สหรัฐอเมริกากำลังเล่นกับไฟอีกครั้ง เมื่อมหาวิทยาลัยบอสตัน( Boston University)ได้เปลี่ยนสายพันธุ์ไวรัสโคโรน่าใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมโดยมีอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 80%
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
สำหรับมุกนี้ คนอเมริกันต้องการอะไร?
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
คำเตือน... ใครนิยมอ่านแค่ 8 บรรทัดกรุณาหยุดแค่บรรทัดนี้ แล้วผ่านไปอ่านบทความอื่นๆแทนนะขอรับ..
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ปู่ไบเดนเปลี่ยนใจแล้วล่ะหรือ???
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เกี่ยวกับทัศนคติล่าสุดของไบเดนที่มีต่อโคโรนาใหม่ ซึ่งมันกลับได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างยอดเยี่ยม
ตอนประกาศการสิ้นสุดของการระบาดใหญ่เมื่อเดือนที่แล้ว และเมื่อไม่นานนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ขยายเวลาออกไปอีก 90 วัน
แน่นอนว่ามีข้อควรพิจารณาด้านงบประมาณมากมายที่นั่น แต่ก็เป็นสถานการณ์ที่แปลกมากสำหรับสหรัฐอเมริกา
วันนี้ British Daily Mail และ Fox News ในสหรัฐอเมริกาได้รายงานข่าวที่น่าสะพรึงกลัว
มหาวิทยาลัยบอสตันในสหรัฐอเมริกาได้สร้างไวรัสตัวใหม่ที่มี "อัตราการเสียชีวิต 80%" โดยการตัดต่อยีนส์
จากนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้นำไวรัสตัวใหม่ใส่เข้าไปติดในหนูทดลอง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
หลังจากนั้นไม่นาน ไวรัสผสมชนิดใหม่ได้ฆ่าหนูไปถึง 80% !!!
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ในขณะที่สายพันธุ์ Omicron ธรรมดาเป็นกลุ่มควบคุม หลังจากที่ติดในหนูแล้ว สายพันธุ์ Omicron ธรรมดา(กลุ่มควบคุม)กลับไม่มีหนูตัวใดตาย!!!
ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสายพันธุ์ไฮบริดใหม่ทำให้เกิดโรคและเป็นอันตรายถึงชีวิตมากกว่าสายพันธุ์เดิมของ Omicron
ลองนึกภาพว่าตัวแปร Omicron นี้ที่มีกำลังระบาดเต็มที่ทำให้เกิดโรคและอันตรายร้ายแรง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เป็นเพียง "ไวรัสวันโลกาวินาศ" ที่สมบูรณ์แบบ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ซึ่งสร้างไวรัสที่อันตรายเช่นนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ตอนนี้คุณกำลังเล่นกับไฟอยู่หรือเปล่า?
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
การติดเชื้อที่ทวีความรุนแรงขึ้น แล้วจึงเพิ่มเป็นความตาย
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เหมือนกับว่า มหาวิทยาลัยบอสตันกำลังเล่น Plague Inc. (Plague Inc. เป็นวิดีโอเกมจำลองกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ พัฒนาและเผยแพร่โดย Ndemic Creations สตูดิโอวิดีโอเกมอิสระในสหราชอาณาจักร เกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Contagion และเกมแฟลชปี 2008 ชื่อ 'Pandemic 2' ผู้เล่นสร้างและพัฒนาเชื้อโรคเพื่อทำลายล้างประชากรมนุษย์ด้วยโรคระบาดร้ายแรง) อยู่หรือไม่?
