จั่วหัวมาแบบนี้ อาจทำให้หลายคนระแวงสงสัย
(ุถ้าท่านส่งบุตรหลานเรียนกับผมอยู่ ขอให้อ่านครับ
ส่วนท่านที่ไม่ได้เรียนกับผม ขอให้เชคด้วยตัวท่านเอง)
ผมค่อนข้างจะหวาดระแวงและสังเกต ในเรื่องวิธีการตอบคำถามของน้องๆ ในห้อง หรือวิธีการเรียนของน้องๆ ในห้องหรือที่เรียน Live หรือ zoom
พอสมควร
ผมค่อนข้างจะใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์กับตัวน้องและผู้ปกครองได้ดี เพื่ออะไรนะรึ เพื่อพัฒนาศักยภาพในตัวเด็ก และเพราะอะไรนะรึ
เพราะปัจจุบันมันไม่ใช่อดีต อีกต่อไป อ่านจบนี่คง งง
มาเริ่มกันดีกว่า
ท่านอาจจะไม่เคยรู้เลยว่าอยู่ในห้อง ลูกท่านเป็นอย่างไร มีลักษณะ นิสัย เวลาเรียนเป็นอย่างไร ชอบคุยไหม ชอบเล่นไหม นิ่งไหม ก่อกวนเพื่อนไหม หรือตั้งใจเรียนดี สิ่งที่ท่านทราบได้มีเพียง 2 อย่างเท่านั้นคือ
1. ลูกเดินออกมาก็ถามว่าเรียนรู้เรื่องไหม เข้าใจไหม
2. สอบถามจากผู้สอนว่า อยู่ในห้องน้องเป็นอย่างไร
ซึ่งคำตอบที่ท่านได้รับ ก็คงเป็นในมุม ที่อยู่ใน มุมมองที่ดี ซึ่ง
อาจจะตรงข้ามกับความจริง อ้าว เพราะอะไรหละ
1. ถ้าเป็นคำตอบจากลูกท่านก็เพื่อความสบายใจของท่านหรือป้องกันการดุด่า ว่ากล่าว จากตัวท่านเอง
2. ถ้าเป็นจากสถาบันก็คงเพราะ ผลประโยชน์ เพราะบางท่านจะรับความจริงไม่ได้ ลูกไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะอยู่บ้านไม่เคยเป็น ซึ่งแน่นอน เด็ก บางคน มีบุคลิกเฉพาะตัว (ท่านสามารถ สัมผัสได้ด้วยตัวท่านเอง)
ผมเห็นมีบางที่รวมไปถึงของผมที่ท่านผู้ปกครองสามารถดูได้เลยว่าในห้องน้องเป็นอย่างไร ตั้งใจเรียนไหม มีวงจรปิดให้ดู ส่วนของผม
ถ้าในห้องใครไม่ตั้งใจ ผมก็เรียกชื่ออยู่แบบนั้น ใครเล่น
หรือก่อกวนเพื่อนในห้อง ก็จะดุในห้อง แล้วลงในวีดีโอเลย
เพื่อให้ท่านทราบ รวมไปถึง ท่านก็เห็นด้วยว่า ในห้องผมสอนน้องแล้ว
เป็นอย่างไร ตัวท่านฟังเข้าใจไหม
ข้อดีอีกข้อ คือ สามารถเอาไว้ให้น้องได้ทบทวนในช่วงเวลาที่เรียน ได้ด้วย เพราะผมมองว่า น้องนั่งเรียนในห้องอย่างเดียว จำไม่ได้หมดหรอกครับ
เด็กต้องเกิดการทบทวน ผมเลยจัดการไว้ให้เรียบร้อย เพื่อท่านจะได้ไม่ต้องเดินทาง มาทบทวนที่สถาบัน หรือ มาจอง คอมพิวเตอร์เพื่อ ทบทวน
เชื่อไหมว่าสิ่งที่ท่านไม่เคยรู้อีกอย่างคือผลการประเมิน ที่แท้จริง
ผมเจอมาแล้ว ขออธิบายแบบนี้ แยกเป็น 2 เคส
