Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
dhamma Easy
•
ติดตาม
25 ต.ค. 2022 เวลา 03:04 • การศึกษา
หนทางที่ไม่ต้องเกิด
หนทางที่ไม่ต้องเกิด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสไว้ในพุทธคุณกถา "แต่ไหนแต่ไรมา ยังไม่มีใครบรรลุถึงที่สุดโลกด้วยการเดินทาง และเพราะยังบรรลุถึงที่สุดโลกไม่ได้ จึงไม่พ้นไปจากทุกข์เหตุนั้นแล คนมีปัญญาดี รู้แจ้งโลก ถึงที่สุดโลกแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว เป็นผู้สงบแล้ว จึงไม่หวังโลกนี้และโลกอื่น"
ก่อนสมัยพุทธกาล มนุษย์ทั้งหลายต่างพยายามแสวงหาที่สุดโลกว่าไปสุดที่ตรงไหน เหมือนอย่างนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ที่ต้องการรู้ว่าจักรวาลกว้างใหญ่เพียงใด จึงได้สร้างยานอวกาศไปสำรวจนอกโลกพยายามไปให้ไกลที่สุด เพื่อสำรวจว่านอกจากกาแล็กชี่ของเราแล้ว ยังมีที่อื่นอีกไหม ก็พบไปเรื่อยๆ ว่ามีอีกว่ายังไม่สิ้นสุด
ส่วนคนในสมัยก่อน แม้ไม่มียานอวกาศ แต่มีสิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่า นั่นคืออาศัยการฝึกสมาธิ ฝึกจิตให้ชำนาญจนเป็นวสี แล้วเข้าลหุสัญญา ทำกายเบาเท่ากับใจ ก็สามารถเหาะไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ ไปถึงโลกอื่นได้ ไปด้วยกายเนื้อนี่แหละ อาศัยฌานสมาบัติเป็นบาท
การไปด้วยวิธีนี้ มีความรวดเร็วมากกว่า ยานอวกาศหลายเท่า แล้วยังไปได้ไกลไม่มีประมาณอีกด้วย ทั้งไปได้เร็วและไกล แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถพบคำตอบที่สุดของโลกได้
ทำใจที่มีพลัง , เอาใจกลับมาไว้ในตัว
ในสมัยก่อนพุทธกาล ได้มีมาณพคนหนึ่งชื่อ "โรหิตัสสะ" อยากจะรู้ความเป็นจริงของโลกว่า ที่สุดของโลกหรือที่สุดของจักรวาลอยู่ที่ไหน เมื่อเรียนจบศิลปวิทยา ทั้ง ๑๘ สาขาแล้ว ก็พยายามศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง
โดยออกบวชเป็นฤๅษี ตั้งใจฝึกสมาธิอย่างจริงจัง จนสามารถทำฌานสมาบัติให้เกิดได้ เป็นฤๅษีที่มีฤทธิ์มีเดช สามารถเหาะเหินเดินอากาศไปได้ตามความปรารถา เวลาจะไปแสวงหาอาหารและผลไม้ ท่านก็จะเหาะไปยังป่าหิมพานต์ หรือไม่ก็เหาะข้ามไปยังอุตตรกุรุทวีป แล้วก็กลับมาบำเพ็ญภาวนาต่อในมนุษย์โลก
ท่านฝึกทำสมาธิจนใช้งานได้แคล่วคล่อง นึกอยากไปไหนก็ไปได้ทันที เมื่อมีฤทธานุภาพมากแล้วจึงตั้งใจว่าจะเดินทางไปให้สุดโลก ได้เข้าฌานสมาบัติแล้วเหาะไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดพักในระหว่างทาง มีปีติสุขอยู่ในฌานเป็นภักษาหาร ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย ไม่ต้องเสียเวลานอนหลับพักผ่อน
ท่านใช้เวลาเดินทางอยู่อย่างนั้น เป็นเวลานานถึง ๑๐๐ ปี จากจักรวาลหนึ่งไปยังอีกจักรวาลหนึ่ง ถึงแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ก็ยังไปไม่สุดลูกธนูที่นายขฆังธนูยิงออกจากแล่ง ว่ามีความเร็วปานใด ท่านยังมีความเร็วยิ่งกว่านั้นเป็นแสนเป็นล้านเท่า แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถไปให้สุดจักรวาลได้ต้องหมดอายุชัยลงในระหว่างทางนั่นเอง เมื่อสิ้นชีวิตแล้วได้ไปบังเกิดในโลกสวรรค์ เป็นโรหิตัสสเทพบุตร ผู้มีรัศมีกายสว่างไสว
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติขึ้นในโลก โรหิตัสสเทพบุตรได้ออกจากวิมาน มาถวายบังคมพระพุทธองค์ ซึ่งกำลังประทับอยู่ที่เชตวันมหาวิหาร ได้กราบทูลถามปัญหาที่ค้างคาใจมานานว่า ...