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
การทดลองของสหรัฐอเมริกาที่กำลังเล่นกับไฟ (Fireplayer)
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ขณะนี้ Boston University ถูกประณามไปทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์หลายคนกล่าวหาว่ามหาวิทยาลัยบอสตันเล่นอยู่กับไฟ
และเมื่อกล่องแพนโดร่านี้ถูกเปิดออก ก็มีแนวโน้มว่าจะมีผลลัพธ์ที่ย้อนกลับไม่ได้
แน่นอนนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกประณามการทดลองที่มีความเสี่ยงของมหาวิทยาลัยบอสตัน
และศาสตราจารย์ Shmuel Shapira หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอิสราเอล แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการศึกษานี้ว่า "มันควรจะถูกกำจัด(อย่างสมบูรณ์) ชาวอเมริกันกำลังเล่นกับไฟ"
ห้องปฏิบัติการโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติของมหาวิทยาลัยบอสตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการไวรัสระดับ 4 ในจำนวน 13 แห่งในสหรัฐอเมริกา
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
สร้างไวรัสที่อาจก่อให้เกิดหายนะที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
แต่การวิจัยของมหาวิทยาลัยบอสตันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงลำพัง
ชาวอเมริกันไม่เพียงแต่ทดลองกับสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายในประเทศของตนเองเท่านั้น
พวกเขายังได้สร้างห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาทั่วโลก รวมถึงห้องปฏิบัติการมากกว่า 300 แห่งใน 30 ประเทศทั่วโลก
ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา มีการทดลองเล่นไฟที่คล้ายกันหลายครั้ง และแม้แต่การทดลองก็กระทำโดยตรงกับพลเมืองของตนเอง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ผมขอพาทุกท่านย้อนไปในปี 2493 กองทัพเรือสหรัฐฯ เคยได้ทำการทดลอง "ละอองน้ำจากทะเล (Operation Ocean Droplets)"ที่น่าอับอาย มาแล้ว....
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ครั้งนั้น ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 27 กันยายน พ.ศ. 2493 กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ปล่อยเชื้อโรคที่ชื่อ Serratia marcescens และ Bacillus atrophaeus นอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ใช้เพื่อทดสอบความเร็วที่เชื้อโรคแพร่กระจายในกลุ่มประชากร
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งเรือกวาดทุ่นระเบิดไปยังบริเวณเหนือลมของบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก
เพื่อปล่อยหมอกพิษจำนวนหลายหมื่นแกลลอนผสมกับ "Serratia marcescens" ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วเมืองซานฟรานซิสโกได้สำเร็จในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว
จากข้อมูลจากจุดสุ่มตัวอย่าง 43 จุดที่กำหนดโดยกองทัพสหรัฐฯ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ในเขตเมือง ผู้คนในท้องถิ่นสูดดมฝุ่นที่เป็นพาหะของแบคทีเรียมากกว่า 5,000 ตัวต่อนาที
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ในปี พ.ศ. 2499 และ พ.ศ. 2500 กองทัพสหรัฐก็ได้ปล่อยยุงอีกหลายล้านตัวที่มีไข้เหลืองและไข้เลือดออกในเมืองสะวันนาและเอวอนพาร์ค รัฐฟลอริดา
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เพื่อทดสอบการแพร่กระจายของโรคทั้งสองในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เพื่อทดสอบความเร็วของการแพร่กระจายของอาวุธชีวภาพ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2508 กองทัพสหรัฐฯ ได้แอบปล่อย Bacillus atrophicus ที่สนามบินแห่งชาติวอชิงตันและสถานีขนส่ง Greyhound ในการโจมตีจำลอง
ซึ่งแพร่กระจายไปยัง 39 เมืองใน 7 รัฐภายในสองสัปดาห์
ในปี 2509 กองทัพสหรัฐฯ ได้แพร่เชื้อ Bacillus subtilis บนรางรถไฟไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Midtown ในแมนฮัตตัน
เพื่อทดสอบความเร็วของการแพร่กระจายสู่สาธารณะ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ซึ่ง Operation Ocean Droplets นี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เนื่องจากการได้รับข่าวลือ ซึ่งฐานทัพน่าจะทำการทดลองที่ส่วนปลายของธารน้ำแข็งและอาจมีการทดลองลับเพิ่มเติมที่ผมไม่อาจทราบได้
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับชาวอเมริกันผิวขาว และยิ่งกว่านั้นมีความเลวระยำสำหรับชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช่ชาติพันธุ์ของเขาเองอีกด้วย...
