ในส่วนของ EV นั้น เราไม่เกี่ยงที่มาของกระแสไฟฟ้าที่จะมาชาร์จมัน ซึ่งถ้าเราใช้ EV แต่ยังใช้พลังงานฟอสซิลปั่นไฟฟ้า มันก็เท่ากับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรายังพึ่งพาฟอสซิลมากเหมือนเดิม
และในรถแบบ EV นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ แบตเตอรี่แบบลิเธียม ซึ่งแน่นอนว่า หากมีการผลิตแบตเตอรี่พวกนี้มากๆ มันก็ต้องมีการใช้ทรัพยากรแร่ธาตุลิเธียมมากเช่นกัน ซึ่งมันอาจขาดแคลนได้ในอนาคต
และในส่วนของแบตเตอรี่แบบลิเธียมนั้น ในรถพลังงานไฮโดรเจนจะใช้น้อยกว่ามาก เพราะไม่ได้ต้องการเก็บไฟฟ้ามากมายเหมือนรถ EV เนื่องจากตัวเครื่องยนต์สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เองตลอดเวลา
ดังนั้นความต้องการลิเธียมเพื่อการนี้จึงต่ำกว่า EV มาก และด้วยความที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเก็บไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้มีทางเลือกอื่นในการทำแบตเตอรี่อีกมากกว่านั่นเอง มันจึงไม่ถูกผูกติดกับลิเธียมเหมือนอย่างรถ EV
อย่างสหรัฐ พวกเขามีน้ำมันมหาศาลในมือ การใช้น้ำมันปั่นไฟตรงๆมาขับเคลื่อน EV จึงประหยัดกว่ามาก แถมพวกเขายังมีเขื่อน โซลาร์ฟาร์ม รวมถึงโรงไฟฟ้านิเคลียร์อีก มันมากพอที่พวกเขาจะไม่กังวลอะไรเลยกับเรื่องการผลิตกระแสไฟฟ้า
...ซึ่งจีนก็ไม่ต่างกับสหรัฐ สำหรับเรื่องนี้ ดังนั้นแม้จะเป็นคนละขั้วทางการเมือง แต่พวกเขาเห็นตรงกันว่า EV นั้นดีกว่าสำหรับพวกเขา เขาจึงเลือก EV เป็นตัวเล่นหลัก