17 ต.ค. 2022 เวลา 11:49 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
"The Killer" 1989
ภารกิจสุดท้ายของนักฆ่าหนุ่มก่อนวางมือ
เพื่อชดใช้ให้กับหญิงสาวที่เขาทำเธอตาบอด
แต่มันไม่ง่ายเมื่อเขาต้องหักเหลี่ยมเฉือนคม
ทั้งศัตรู เพื่อนรัก และ ตำรวจ
The Killer
ภาพยนตร์อาชญากรรม แอ็กชั่นดราม่า สัญชาติฮ่องกง หรือในชื่อไทยสุดเท่ "โหดตัดโหด" ผลงานกำกับของ John Woo ผู้คงลายเซ็นไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยทั่วโลกได้กล่าวขานว่า ถ้าจะหาหนังสักเรื่องที่แสดงตัวตนของผู้ชายคนนี้มากที่สุด 'โหดตัดโหด' คือผลงานระดับมาสเตอร์พีชอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ในช่วงเปิดตัวที่ฮ่องกงจะไม่ค่อยฮือฮา แต่กลับได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกจากโลกตะวันตก และได้กลายมาเป็นต้นแบบและอิทธิพลให้หนังแก๊งสเตอร์ทั่วโลกอีกมากมายๆ ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นงานเรื่องท้ายๆ ที่ จอนห์ วู ร่วมงานกับ ฉี เคอะ หลังจากประสบความสำเร็จจาก 'โหด เลว ดี' ทั้ง 2 ภาค แต่ดูเหมือนจะเข้าขากันไม่ได้เท่าไหร่ จึงต้องแยกทางกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกงถึง 6 สาขา ก่อนจะคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมและตัดต่อภาพยอดเยี่ยมไปครอง โดยที่โดดเด่นที่สุดนอกจากฉากบู๊แอ็กชั่นสุดระห่ำก็คือการกลับมาเฉือนคมของสองนักแสดงรุ่นใหญ่ อย่าง โจวเหวินฟะ (Chow Yun-fat) และ หลี่ซิวเสียน (Danny Lee) ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน 'เถื่อนตามดวง' 1987 และยังได้ จูเจียง (Paul Chu Kong) มาร่วมรับบทสมทบ ซึ่งเป็นตัวระครที่จะขาดไม่ได้เลยทีเดียว
เรื่องราวของ อาจง (Chow Yun-fat) นักฆ่ามือดีที่ทำภารกิจผิดพลาด จึงทำให้ เจนนี่ (Sally Yeh) นักร้องสาวถูกลูกหลงจนตาบอด อาจงจึงคิดจะวางมือจากวงการ และพาเจนนี่ไปรักษาที่ต่างประเทศ แต่เขาต้องทำงานสุดท้ายเพื่อหาเงินรักษา แต่เมื่องานสำเร็จ อาจง กลับถูกนายจ้างวานสั่งฆ่า โดยมี ฟุ่งเซ (Paul Chu Kong) เพื่อนรักที่ทรยศหักหลัง
อีกด้านหนึ่ง ตำรวจหมาบ้าอย่าง หลี่ อิง (Danny Lee) ก็กำลังตามจับ อาจง เพราะหากพลาดคดีนี้ไป ชีวิตตำรวจของเขาอาจสั่นคลอน แต่ระหว่างที่ไล่ล่ากันนั้น ทั้งคู่ก็ค่อยๆรู้จักกันจนเกิดเป็นมิตรภาพ แต่ทว่าเสือสองตัว ตำรวจกับนักฆ่าไม่อาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้
ต้นตำหรับหนังบู๊ฮ่องกงยิงกันสนั่นก็ต้อง จอนห์วู จริงๆล่ะนะ แค่เปิดฉากมาก็มันส์กระจาย กระสุนปลิวกันให้ว่อน แต่กลับดูประณีตสวยงามราวกับงานศิลปะ ทั้งคิวบู๊ มุมกล้อง คือลื่นไหลมากๆ แม้จะดูเวอร์แต่กลับไม่รู้สึกขัดใจ เผลอสนุกตามด้วยซ้ำ ฉากเฮียโจวเหวินฟะใส่สูทถือปืนคู่ไล่ยิงนี่ ยังคงเท่สะใจเหมือนเคย แม้ว่าในด้านพล็อตเรื่องอาจไม่เข้มข้นเท่า 'โหด เลว ดี' แต่ก็ถูกเพิ่มเติมด้วยความโรแมนติกของคู่พระนางแทน
หลายๆอย่างค่อนข้างถูกจริต ทั้งองค์ประกอบโดยรวม งานภาพ อารมณ์ของบรรยากาศ เพลงประกอบของ Sally Yeh ก็ไพเราะติดหูเอามากๆ และซีนตำนานที่ชอบมากๆก็คือฉาก จ่อปืนของอาจงและหลี่อิง โคตรเท่แบบไร้คำบรรยาย ถ้าจะให้พูดถึงแนวเดียวกัน 'Heat' 1995 ที่มีฉากปาชิโนกับเดอนีโรเผชิญหน้ากันในร้านกาแฟ 'โหดตัดโหด' ก็ต้องมีฉากจ่อปืนอย่างเลี่ยงไม่ได้ และยังไดอะล็อกบทพูดเท่ๆอีกมากมาย ที่พาคนดูไปสัมผัสถึงคุณธรรม มิตรแท้ของลูกผู้ชาย ในยุค 80s' ซึ่งในเรื่องเองก็อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวที่กำหลังจะผลัดยุคสมัยไปแล้วเช่นกัน
และความเจ๋งอีกเรื่องเมื่อหนังแก็งสเตอร์ฮ่องกงมาปะทะกับจอนห์วูก็คือการค่อยๆบิ้วอารมณ์คนดู ไต่ระดับความพีคไปจนถึงช่วงระเบิดในไคล์แม็ก แม้จะพอเดาทางได้อยู่แล้วแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าโคตรจะอินตามแบบสุดๆ ช่วงท้ายของเรื่องที่จัดเต็มทั้งดราม่าและฉากบู๊เข้มข้น สุดท้ายแล้วก็อดไม่ไหวที่จะปล่อยโฮน้ำตาแตก สารภาพเลยว่าร้องไห้หนักยิ่งกว่าหนักรักดราม่าเรื่องไหนๆเสียอีก
แม้ว่ายุคของหนังมาเฟียฮ่องกงจะผ่านไปแล้ว หากแต่ได้ย้อนกลับมาดูก็ทำให้หวนคิดถึงถึงบรรยากาศเก่าๆในยุคสมัยนั้น มันเป็นเสน่ห์และคัลเจอร์ของวงการภาพยนตร์เอเชียโดยแท้จริง และถ้าจะถามถึงตำนานหนังฮ่องกง 80's ที่ควรรับชมสักเรื่อง "โหดตัดโหด" คือหนังดราม่าแอ็กชั่นครบรสที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
โฆษณา