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เช่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ชายผิวดำที่ติดเชื้อซิฟิลิส 399 คนในสหรัฐอเมริกา และชายผิวดำ 201 คนที่ไม่เคยเป็นซิฟิลิส กลายเป็น "กลุ่มทดลอง" โดยไม่รู้ตัว
โดยหน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาได้ทำการทดลองในมนุษย์เพื่อทดสอบการพัฒนาเชื้อซิฟิลิส
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
โดยไม่ได้ให้การรักษาเป็นเวลานานถึง 40 ปี
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ครั้งนั้น กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาได้ร่วมมือกับ "Tuskegee College" ใน Alabama ตั้งแต่ปี 2475 โดยใช้ชาวแอฟริกันอเมริกันหลายร้อยคนเป็นหนูทดลอง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เพื่อศึกษาอันตรายของซิฟิลิสต่อร่างกายมนุษย์อย่างลับๆ จึงเรียกว่าโครงการ Tuskegee Experiment
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
จากปี 2515 สิ้นสุดการทดลองในปี 2559 มีเพียง 74 รายที่ยังมีชีวิตอยู่ จากผู้ป่วยเดิม 399 ราย มีผู้ป่วยโรคซิฟิลิส 29 รายเสียชีวิตจากโรคซิฟิลิส 100 ราย เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนจากโรคซิฟิลิส 100 ราย
มีภรรยาที่ติดเชื้อซิฟิลิส 40 ราย และผู้ป่วย 19 รายมีลูกที่เกิดพร้อมโรคซิฟิลิส เป็นเวลาสี่สิบปีที่การทดลองนี้ยังคงเผยแพร่รายงานการวิจัยในวารสารภาคสนามที่เกี่ยวข้อง
มีรายงานมหาวิทยาลัยบอสตัน ว่ามีห้องปฏิบัติการของอเมริกันจำนวนมากและการทดลองเชื้อก่อโรคที่ไม่เปิดเผยในยูเครน เป็นไปได้ว่าห้องทดลองนี้หลายคนเถียงผมว่ายังไม่ได้รับรายงาน...
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
จาก Operation Ocean Droplets สู่ Aftertaste Pandora's Box
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ไวรัสวันโลกาวินาศที่สมบูรณ์แบบได้ถูกสร้างขึ้น เกม(เห้)ใหญ่ครั้งนี้พวกเขาต้องการอะไร?
การติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5 เท่าและอัตราการเสียชีวิต 80%!
งานนี้อัตราการเสียชีวิตทำสถิติใหม่
แม้อันตรายของเชื้อดั้งเดืมค่อยๆ ลดลง และโลกเริ่มหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกับไวรัส
นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยบอสตันในสหรัฐอเมริกาก็ถูกประณามเนื่องจากสร้างสายพันธุ์ใหม่ของ coronavirus ที่อันตรายกว่าเดิมในห้องปฏิบัติการ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
พวกเขา "เล่นกับไฟ"จริงๆ!
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันกล่าวว่าพวกเขาได้พัฒนาสายพันธุ์ใหม่ของ coronavirus
ที่รวมตัวแปร Omicron ที่โดดเด่นในปัจจุบันกับสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ค้นพบครั้งแรกในประเทศจีนในปลายปี 2562
หลังจากการทดลองที่คล้ายคลึงกัน สายพันธุ์นี้ติดเชื้อง่ายมากกว่า Omicron ถึงห้าเท่าและมีอัตรากรเสียชีวิต 80% !
ในการศึกษาใหม่ที่ไม่มีการตรวจสอบ ทีมนักวิจัยจากบอสตันและฟลอริดาได้สกัดโปรตีนสไปค์จากตัวแปรของ Omicron แนบไปกับสายพันธุ์ coronavirus ดั้งเดิมเมื่อเริ่มการระบาดและตั้งชื่อว่า
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
Omicron S ( โอไมครอน เอส)
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
และนักวิจัยได้ทดสอบสายพันธุ์ไฮบริดในหนูทดลองและเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ Ormicron
"ในหนูทดลอง ( K18-hACE2 )ในขณะที่ omicron ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงและไม่เป็นอันตราย ไวรัส omicron S ทำให้เกิดโรคร้ายแรงที่มีอัตราการเสียชีวิต 80%" พวกเขาเขียนไว้ในกระดาษของพวกเขา ."
