ในช่วงนี้ที่เศรษฐกิจโลกเริ่มปั่นป่วน ค่าเงินบาทแข็งตัว สงครามระหว่าง 2 ประเทศ และความตึงเครียดทั่วโลก รวมไปถึงโรคระบาดที่ยังคงอยู่ หลายๆอย่างที่กล่าวมา เป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนในการชี้วัดเศรษฐกิจโดยรวม แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงสวนกระแส และมีทีท่าว่าจะมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องคือผลงาน #NFT จากศิลปินดังต่างๆที่ยังคงได้รับความนิยมชมชอบและเป็นที่สนใจของนักสะสมและนักลงทุนมากหน้าหลายตา
แม้ว่าสภาวะตลาด “ NFT ” ยังคงซบเซาจากปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอย่างมากในตลาดหลักทั้งหมด
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ล่าสุดผลงาน “ NFT ”จากคอลเล็กชั่น “ BAYC ” ที่เป็นรูปลิงสีทองนั้น
สามารถขายออกไปได้ในราคาที่สูงถึง 777 ETH ซึ่งหากตีเป็นเงินบาทแล้วละก็ผู้ขายผลงานนี้ได้รับ
กำไรไปกว่า 40 ล้านบาท แน่นอนว่าการซื้อครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า “ ทำไมถึงซื้อผลงานราคาแพงขนาดนี้ ? ”
นักลงทุนนาม “ Vis.eth ” กล่าวว่าที่เขาต้องการซื้อ“ NFT ” ชิ้นนี้เพราะต้องการเก็บรวบรวมลิงที่มี
ขนสีทอง (ถือว่าหายากในหมู่ NFT) ไว้ในคอลเล็กชั่นซึ่งจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือของ “ CryptoSlam ”
ได้บอกเอาไว้ว่า “ Bored Ape #5383 ” ผลงานชิ้นนี้เป็น “ NFT ” ที่หายากที่สุดติดอันดับที่ 285
ที่อยู่ในคอลเล็กชั่นที่มีจำนวนกว่า 10,000 ตัว
สิ่งหนึ่งที่เราต้องรู้และเข้าใจกันเป็นอย่างแรกในการที่จะซื้อผลงาน “ NFT ” ก็คือต้องเข้าใจเรื่องของกรรมสิทธิ์ ก็คือเมื่อเราซื้อผลงานมาแล้ว ถ้าวันนึงเจ้าของอยากได้เงินอีกก็อาจจะนำรูปไปทำ “ NFT ”
มาขายอีกครั้งก็ได้ ถึงกระนั้นเราอาจจะเคยเห็นมาบ้างว่าผลงงานศิลปะ“ NFT ” บางชิ้นเมื่อขายออกแล้ว ศิลปินจะทำลายของจริงทิ้งไปเลย เพื่อให้คนซื้อมั่นใจได้ว่า “ NFT ”ชิ้นนี้จะเป็นเพียงชิ้นเดียวที่มี และไม่มีการทำซ้ำอีก
พอแบบนี้แล้วหลายๆคนอาจสงสัยว่า แล้วเราจะซื้อไปทำไม ?
ในเมื่อซื้อมาแล้วก็อาจไม่ได้เป็นเจ้าของ 100% มันคุ้มค่ารึเปล่า ?
อันที่จริงต้องตอบบอกแบบนี้ครับ ผลงาน “ NFT ” ก็เหมือนสิ่งของที่เราชื่นชอบหรือศิลปินที่เราเป็นแฟนคลับ เราอาจไม่ได้สนใจว่ามันมีกี่ชิ้นกี่เซ็ท หรือราคาเท่าไหร่ อาจจะแพง หรือไม่แพง แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือเราได้อุดหนุนคนสร้างงาน ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งการที่เราจะเลือกผลงาน “ NFT ” ซักชิ้นแน่นอนว่าเราอาจจะชอบ อาจจะสนใจในผลงาน สนใจในตัวศิลปิน ต้องการที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ศิลปินสามารถมีกำลังใจและมีรายได้ในการพัฒนาและผลิตผลงานใหม่ๆออกมาให้เราได้สะสม
โดยการทำแบบนี้ทำให้รายได้นั้นไม่ต้องผ่านคนกลางให้วุ่นวายหรือโดนหักค่านั่นค่านี่ แต่รายได้ทั้งหมดคือศิลปินจะได้รับทั้งหมดจริงๆ หากมองในส่วนของการลงทุนก็อาจจะเป็นเรื่องรองลงไป
แต่ถ้าหากใครต้องการซื้อมาเพื่อการลงทุนก็ทำได้เช่นกัน หรือหากเพียงแค่ต้องการสะสมผลงานก็ทำได้ มันไม่มีผิดถูกอย่างแน่นอน เพราะมันขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคลว่า เราต้องการมีผลงาน “ NFT ” เพื่อจุดประสงค์อะไร ? หมุดหมายสำคัญคือทุกสิ่งบนโลกหรือผลงานทุกชิ้นมักมีคุณค่าและราคาในตัวของมันเองครับ อยู่ที่แต่ละคนจะมีมุมมองเรื่องนี้ยังไงครับ
PS.บทความนี้ไม่ได้เป็นบทความการชี้นำด้านการลงทุนใดๆทั้งสิ้น
📌#DOTWORLD เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการยกระดับและพัฒนาธุรกิจสู่โลกเสมือนจริงให้มีศักยภาพในทุกๆด้าน เพื่อการเติบโตไปพร้อมกับ “ Bussiness Transformation ” บนพื้นที่แพลตฟอร์มแห่งอนาคต
GRAB YOUR GOAL DRIVE YOUR WORLD
#Dotworld #Metaverse #เมตาเวิร์ส
📌Contact us
• Email: contact@dotworld.world
• Call: 0633345666
• Line: @dotworld https://lin.ee/0sGOrq5e
• Website: www.dotworld.world
• Telegram: https://t.me/+eM7xhWcpujZmMmU1
• Discord: https://discord.gg/AV9xmRh3
• Linkedin: www.linkedin.com/in/dot-world-012bb4231/
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