เคส แรก ในห้อง ผมอยู่หน้าห้อง มองไปจะเห็นว่าใครลอก หรือ แอบชะเง้อดูเพื่อน ซึ่งผมก็จะเรียก และ บอกว่าลองคิดดูเองนะครับ อย่าลอกกัน
แต่ก็ยังมีลอกเพื่อให้ได้คะแนน เพราะอะไร สิ่งที่ผมคิดคือ
1.เพราะกลัวได้คะแนนน้อย
2. เพราะกลัวทางบ้านว่าเอา ว่าไม่ตั้งใจเรียน
ต้องบอกก่อนว่า คะแนนที่ผมเทส เพื่อที่จะได้รู้ว่า น้องไม่ได้จุดไหน
ไม่ได้ตรงไหน ก็จะได้แนะนำ ผปค. ได้ถูก ถ้าท่านยอมรับฟังผม แล้วเราหาทางออกร่วมกัน คะแนน น้องจะดีขึ้น
อีกเคส คือ เรียนผ่าน Live ให้ตอบคำถามในห้อง live ผลคือ บางคนลอกคำตอบเพื่อนแล้วก็พิมพ์ส่งมาโดยที่ตัวเองไม่รู้วิธีทำ รู้แต่ได้คะแนน ผมเลยเปลี่ยนวิธี ให้ส่งผ่านไลน์ (เพียงเพราะความระแวงของผม) แต่ก็เป็นผลครับ เพราะคนที่ทำด้วยตัวเอง ก็ยังคงทำได้ ปกติ ส่วนคนที่ทำไม่ได้ ก็จะเห็นขึ้นมาเลยว่าก่อนหน้านี้ ใครลอกคำตอบเพื่อน
สิ่งที่ทำบางคนอาจจะมองว่าเป็นการชี้จุดอ่อนไปที่ตัวเด็กให้คนอื่นเห็น แต่สำหรับผม ผมมองว่าเด็กเขาจะเห็นจุดอ่อนของตัวเขาเอง สิ่งที่ผมต้องการคือให้ท่านต่างหากได้เห็น ว่าควรแก้ปัญหาให้เด็กอย่างไร เพราะเขายังแยู่ในวัยที่แก้ปัญหาบางเรื่องด้วยตัวเองไม่ได้ ดังนั้น ถ้าท่านอยากแก้ปัญหาเขา ท่านต้องคุยกับผม เพราะผมสอนเขา ผมเห็นทุกอย่างในห้อง
ใครทำมาก่อน ใครเอาของเก่ามาดู ใครเปิดดูของที่เคยทำแล้ว ผมรู้หมด ที่ผมยังไม่บอกท่าน เพราะผมบอกน้องก่อน ผมอยากให้เขา แก้ไข ที่ตัวเองก่อน ถ้ายังไม่เห็นผล ผมก็บอกท่าน แต่ท่านจะต้องไม่ไปดุ หรือตำหนิเขา เราต้องจับมือคุยกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ถ้าท่านกำลังส่งลูกเรียนพิเศษอยู่แล้วตรวจสอบอะไรไม่ได้ เชคอะไรไม่ได้ เชคได้เพียงจ่กคำพูด ว่าน้องเรียนรู้เรื่อง หรือไม่รู้เรื่อง ผมว่าท่านพลาดละ
เพราะปัจจุบัน เทค โนโลยี มันไปไกลเกินกว่าที่จะมารับรู้เพราะคำบอกกล่าว
เด็กเขาต้องการคนที่จับมือแล้วเดินไปด้วยกัน ไม่ได้ต้องการคนฉุดกระฉาก ลาก ถู ไป ดังนั้น เรามาช่วยให้เด็กในวัย 7 - 12 ปี เขาผ่านจุดไปแบบ แข็งแรงกันดีกว่าครับ
สังคมปัจจุบัน มันแข่งขันกันสูง และ รุนแรงอยู่แล้ว
อย่าให้เขาเดินแข่งขันแบบผิดวิธี อีกเลย
กราบขอบพระคุณครับที่อ่านจนจบ
ด้วยรักและห่วงเด็กๆทุกคน
ครูต้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