ในกลุ่มที่สัมผัสกับสายพันธุ์ Ormicron เท่านั้น หนูทั้งหมดรอดชีวิตและมีอาการ "ไม่รุนแรง" เท่านั้น
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าในขณะที่โปรตีนขัดขวางมีส่วนต่อต้านวัคซีน การหลบหนีการติดเชื้อ การเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่น ๆ ของโครงสร้างของมัน และกำหนดอัตราการตายของมัน นักวิจัยกล่าว
โปรตีนขัดขวางเป็นโครงสร้างพิเศษที่ยึดเกาะและบุกรุกเซลล์ของมนุษย์ และสั่งให้เซลล์ปกติ(ที่มีสุขภาพดี)สร้างสำเนาของไวรัส
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ไวรัสมันจะพัฒนาไปตามกาลเวลา
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
Omicron มีการกลายพันธุ์หลายสิบครั้งในโปรตีนขัดขวาง ทำให้เป็นสายพันธุ์ที่ติดเชื้อและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของ coronavirus ใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าถ้า Omicron S แพร่เชื้อสู่มนุษย์ ก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เช่นเดียวกับในหนูทดลอง(ที่ 80 % เนี่ยนะ)
พวกเขาอธิบายว่าระบบภูมิคุ้มกันของหนูและมนุษย์แตกต่างกันมาก และในปัจจุบันยังไม่มีแบบจำลองใดที่จำลองทุกแง่มุมของมนุษย์
นอกจากนี้ การศึกษายังใช้หนูแค่บางสายพันธุ์ ไม่ใช่หนูที่คล้ายกับมนุษย์ ซึ่งพวกมันได้รับการพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อสังเกตอาการของ COVID-19 ที่รุนแรงเท่านั้น
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ดังนั้นจึงมีความไวต่อการติดเชื้อสูง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ดังที่กล่าวไว้ นักวิจัยยังยอมรับด้วยว่าเมื่อพวกเขาติดเชื้อเซลล์ปอดของมนุษย์ด้วยตัวแปร Omicron S พวกเขาพบว่า
มีการติดเชื้อมากกว่า Omicron เก่าถึงห้าเท่า
ห้องปฏิบัติการแห่งชาติสำหรับโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ของมหาวิทยาลัยบอสตันเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการ BSL-4
หนึ่งใน13 แห่งในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับอนุญาตให้จัดการกับเชื้อโรคที่อันตรายที่สุด
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
BSL-4 หมายถึงห้องปฏิบัติการระดับความปลอดภัยทางชีวภาพระดับสูงสุด
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
การทดลองในห้องปฏิบัติการเหล่านี้จะสะสมและสร้างไวรัสเพื่อพัฒนาการรักษาและวัคซีนที่สามารถนำมาใช้ในการระบาดในอนาคต
ห้องปฏิบัติการระดับ 4 ของ CDC ในแอตแลนต้าเป็นหนึ่งในสองแห่งในโลกที่มีการเก็บไวรัสไข้ทรพิษที่มีชีวิต
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
อีกห้องหนึ่งอยู่ในรัสเซีย ที่เก็บไข้ทรพิษ ที่ได้รับการประกาศให้กำจัดให้หมดไปทั่วโลกในปี 2523
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้หยุดการปรับเปลี่ยนไวรัส(ตามหน้าที่)ระหว่างปี 2557 ถึง 2560 เนื่องจากความกังวลว่าอาจนำไปสู่การระบาดโดยไม่ได้ตั้งใจ
จนกระทั่งปี 2560 นั่นเองสถาบันสุขภาพแห่งชาติแห่งนี้เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง โดยให้ทุนรัฐบาลสำหรับการวิจัยเชิงหน้าที่
ส่วนการตีพิมพ์ผลการศึกษาได้รับความสนใจและการประณามอย่างมากจากประชาคมระหว่างประเทศในทันทีเช่นกัน...