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มีสถานที่ใด ที่ไม่มีการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตายบ้างไหมหนอ ข้าพระองค์ได้เดินทางตลอดชีวิตเมื่อเป็นมหาฤๅษี แต่ต้องตายเสียในระหว่างทาง ยังไม่สามารถเดินทางให้พ้นจากโลก พ้นจากภพได้เลย แล้วจะมีมนุษย์ที่สามารถไปให้ถึงที่สุดโลกได้หรือเปล่า พระเจ้าข้า"
พระพุทธองค์ตรัสว่า "ท่านเทพบุตร ที่สุดโลกนั้น บุคคลไม่อาจไปได้ด้วยการเดินทางไกล ถ้าหากตถาคตยังไม่บรรลุถึงที่สุดของโลกแล้ว ก็จะไม่กล่าวถึงการกระทำที่สุดทุกข์ ก็แต่บัดนี้ ตถาคตบัญญัติโลก เหตุให้เกิดโลก การดับของโลก และทางที่ให้ถึงความดับโลก ว่ามีอยู่ในเรือนกาย ยาววา หนาคืบ กว้างศอก ที่มีใจครองนี้"
หยุดกับนิ่ง
จากนั้นพระพุทธองค์ ได้ทรงสอนวิธีการที่จะไปให้ถึงความดับโลก ถึงหนทางที่ไม่ต้องเกิดแก่เทพบุตร โดยแนะนำหนทางสายกลาง ให้นำใจกลับเข้ามาสู่ภายในตรงศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ในกายยาววา หนาคืบ กว้างศอกนี่แหละ ทรงสอนให้ทำนิโรธ คือ ทำใจให้หยุดอยู่ที่กลางกาย
เมื่อจบกระแสพระดำรัส เทพบุตรก็สามารถทำใจหยุดนิ่ง จนกระทั่งได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน ในขณะนั้นเองเทพบุตรได้กล่าวสรรเสริญพระพุทธองค์ว่า "เป็นผู้รู้แจ้งโลก รู้ถึงที่สุดโลก ที่สุดแห่งทุกข์ ไม่มีใครที่จะเลิศยิ่งกว่าพระองค์อีกแล้ว ทั้งในเทวา และมนุษย์ทั้งหลาย"
เราจะเห็นได้ว่าวิธีการของพระพุทธองค์ ที่จะไปให้ถึงที่สุดของโลกนั้น ต้องทำใจหยุดในกลางกายฐานที่ ๗ ไม่ต้องมัวเสียเวลาแสวงหายานพาหนะใดๆ ไม่ต้องใช้พละกำลังออกแรงให้เหน็ดเหนื่อย เพียงแค่ทำใจหยุดใจนิ่งอย่างเดียวเท่านั้น
ถ้าฝึกใจให้หยุดได้ เดี๋ยวก็สำเร็จหมด รู้ได้หมดโลก หมดภพ ทั้งกามภพ รูปภพ อรูปภพ ภพสาม นิพพาน โลกันตร์ จะอยู่ที่ตรงไหน หรือละเอียดลึกซึ้งเพียงใด ใจไปถึงได้ทั้งนั้น
เพราะใจที่หยุดนิ่งดีแล้ว จะมีอานุภาพยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลก ไม่มีสิ่งใดที่เร็วกว่าใจ และไกลเกินกว่าที่ใจจะไปถึงได้ เพราะทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจดังนั้น เราจึงควรหมั่นฝึกใจให้หยุดนิ่ง อย่าเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ ให้เอาใจมาหยุดที่ศูนย์กลางกายฐานที่ แล้วทุกอย่างก็จะสำเร็จได้ดังใจปรารถนา
โอวาทคุณครูไม่ใหญ่
(วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๒)
รวมพระธรรมเทศนา หน้า ๗๘-๘๔
ภาพจาก เพจการบ้าน
1
บันทึก
52
10
63
52
10
63
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย