้นหน้าได้ เล่นเกมรับได้แน่นอนดี ทำให้อย่างน้อยเกมริมเส้นเราไม่รั่วมาก ถึงแม้อาจจะไม่ได้โจมตีจากชอว์มากนัก เพราะเกมรุกไปเน้นให้ปีกทำเกมเองกันมากกว่าทั้งสองฝั่ง [7.5]
โรนัลโด้ ทำตามหน้าที่กองหน้า และหาจังหวะกดดันหลังนิวคาสเซิลได้ดี แถมยังมีหลายจังหวะที่ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายแล้ว น่าเสียดายไม่น่าถอดแกออก วันนี้โด้ไม่ได้แย่เลย [7.5]
เกมที่500ของน้าเด ไม่ได้มีงานอะไรเยอะมากนอกจากช่วงครึ่งแรกที่โดนโจมตีด้วยเซ็ตพีซรัวๆและเกือบจะสู่ขิตไปแล้ว ดีว่าเสากับคาน ไม่อยากให้สถิติเกมที่ 500 ด่างพร้อย นอกนั้นจังหวะอื่นๆก็รับบอลได้แน่นอนดี และออกบอลด้วยลูกขว้างโอเค แต่มีเตะยาวออกมาพลาดให้เห็นบ้างตามฟอร์ม แถมมีช็อตจ่ายยัดเฟร็ดที่โดนประกบดับเบิ้ลทีมอยู่เฉย อันนี้แอบงง [7]
ดาโลต์ฟอร์มกลางๆ แต่ก็ถือว่ามีความยืดหยุ่นด้านตำแหน่งที่หุบเข้าในมาช่วยทำเกมได้ดี เอาจริงๆถ้าเลือกได้ ใช้ดาโลต์ทำเกมรุกตรงกลางคู่บรูโน่ ยังจะดีกว่าใช้เฟร็ดเลยมั้ง [7.3]
บรูโน่ แฟร์นันด์ส อย่างที่บอกไปว่า รับภาระเยอะมากเกินไป เกมรับเยอะมาก ทั้งๆที่สรีระเสียเปรียบ แต่แกก็ต้องเข้าไปไล่บอล แทคเกิิล ปะทะตลอดเวลาอย่างที่เราเห็นพี่หนวดกลายเป็นลูกขนุน และยกมือฟ้องกรรมการตลอดทั้งเกม ซึ่งไอ้เค้กมันก็ไม่สนใจหรอก ไม่ว่าทีมเราจะเสียประโยชน์ยังไง -*- [7.85 ค่าน้ำหมึก]
คาเซมิโร่ เป็นที่พึ่งในแดนกลางอย่างแท้จริง และเข้าบอลได้หนักแน่น ไว้ใจได้ แถมยังออกบอลช่วยทีมได้อีก [7.8]
และสุดท้าย ยืนยันคำเดิมว่า ถ้ามีนักเตะที่ดีกว่าเฟร็ด ควรจะส่งลงสนาม หรือซื้อมาเพิ่มได้แล้ว เมื่อฟอร์มครึ่งแรกอย่างที่บ่นไปในโพสต์พักครึ่งว่า การวิ่งของเขามันไม่สร้างประโยชน์ให้ทีมได้เลยเนื่องจากการเล่นไม่เฉียบคม เก็บบอลไม่ได้ มีโอกาสเติมบุกก็สร้างความอันตรายไม่ได้เลย
โยนทิ้งโอกาสในFinal Thirdไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว และเอริคก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนออก ถึงจะบอกว่า ถ้าเปลี่ยนออกก็ไม่มีมิดฟิลด์เชื่อมเกมก็ตาม แต่ซีดานมันเก่งกว่าก็ควรจะลองใช้บ้าง วันนี้ครึ่งหลังเฟร็ดแก้ตัวได้นิดหน่อยที่พอจะเชื่อมเกมได้ แต่มันก็ยังแค่ "so-so" งั้นๆ ธรรมดาๆ เมื่อรวมกับฟอร์มเหลวเป๋วครึ่งแรก เอาคะแนนไปแค่ [4.5] พอ ให้ค่าน้ำหมึกความทุ่มเทพยายามวิ่ง ไม่งั้นวัดเรื่องฟอร์มอย่างเดียวได้แค่3.5ไปแล้ว (คหสต นะฮะ)