"สิ่งนี้ควรถูกห้ามโดยสิ้นเชิง" ศาสตราจารย์ Shmuel Shapira หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอิสราเอลกล่าว
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
"มันกำลังเล่นกับไฟ"
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ส่วนดร. Richard Ebright นักเคมีจาก Rutgers University ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งกังวลว่าห้องปฏิบัติการสามารถผลิตเพิ่มได้
อะไรนะ เอาจริงดิ.... โหดสัสไปไหมพวก
คำถามคือ คุณจะทำอย่างไรกับห้องแล็บดังกล่าว ถ้าสำหรับวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ คุณก็ต้องใช้ แต่ผมไม่คิดว่าทุกประเทศมี BSL-4
เขากล่าวเสริมว่า “หากพวกเขาเริ่มทำการวิจัยโดยมีความหมายทางทหารเชิงรุกเพื่อจุดประสงค์ นั่นเป็นสิ่งที่ต้องกังวล”
หากพูดถึง BSL-4 นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 มีการสร้างหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 3 หรือ 4 มากกว่า 40 แห่ง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
โดยส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
หลายประเทศเชื่อว่าพวกเขาถูกบังคับโดยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และต้องการนำหน้าการระบาดครั้งใหญ่ครั้งต่อไปด้วยการศึกษาเชื้อก่อโรคที่คุกคามมนุษยชาติ
รัสเซียได้เสนอห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพ 15 แห่งในระดับสูงสุด และอินเดียตั้งเป้าที่จะสร้างห้องปฏิบัติการระดับ 3 และ 4 ทั้งหมด 18 แห่ง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการ BSL-4 63 แห่งทั่วโลก สามในสี่ตั้งอยู่ในเขตเมือง ย้ำนะครับ ตั้งอยู่ในเขตเมือง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
แน่นอนมีความกังวลอย่างกว้างขวางว่าการทดลองเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของการระบาด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเป็นกรณีของ Covid-19
Covid-19 มีมานานกว่า 2 ปีแล้ว และยังไม่มีข้อสรุปว่าโรคระบาดเริ่มต้นที่ใด
การศึกษาล่าสุดนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจอีกว่า
ไวรัสถูกจัดการโดยเจตนาเพื่อให้แพร่เชื้อหรือ เป็นอันตรายถึงชีวิตมากขึ้น
ส่วนทางนักวิจัยก็(แถ)หักล้างบทความในสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับสายพันธุ์ COVID
ห้องปฏิบัติการโรคติดเชื้อแห่งชาติของมหาวิทยาลัยบอสตัน (NEIDL) ภาพถ่ายโดยมหาวิทยาลัยบอสตัน
โดยนักวิจัยของ NEIDL ด้านสาธารณสุขหักล้างบทความของสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับการตอบสนองของ COVID-19
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
สำหรับมหาวิทยาลัยบอสตัน (BU) พวกเขา เรียกรายงาน "เท็จและไม่ถูกต้อง"
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
และกล่าวว่ามันบิดเบือนความจริงในการค้นพบที่แท้จริงของนักวิจัย
มหาวิทยาลัยบอสตันกำลังหักล้างข้อเรียกร้องเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการโรคติดเชื้ออุบัติใหม่แห่งชาติของมหาวิทยาลัย (NEIDL)
คำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดจากการวิจัย
รายงานซึ่งปรากฏครั้งแรกใน Daily Mail ของสหราชอาณาจักรเมื่อวันจันทร์ อ้างว่านักวิจัยในห้องแล็บ "สร้างสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโควิด-19 ที่อันตรายถึงชีวิต"
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ในแถลงการณ์เมื่อบ่ายวันจันทร์ BU เรียกรายงานนี้ว่า "เท็จและไม่ถูกต้อง" ซึ่งถูกระดมรายงานโดยสื่ออื่น ๆ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