ชัดเจนว่า แดนกลางเรายังไม่พอ และต้องเสริมเพิ่มอีกในปีหน้า ถ้าเอริคยังไม่คิดจะให้โอกาสซีดาน อิคบาล ก็ซื้อเถอะ เฟร็ดนี่ให้เล่นเบอร์ 8 ก็แล้ว ฟอร์มแย่กว่าเดิมมากจริงๆ
7. ในเมื่อมันพลาดไปแล้ว ผ่านไปแล้ว ก็คงต้องทำใจ และไปหาทางแก้ตัวใหม่กับเกมหน้า สิ่งไหนที่ผิดพลาด หรือไม่ดีพอวันนี้ "หวังว่า" เอริค เทน ฮาก จะมองเห็นปัญหา และก็อาจจะต้องมองตัวเองด้วย
ผมสนับสนุนเอริคเต็มที่ 100% เหมือนเดิม แต่แน่นอนว่า การสนับสนุนไม่ได้แปลว่าไม่ตำหนิ หรือต้องปกป้องกันอย่างเดียว อะไรที่เรารู้สึกว่าเขาทำไม่ดีพอก็มีสิทธิ์โดนวิพากษ์ได้ แล้วจากนั้นก็แค่ให้กำลังใจเอริคกันต่อไปเท่านั้นเอง
คิดซะว่าให้เอริค เทน ฮาก เจอกับเกมพรีเมียร์ลีกไปเรื่อยๆในปีนี้ เมื่อเขามีชั่วโมงบินที่เยอะพอ ทุกอย่างมันจะ "คลิก" กว่านี้แน่นอน
เกมหน้างานหนัก ต้องเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ดเจอกับท็อตแน่มของอันโตนิโอ คอนเต้ ในคืนวันพุธนี้ เวลาตีสองสิบห้านาที นั่นคือเกมที่หนักกว่านิวคาสเซิลในวันนี้ซะอีก
หวังว่าตัวที่หายไปอย่าง มาร์กซิยาล จะกลับมา และแน่นอนว่า อีริคเซ่น แม็คโทมิเนย์ และรวมถึงแรชฟอร์ด น่าจะฟิตสมบูรณ์และกลับมาสู่ทีมกันอย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง
เกมหน้าว่ากันใหม่ เกมนี้ทำใจกันไปก่อน คิดซะว่ามาเจอกรรมการที่ปล่อยเกม ไม่ว่าเราจะโดนทำฟาล์วจังหวะจะโจมตีขนาดไหนก็แทบจะไม่ให้ในจังหวะสำคัญๆ แถมเจอกับทีมเล่น Low Block แล้วเรายังไม่ดีพอจะหาทางเจาะได้ก็แล้วกัน เสียดายว่าถ้าเกมนี้มีนักเตะตัวพิเศษอย่าง Donny van de Beek อยู่ อาจจะมี "อาวุธที่จับทางไม่ได้" ที่จะเจาะเกราะของนิวคาสเซิลได้ ยิ่งถ้ามีมาร์กซิยาลอีกคน วันนี้เราคงเก็บผลได้ดีกว่านี้
รอไปเอาคืนที่เซนต์เจมส์ปาร์คแล้วกัน วันนั้นนิวคาสเซิลต้องเปิดเกมใส่เรา แล้วมันจะมีช่องเจาะได้มากกว่านี้แน่นอน
เกมนี้ทำใจ เกมหน้าค่อยว่ากันใหม่ครับ
1
-ศาลาผี-
โฆษณา