รวมถึง Fox News ที่กล่าวว่า "การศึกษานี้ช่วยลดความเสี่ยงของการจำลองแบบของไวรัส"
มหาวิทยาลัยยังตั้งข้อสังเกตว่าการศึกษาดังกล่าวเป็น ทบทวนและอนุมัติโดยคณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพของสถาบัน (Institutional Biosafety Committee - IBC)
ซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์และสมาชิกในชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งจากคณะกรรมการสาธารณสุขบอสตัน
และเพื่อเป้าหมาย Ronald B. Corley ผู้อำนวยการ NEIDL และประธานด้านจุลชีววิทยาของ BU และ Chobanian & Avedisian School of Medicine กล่าวถึงรายงานข่าวว่า "พวกเขาได้ให้ข้อมูลเกินจริงและบิดเบือนความจริงของการศึกษานี้"
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
การศึกษาได้กำหนดขึ้นเพื่อตรวจสอบว่า SARS-CoV-2 (Omicron) มีการเปลี่ยนแปลงโปรตีนสไปค์ (BA.1)
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
นักวิจัยมีความสนใจในการเปรียบเทียบตัวแปรกับสายพันธุ์ไวรัสดั้งเดิมที่เรียกว่าสายพันธุ์วอชิงตัน
Corley กล่าวว่าพวกเขาต้องการทราบว่าไวรัสมีความรุนแรงน้อยกว่าจริงหรือไม่ "เพียงเพราะมันติดเชื้อในเซลล์ที่แตกต่างจากสายพันธุ์เดิม"
พวกเขา "สนใจว่าส่วนใดของไวรัสที่กำหนดความรุนแรงของการเจ็บป่วยของบุคคล"
แต่ Corley กล่าวว่ารายงานข่าวถูกนำออกจากบริบทจากบทคัดย่อ โดยหนังสือพิมพ์ Daily Mail ที่เสนอในพาดหัวว่านักวิจัยได้สร้าง "สายพันธุ์ที่ร้ายแรงของ Covid ที่มีอัตราการเสียชีวิต 80%"
บทความนี้ยังกล่าวต่อไปอีกว่ามีการกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดหลายอย่าง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
รวมทั้งการศึกษานี้เป็น "การศึกษาความสามารถในการใช้ประโยชน์ได้"
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ส่วนการอ้างว่านักวิจัยมุ่งมั่นที่จะสร้างไวรัสที่อันตรายมากขึ้นน่ะ มันไม่จริ๊งงงงไม่จริง Coley กล่าวถ้อยแถลงของมหาวิทยาลัยที่ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างรุนแรง
“เราต้องการแก้ไขการรายงานที่เป็นเท็จและไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยบอสตันที่ปรากฏในเดลี่เมล์ในวันนี้”
คำแถลงของ BU กล่าวว่า “ประการแรก การศึกษานี้ไม่ใช่การศึกษาเกี่ยวกับการทำงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่า สายพันธุ์ SARS-CoV-2 ในรัฐวอชิงตันไม่ได้ถูกขยายหรือทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น อันที่จริง การศึกษานี้ช่วยลดความเสี่ยงของการจำลองแบบของไวรัส"
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
Coley กล่าวว่าเส้นทางพัฒนาที่นำออกจากบริบทไม่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของไวรัสที่เกี่ยวกับมนุษย์
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
การศึกษาเริ่มต้นด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อแล้วย้ายไปใช้แบบจำลองในสัตว์ก็เท่านั้น
Coley กล่าวว่า "แบบจำลองสัตว์ที่ใช้เป็นหนูชนิดพิเศษที่มีความไวสูงและ 80 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ของหนูที่ติดเชื้อจะมีแน้วโน้มตายจากโรคนี้จากสายพันธุ์เดิม(ที่เรียกว่าสายพันธุ์วอชิงตัน และ Omicron ทำให้เกิดโรคที่ไม่รุนแรงในสัตว์เหล่านี้"
ส่วนตัวเลข 80 เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นจุดสนใจของการรายงานข่าวโดยสื่อบิดเบือนการศึกษาและเป้าหมายจริงๆ
"นี่เป็นคำแถลงที่นำออกจากบริบทเพื่อจุดประสงค์ในการทําคอนเทนต์ที่น่าตื่นเต้น และไม่เพียง แต่บิดเบือนสิ่งที่ค้นพบเท่านั้น แต่ยังบิดเบือนจุดประสงค์ของการศึกษาอีกด้วย"
ในความเป็นจริงตามคำแถลงของ BU "การศึกษาครั้งนี้ สะท้อนและตอกย้ำข้อค้นพบของการศึกษาที่คล้ายคลึงกันอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยองค์กรอื่น ๆ รวมถึง FDA" ต่างหาก
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยหนึ่งในผู้ตรวจสอบหลัก(ของการศึกษา)คือ Mohsan Saeed นักวิจัยของ NEIDL
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
Saeed ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านชีวเคมีของ BU Chobanian & Avedisian School of Medicine กล่าวว่า "สอดคล้องกับการศึกษาที่ตีพิมพ์โดยคนอื่น ๆ งานนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่โปรตีนขัดขวาง
แต่เป็นโปรตีนไวรัสอื่น ๆ ที่ผลักดันให้เกิดโรคของ Omicron การกำหนดโปรตีนเหล่านี้จะนำไปสู่กลยุทธ์การวินิจฉัยและการจัดการโรคที่ดีขึ้น"
เปิดโครงการในปี 2552 ด้วยขั้นตอนด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด
NEIDL ได้อนุญาตให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาโรคติดเชื้อและเชื้อโรคต่างๆในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการคุ้มครอง
ห้องปฏิบัติการอยู่ภายใต้ขั้นตอนความปลอดภัยที่เข้มงวด
Robert Davey ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาของ BU Chobanian & Avedisian School of Medicine แห่ง NEIDL ระบุว่า
ก่อนที่นักวิจัยจะเริ่มศึกษาโรคหรือเชื้อโรค ข้อเสนอของพวกเขาจะต้องผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
“ก่อนที่จะมีการดำเนินการใดๆ ใน NEIDL จะต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างรอบคอบหลายชั้น ซึ่งทำผ่านคณะกรรมการในเครือมหาวิทยาลัยบอสตัน และคณะกรรมการอิสระของ BU
เช่น คณะกรรมการสาธารณสุขบอสตัน” David กล่าว
เรามีอิสระเต็มที่ในการพิจารณาทุกอย่างที่กำลังจะทำ คุณไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติและตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง
และงานนั้นสามารถทำได้ภายใต้การดูแลของทีมอนามัยและความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมของ BU เท่านั้น
แม้ในการวิจัยได้ดำเนินการในห้องปฏิบัติการ Biosafety Level 3-4 การศึกษาทั้งหมดดำเนินการในตู้ความปลอดภัยทางชีวภาพ และนักวิจัยต้องเข้าไปในพื้นที่ทำงานผ่านประตูที่เชื่อมต่อกันหลายชุด
พื้นและผนังทั้งหมดเป็นแบบสุญญากาศ และห้องปฏิบัติการมีเทคโนโลยีการกรองและการทำให้อากาศบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
หากนักวิจัยพบว่ามีสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาในระหว่างการศึกษา สามารถให้ปิดห้องปฏิบัติการทันทีและรายงานตามลำดับ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
“เราจริงจังกับความปลอดภัยในการจัดการกับเชื้อโรค โดยที่ไวรัสจะไม่ออกจากห้องแล็บที่มีการศึกษา” Coley กล่าว
"เป้าหมายทั้งหมดของเราคือเพื่อสุขภาพของประชาชน งานวิจัยชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งในการค้นหาว่าส่วนใดของไวรัสที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคร้ายแรง หากเราเข้าใจสิ่งนี้ เราก็สามารถพัฒนาวิธีพัฒนาการรักษาที่ดีขึ้นได้"
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ในที่สุด งานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ถถถถถถถถถถ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ตามคำแถลงของมหาวิทยาลัยทั้งหมดทั้งมวล
"เพื่อช่วยต่อสู้กับโรคระบาดในอนาคต
โดยนำไปสู่การแทรกแซงการรักษาที่ดีขึ้น
และตรงต่อเป้าหมาย" จริงจริ๊งงงง
- 16
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
